"ยายวัย 89" ลั่นไม่ขอรับเงินบริจาค จะพยายามหาเงินใช้หนี้ค่าเบี้ยคนชราคืนเอง ทนายชี้ ยายไม่ผิด

คอมเมนต์:

ไม่อยากให้เรื่องบานปลาย ห่วงสภาพจิตใจแม่ ยันไม่เปิดบัญชีรับบริจาค! ลูกสาวยายบวนกล่าว

    จากกรณีดังที่เป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ของสังคม เมื่อกรมบัญชีกลางมีหนังสือเรียกเก็บเงินเบี้ยผู้สูงอายุคืน กับคุณยายบวน อายุ 89 ปี รวมเป็นเงินกว่า 84,400 บาท โดยเจ้าหน้าที่ยืนยันว่ายายต้องจ่าย เพราะรับเงินซ้ำซ้อนกับเงินบำนาญลูกชาย (อ่าน : คุณยายวัย 89 ถูกเรียกเก็บค่าเบี้ยคนชราคืน 10 ปี หลังตรวจพบว่าไม่มีสิทธิ์ ยันยังไงก็ต้องจ่าย)

    ซึ่งเมื่อเรื่องราวดังกล่าวเป็นที่จับตามองของสังคม ต่อมาทางเจ้าหน้าที่ อบต.เจริญสุข จ.บุรีรัมย์ จึงได้หารือแนวทางการช่วยเหลือยายบวน โดยหากผ่อนชำระภายใน 1 ปี ก็จะไม่มีดอกเบี้ย ซึ่งตกอยู่ที่เดือนละ 7,030 บาท แต่ถ้าเกิน 1 ปี ต้องคิดอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปี

 

Sponsored Ad

 

    ทางด้านคุณยายบวนและลูกหลาน ได้ออกมาเปิดใจให้สัมภาษณ์ว่าจะพยายามหาเงินมาจ่ายค่าเบี้ยคนชราที่ถูกเรียกย้อนคืนทั้งหมดให้กับกรมบัญชีกลาง แต่ขอยืดเวลาจาก 1 ปีเป็น 20 เดือน เนื่องจากหาเงินมาคืนภายในระยะเวลา 1 ปีไม่ทัน

 

Sponsored Ad

 

    โดยตอนนี้ยังคงรอคำตอบจากทาง อบต. ว่าจะสามารถยืดระยะเวลาการชำระหนี้ให้ได้หรือไม่ หากตามระเบียบไม่สามารถทำได้ ทางลูกหลานจะพยายามหาเงินมาจ่ายคืนให้ครบทุกบาททุกสตางค์ เพราะเข้าใจว่าเงินดังกล่าวเป็นเงินหลวง ส่วนทางด้านลูกสาวยายบวน ยอมรับว่าเครียดมาก แต่ไม่ขอโทษว่าใครผิด ไม่อยากให้เรื่องบานปลาย ห่วงสภาพจิตใจแม่ ยันไม่เปิดรับบริจาคเพราะกลัวจะมีดราม่า

    ด้านทนายสงกานต์ อริยทรัพย์ ได้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับกรณีของคุณยายบวน ระบุว่ากรณีนี้เคยเกิดขึ้นเมื่อปี 2558 มีผู้เป็นทายาทหลายคนได้รับเงินโอนจากทางภาครัฐเป็นเงินบำนาญของพ่อ แม่ ผู้ปกครองที่เสียจากการปฏิบัติหน้าที่มากว่า 10 ปี แต่ถูกฟ้องและเรียกดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปี ได้รับความเดือดร้อนจากความผิดพลาดของการทำงานของเจ้าหน้าที่

 

Sponsored Ad

 

ภาพจาก เฟซบุ๊ก ทค.สงกานต์ อัจฉริยะทรัพย์

    โดยในกรณีนี้ จะถือว่าเป็น "ลาภมิควรได้" ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 412 ถ้าทรัพย์สินที่ยายบวนรับไว้โดยสุจริตแล้วนั้น คือยายบวนต้องคืนเพียงส่วนที่มีอยู่ในขณะเมื่อเรียกคืนเท่านั้น พร้อมย้ำว่าหากยายบวนไม่มีก็ไม่ต้องคืน

    ขณะเดียวกัน ทางนายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ก็พร้อมที่จะเข้าช่วยเหลือจ่ายหนี้ให้แทนคุณยาย คืนหน่วยงานกรมบัญชีกลาง โดยขอให้ทางคุณยายหรือลูกหลานสามารถติดต่อมาได้เลย

ภาพจาก เฟซบุ๊ก ชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม

ที่มา : เฟซบุ๊ก ทค.สงกานต์ อัจฉริยะทรัพย์, เฟซบุ๊ก ชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม

บทความแนะนำ More +

บทความที่คุณอาจสนใจ