หนุ่มวัย 30 กลุ้มใจ อยากหางานใหม่ สัมภาษณ์ที่ไหนก็ถูกปฏิเสธ เพราะเรียนไม่จบ ไม่มีวุฒิ ไม่มีใบปริญญา
คอมเมนต์:
ตั้งแต่เด็กเราถูกปลูกฝังมาว่า "ปริญญา" เป็นสิ่งสำคัญที่บริษัทใช้พิจารณาในการรับเข้าทำงานและเพิ่มโอกาสที่จะได้ทำงานตำแหน่งสำคัญต่าง ๆ ในบริษัทเอกชนหรือหน่วยงานรัฐ แต่ถ้าพูดตรง ๆ ใบปริญญาก็คือกระดาษแผ่นหนึ่ง แต่ความรู้ของคนที่มีชื่ออยู่บนปริญญานั้นต่างหากที่สำคัญและมีคุณค่า บริษัทที่กำลังหาคนเข้าทำงาน ก็ต่างต้องการคนที่มีความรู้ความสามารถ เหมาะกับงานของเขาทั้งนั้น
แต่ต้องยอมรับเลยว่าส่วนใหญ่แล้ว ผู้สมัครงานกับหัวหน้างานที่มีอำนาจตัดสินใจรับคนนั้นไม่ได้รู้จักกันมาก่อน การที่จะรู้ว่าผู้สมัครมีความสามารถจริงไหมเพื่อคัดกรองเบื้องต้น ก็เลยต้องดูจากสิ่งที่การันตีว่าเขาผ่านการศึกษาด้านนี้มาจริง ๆ ซึ่งก็คือปริญญานั่นเอง เช่นเดียวกับที่เมื่อเร็ว ๆ นี้ สมาชิกหมายเลข 4626879 เว็บไซต์พันทิปดอทคอม ได้ออกมาตั้งกระทู้หัวข้อ "ชีวิตไม่มีปริญญา ทำงานเงินเดือน 40k เจอทางตัน หางานใหม่ไม่ได้ ทำงานเหมือนตายทั้งเป็น อยากได้คำแนะนำครับ"
Sponsored Ad
พร้อมกับได้ระบุข้อความว่า ปัจจุบันตนอายุ 30 ปีแล้ว และเรียนไม่จบ โดยที่ก่อนหน้านี้ตนทำงานอยู่ที่บริษัทแห่งหนึ่งมาเป็นเวลา 5 ปี ซึ่งตอนที่สมัครเข้าทำงานตนไม่มีวุฒิการศึกษาและไม่มีใบปริญญา โดยหัวหน้าเก่าได้กล่าวว่า "ของแบบนี้มันฝึกกันได้" จึงทำให้ตนได้เข้าทำงานในบริษัทดังกล่าว โดยใช้ความสามารถด้านการฟัง พูด อ่าน เขียนภาษาอังกฤษที่ดีมากในการทำงาน
ตนเริ่มทำงานจากตำแหน่งที่เล็ก ๆ ก่อนจะค่อย ๆ ได้รับการเลื่อนตำแหน่งที่สูงขึ้นเรื่อย ๆ จนกระทั่งได้เลื่อนตำแหน่งเป็นหัวหน้าทีม และหลังจากนั้นตนก็ทำได้ไม่ถึงปี ตนก็มีโอกาสได้ไปทำงานกับฝ่ายพัฒนาบุคคลากรขององค์กร และนี่คือจุดเปลี่ยนของทุกอย่าง เพราะหลังจากที่ได้ตำแหน่งฝ่ายพัฒนาบุคคลากรแล้ว และทำต่อมาเรื่อย ๆ จนตำแหน่งของตนเปลี่ยนเป็น "ผู้อาวุโส" เรียบร้อยแล้ว ตอนนี้ตนมืดแปดด้านมาก ๆ เมื่อจากตนหางานใหม่ที่ไหนไม่ได้เลย ด้วยความที่ไม่มีวุฒิการศึกษา ตนสัมภาษณ์งานมาเกือบ 10 แห่ง คุณสมบัติได้ แต่วุฒิไม่มี คือไม่ได้ไปต่อเลย
Sponsored Ad
โดยสมาชิกท่านดังกล่าวยังได้ไขข้อสงสัยต่าง ๆ เพิ่มเติมอีกว่า งานที่ทำอยู่ตอนนี้คืองานสอนทักษะวิชาชีพต่าง ๆ ภายในองค์กร พัฒนาบุคคลากรต่าง ๆ โดยสอนทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ และที่ไม่เรียนไปด้วยทำงานไปด้วยก็เพราะว่า เวลาพักผ่อนแทบไม่มีเลย แต่ตอนนี้ก็กำลังมอง ๆ หาที่ลงเรียนออนไลน์เอาเหมือนกัน
และถ้าถามว่าเงินเดือนขนาดนี้แล้ว ทำไมไม่ทำต่อในบริษัทเดิม สมาชิกท่านดังกล่าวก็ได้เผยว่า เพราะอิ่มตัวมาก ๆ แล้ว ทำงานด้วยความอึดอัดใจมาเป็นปี ๆ จนตอนนี้เป็นโรคนอนไม่หลับไปแล้ว บวกกับเพื่อนร่วมงานที่ไม่มีใจอยากพัฒนาอะไรต่อด้วย รู้สึกเอื่อยและทำงานไร้จุดหมายมาก ๆ ตนจึงอยากเอาความสามารถที่มีไปพัฒนาต่อยอดกับที่ใหม่ ๆ อยากได้ความท้าทายใหม่ ๆ เพราะตอนนี้งานที่ทำอยู่ตันไปหมดแล้ว ตอนนี้ตนหมดแรงใจ หมดแรงไฟ ทำงานแบบไม่มีความสุขเลย ลำบากใจมาก
Sponsored Ad
ซึ่งหลังจากโพสต์ดังกล่าวได้ถูกเผยแพร่ออกไปก็มีชาวเน็ตเข้าไปแสดงความคิดเห็นกันเป็นจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็นอย่ารีบหาใหม่เลยตอนนี้ เงินเดือนมากกว่า 40,000 บาทไม่ได้หากันง่าย ๆ นอกจากนี้ก็มีแนะนำให้เจ้าของกระทู้ดังกล่าวไปเรียนเพิ่มเติมก่อน เพราะหากเรียนไม่จบโอกาสเข้าไปทำงานยากมาก ๆ ด้วยอายุและเงินเดือน ซึ่งก็มีชาวเน็ตบางท่านได้แนะนำว่า หากถนัดด้านภาษามาก ๆ ลองสอบวัดความรู้ทางภาษาและนำไปยื่นประกอบสมัครงานดูน่าจะพอช่วยได้
ความคิดเห็นจากชาวเน็ต
.
Sponsored Ad
.
.
.
.
ถ้าจะบอกว่าใบปริญญาเป็นแค่กระดาษแผนนึงก็อาจจะพูดได้ แต่กระดาษแผ่นนี้แหละที่เป็นเหมือนตั๋วสำหรับโอกาสที่จะได้เข้าทำงาน ซึ่งอาจจะมีส่วนสำคัญในการเพิ่มโอกาสได้งานมากกว่าคนที่ไม่มีปริญญา แต่อย่างไรก็ตามก็ต้องยอมรับว่ายุคที่เทคโนโลยีก้าวหน้ามากขึ้นมนุษย์เราสามารถเข้าถึงข้อมูลความรู้ได้กว้างขวางและหลากหลาย โดยที่ไม่จำเป็นต้องเรียนรู้จากในมหาวิทยาลัย หรือโรงเรียนเพียงอย่างเดียว รวมทั้งมีช่องทางในการประกอบอาชีพโดยไม่ต้องเป็นลูกจ้างคนอื่นหลายช่องทาง บางคนประสบความสำเร็จเป็นมหาเศรษฐีโดยที่ไม่ได้เรียนจบปริญญาตรีด้วยซ้ำ เพียงแค่มีความสามารถและไม่หยุดที่จะศึกษาหาความรู้นอกห้องห้องเรียน
Sponsored Ad
สุดท้ายแล้วการมีหรือไม่มีใบปริญญาไม่ได้เป็นบทพิสูจน์ความสำเร็จในชีวิต สำหรับคนที่กำลังเรียนปริญญาหรือกำลังลังเลกับการเรียนต่อ ปริญญาตรีถือเป็นวุฒิพื้นฐานที่เหมาะแก่การลงทุน ไม่อยากให้มองว่าเรียนเพื่อได้วุฒิ แต่อยากให้มองจุดประสงค์ที่แท้จริงของการเรียน เพราะกระดาษราคาแพงใบนี้ไม่ใช่ปลายทาง แต่รางวัลที่แท้จริง คือความรู้และประสบการณ์ที่เราได้จากการเรียน สำหรับคนที่ไม่มีวุฒิปริญญาตรี ก็ใช่ว่าจะไม่มีโอกาสในการทำงานดี ๆ เพราะมีรอบตัวเรายังมีสิ่งให้ได้เรียนรู้อีกมากเช่นกัน
