หมายเหตุ : สามารถรับชมคลิปเต็มได้ที่ด้านล่างบทความค่ะ

        ต้องบอกเลยว่ากาลเวลาไม่สามารถทำอะไรได้เลย สำหรับ "อั๊ต อัษฎา พานิชกุล" อดีตดาราหนุ่มที่ยังคงความสดใสหล่อเหลาไว้เหมือนเดิม เพิ่มเติมความน่ารักขึ้นด้วยความเฟรนด์ลี่ ที่ไม่ว่าใครอยู่ใกล้ก็อยากจะคว้าหัวใจมาครอง

        และล่าสุดเจ้าตัวได้มาอัปเดตชีวิต ผ่านรายการ ต้มยำอมรินทร์ หลังเริ่มต้นจากที่หายไปจากหน้าจอ ซึ่งเจ้าตัวแจงว่า หลังกลับมาอยู่เมืองไทยมากขึ้น ในช่วงหลัง ๆ ที่หายไปเพราะสนุกกับการอยู่เบื้องหลังและการบริหารงานมากกว่า ส่วนเรื่องของหัวใจตอนนี้ยังว่างไร้คนจับจอง เหตุเพราะถูกสาปให้เป็นโสดตลอดชีวิต

เห็นว่ารูปร่างหน้าตาแบบนี้ จริง ๆ แล้วมีมุมที่เป็นข้อด้อย เป็นปมในใจที่โดนล้อมาตลอด ผอมเกินไปเป็นกุ้งแห้ง ?

        อั๊ต อัษฎา : จริง ๆ โดนล้อมาตลอด สมัยที่โตที่อเมริกา คือจะตัวเล็กสุดในชั้น ในโรงเรียน เราก็จะมีฉายาเลย เพราะเขาจะเรียกเราว่า ตัวเล็ก หรืออีกชื่อ ไอ้เกี๊ยวแห้ง เวลาเขานึกถึงคนเอเชีย เขาก็จะนึกถึงเกี๊ยวทอด เปาะเปี๊ยะ ครับ

พอเราโดนล้อตอนนั้น เราเลยอยากจะอ้วนเลยเหรอ ?

        อั๊ต อัษฎา : พอเรามาถึงจุดหนึ่งในชีวิตที่เราสามารถให้มันอ้วนได้ เพราะว่าตอนที่เล่นละคร คือก่อนที่เราจะไปทำงานที่สิงคโปร์ เรากินเวย์กับโปรตีน แค่อยากรู้ว่าเราจะเพิ่มน้ำหนักได้ไหม มีช่วงหนึ่งที่เพิ่มได้มาประมาณ 4 กิโล จริง ๆ แล้วมันตลกนิดหนึ่ง คือเวลาเรากินเราต้องออกกำลังกายด้วยไง แต่เรากินแล้วมันก็เริ่มบวม ๆ เราก็ออกกำลังกาย แต่มันก็ต้องฟิต ๆ ช่วงนั้นเราไม่ได้ฟิตมาก ท้องของเราก็จะป่อง ๆ มาก จำได้เวลาที่เราเดินไปไหนมาไหนตอนนั้นเรายังมีความซ่าอยู่ เวลาเราเจอพี่ ๆ เราก็จะเปิดเสื้อให้เขาดูให้เขาเห็นว่าเราอ้วนแล้วนะ พี่ ๆ เขามองแล้วทำหน้าขยะแขยงมาก ทำให้เรารู้ว่าจริง ๆ คนเราไม่มีความพอดี คนอ้วนอยากผอม คนผอมอยากอ้วน

กลับมาถามถึงเรื่องงานกันบ้าง เห็นว่าช่วงหลังนี้หายหน้าหายตาไป หลายคนเข้าใจว่ายังทำงานอยู่สิงคโปร์ แต่จริง ๆ แล้วเรากลับมาอยู่ที่เมืองไทยแล้ว แต่ทำไมเรายังไม่ค่อยได้เห็นหน้าอั๊ตเท่าไหร่ เพราะอะไร ?

        อั๊ต อัษฎา : น่าจะเป็นเพราะว่าผลงานที่อยู่หน้ากล้องจะไม่ค่อยได้เห็น แต่จริง ๆ ผมกลับมาได้สักประมาณ 4-5 ปีแล้ว แล้วก็ที่หายไปไม่ได้ไปไหน แต่ไปอยู่เบื้องหลังซะส่วนมาก เป็นการบริหารงานพวกคอนเทนต์ครับ ตอนที่กลับมาแรก ๆ คือมาบวช และหลังจากบวชคือเราทำงานให้กับช่องภาษาอังกฤษประมาณ  2 ปี แล้วต่อมาเราก็ได้มาบริหารเกี่ยวกับคอนเทนต์ หลังจากนั้นเราก็กลับไปที่สิงคโปร์ กลับไปเป็นที่ปรึกษา พอกลับมาที่ไทยอีกครั้งเราก็ได้ทำงานให้กับ JOOX ที่เป็นแอปฯ เกี่ยวกับเพลง แต่ในส่วนที่เราทำคือในส่วนของอีเวนต์ แล้วก็หลังจากนั้นเราก็ไปทำงานให้กับทาง TrueID แล้วก็ได้ออกก่อนช่วงที่จะมีการระบาดที่ผ่านมา

คือช่วงที่หายไป อั๊ตไปทำงานออฟฟิศเลย ?

        อั๊ต อัษฎา : ใช่ครับ เลยทำให้การทำงานเบื้องหน้าของเราน้อยลง เพราะเราต้องไปโฟกัสงานประจำแบบเต็มที่

เรารู้สึกไหมว่าไม่สนุกเลยที่ไปทำงานออฟฟิศ เพราะทำงานในวงการบันเทิงสนุกกว่า เพราะอิสระกว่า ได้เงินเยอะกว่า เราเคยคิดแบบนี้ไหม ?

        อั๊ต อัษฎา : จริง ๆ ในแต่ละงานที่ทำ เราก็ได้มีการแบ่งเวลาเพื่อมาทำคอนเทนต์ บางคอนเทนต์เราก็ออกมาทำหน้าที่พิธีกรกับน้องที่เรากำลังปั้น ก็ไม่ได้หายไปซะทีเดียว ก็ใช้ความรู้ความสามารถที่เรามีถ่ายทอดให้กับน้อง ๆ อีกครั้ง ตอนที่ทำ JOOX เหมือนกับเป็น TV กับ Chanel V สมัยก่อน เพราะเรามีการไปสัมภาษณ์ บุกห้องซ้อม หรือมีการไลฟ์แบบสด ด้วยการเอาศิลปินมาสัมภาษณ์ เราก็ลงไปเป็นพิธีกรช่วยตรงนั้นด้วยในบางครั้ง เพื่อประกบน้องที่เป็นพิธีกร

ถามเรื่องงานกันมามากพอแล้ว มาถามเรื่องที่ทุกคนอยากรู้กันดีกว่า ตอนนี้ สถานะคืออะไร ?

        อั๊ต อัษฎา : โสดครับ

โสดอย่างตั้งใจ หรือยังไง ?

        อั๊ต อัษฎา : คือ ถ้าโสดแบบธรรมชาติ มันก็ไม่ได้ตั้งใจที่จะโสด คืองี้นะครับ เราเป็นคนที่เฟลิร์ตบ่อยมาก แต่ที่โสดก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมถึงโสด ตอนนี้ยังไม่มีใคร

คือไม่มีคนเข้ามา เราไม่มองใคร หรือเราตั้งใจไม่มีแฟน อยากอยู่คนเดียว ?

        อั๊ต อัษฎา : โดยนิสัย พื้นฐานคือเป็นคนที่อยู่คนเดียวได้ เพราะว่ามีโลกส่วนตัวสูง เพราะตั้งแต่สมัยเด็กแล้ว ดีกรีของความเหงาของตัวอั๊ตจะไม่ได้มีเท่าคนอื่นเขา เหมือนอย่างช่วงนี้โสดก็ไม่ได้รู้สึกว่าเป็นอะไรมาก โสดได้

แต่จริงหรือเปล่าที่มีคนสาปแช่ง ไม่ให้มีแฟนตลอดชีวิต ?

        อั๊ต อัษฎา : ใช่ !! โดนสาป ที่เรารู้สึกเพราะถ้าเป็นคนอื่นสาปเราจะไม่ค่อยรู้สึกอะไรนะ แต่คนที่สาปเราคือคุณแม่ คือคุยกับแม่เล่น ๆ แม่เขาบอกเราว่าเขาไปดูดวงมาว่า ลูกจะไม่มีดวงมีคู่ จะไม่มีแฟน เพราะหน้าที่ของลูกคือดูแลพ่อแม่ คือตอนที่เราได้ยินแม่พูดตอนนั้นเราเอ๋อเลย แม่พูดได้ยังไง

เชื่อในคำสาปนั้นไหม ?

        อั๊ต อัษฎา : ไม่เชื่อครับ

แปลว่าหัวใจก็ยังเปิดรับ ?

        อั๊ต อัษฎา : คือที่บอกว่าโสดไม่ใช่ไม่มีใครเลยนะครับ ไม่ได้ปิดหัวใจนะ แค่ช่วงนี้มันโสด แต่ถ้ามีใครเข้ามาก็โอเค

แล้วใครคนนั้นที่จะเข้าไปได้ต้องเป็นคนแบบไหน ?

        อั๊ต อัษฎา : ชอบผู้หญิงเก่ง กล้าแสดงออก ชอบผู้หญิงที่มีความเป็นผู้หญิง ชอบผู้หญิงที่กล้าแสดงความคิดเห็นที่สามารถพูดคุยคิดร่วมไปกับเราได้ ที่มีความคิดเป็นของตัวเอง สมัครมาได้เลยนะครับทางอินสตาแกรมของผม ทักมาได้เลยนะครับ

ชมคลิป

คลิปเปิดไม่ออก >>> กดตรงนี้ คลิ๊ก !!!! <<<

ที่มา : รายการ ต้มยำอมรินทร์, CHANGE2561, Instagram whatheutt