เปิดค่าเทอมโรงเรียน "น้องข้าวหอม" ทายาทหมื่นล้าน ลูกชายหัวแก้วหัวแหวน "ตั๊ก บงกช"

คอมเมนต์:

"ถ้าโรงเรียนเปิดแล้ว แต่ยังไม่มีวัคซีน ก็จะไม่ให้ลูกไปเรียน เพราะตั๊ก มีลูกคนเดียว มองว่าความรู้เป็นรอง สุขภาพสำคัญกว่า" ตั๊ก บงกช กล่าว

        เรียกได้ว่าเป็นโรงเรียนที่ผลิตแต่นักเรียนที่มีคุณภาพออกมาสู่สังคมมากมายเลยจริง ๆ สำหรับ โรงเรียนสาธิตพัฒนา 

        สำหรับ โรงเรียนสาธิตพัฒนา นั้นเป็นโรงเรียนที่ได้รับความไว้วางใจจากคุณพ่อคุณแม่หลายคนเช่นเดียวกับคุณแม่ ตั๊ก บงกช ที่ส่ง น้องข้าวหอม ทายาทหมื่นล้าน ลูกชายสุดน่ารักเข้าไปศึกษาที่โรงเรียนแห่งนี้ด้วยนั่นเอง

 

Sponsored Ad

 

        ครั้งนี้เราก็อยากจะขอนำเสนอค่าเทอมและเป้าหมายของ โรงเรียนสาธิตพัฒนา ให้ได้ศึกษากันว่า โรงเรียนแห่งนี้เหมาะกับคุณพ่อคุณแม่ที่กำลังหาโรงเรียนดี ๆ สักแห่งให้ลูกของตัวเองเรียนรึเปล่า

 

Sponsored Ad

 

        โรงเรียนสาธิตพัฒนาเป็นสถานศึกษาขั้นพื้นฐานชั้นแนวหน้าของประเทศ ในด้านการจัดการศึกษาเพื่อพัฒนาผู้เรียนให้มีความเป็นผู้นำในการสร้างสรรค์โลกที่มีหัวใจประชาธิปไตย กล้าแสดงออก มีทักษะชีวิต คิดเชิงบวก สามารถสื่อสารได้ในระดับนานาชาติ เป็นพลเมืองไทย และพลเมืองโลกที่มีความสุขอย่างยั่งยืน

ค่าธรรมเนียมการศึกษา/ภาคเรียน

 

Sponsored Ad

 

        - เตรียมอนุบาล - อนุบาล 3 ค่าธรรมเนียม 50,000 บาท

        - ประถมศึกษาปีที่ 1 ค่าธรรมเนียม 62,500 บาท

        - ประถมศึกษาปีที่ 2 ค่าธรรมเนียม 67,500 บาท

        - ประถมศึกษาปีที่ 3 ค่าธรรมเนียม 72,500 บาท

        - ประถมศึกษาปีที่ 4 - 6 ค่าธรรมเนียม 75,000 บาท

        - มัธยมศึกษาปีที่ 1 - 6 ค่าธรรมเนียม 80,000 บาท

        สำหรับนักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 1-2 จะเรียนอย่างสนุกสนาน (FUN) และมีความสุขในการเรียนรู้ โดยสัมผัสความสนุกสนาน และความสุขจากตลาดนัดวิชาการ ซึ่งโรงเรียนได้จัดให้มีขึ้นภาคเรียนละ 1 ครั้ง ครั้งละ 15-25 ชั่วโมง รวม 30-50 ชั่วโมง/ปี หรือร้อยละ 3-5 ของเวลาเรียนทั้งหมด นักเรียนได้เรียนในวิชาที่เป็นทักษะชีวิตที่ควรเรียนรู้ โดยการเรียนตามโปรแกรมและเลือกเรียนที่ตนเองสนใจจำนวน 1 โปรแกรม จากโปรแกรมที่ครูเตรียมไว้ให้ในแต่ละระดับชั้น ซึ่งมีการปรับเปลี่ยนได้ตามความเหมาะสม

 

Sponsored Ad

 

        นักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 5-6 มีโอกาสได้ค้นพบและเจาะลึก (FOCUS) ศักยภาพที่ตนเองมีได้มากขึ้น โดยโรงเรียนจัดหลักสูตรกลุ่มสาระการเรียนรู้ที่เน้นทางด้านทักษะ ได้แก่ กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ (ดนตรี นาฏศิลป์และทัศนศิลป์) และกลุ่มการงานอาชีพและเทคโนโลยี 

 

Sponsored Ad

 

        ซึ่งเป็นวิชาบังคับเลือก นักเรียนจะได้เลือกเรียนตั้งแต่เปิดเรียนภาคแรกของปีการศึกษา และเปิดโอกาสให้มีการเรียนร่วมกันในรายวิชาบังคับเลือกระหว่างนักเรียนทั้ง 2 ระดับ

        นักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1-6 นักเรียนจะได้รับการส่งเสริมและให้โอกาสในในการเติมเต็ม (FULFILLMENT) เพื่อต่อยอดความสามารถตามศักยภาพของแต่ละคน ด้วยการเลือกเรียนในรายวิชาพื้นฐานที่ทุกคนต้องเรียน แต่สามารถเลือกเรียนรายวิชาบังคับเลือก ของกลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ (ดนตรี นาฏศิลป์ และทัศนศิลป์) กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษา และพลศึกษา และกลุ่มการงานอาชีพและเทคโนโลยีได้ รวม 190-228 ชั่วโมง/ปี และเลือกเรียนในรายวิชาเลือกเสรี ที่มีเนื้อหาครอบคลุมทั้งด้านวิชาการและทักษะ รวม 75 ชั่วโมง/ปี

 

Sponsored Ad

 

        นักเรียนรู้จักคิด รู้จักตัดสินใจ รู้จักเลือกสรรสิ่งที่ดี ๆ มีคุณค่า มีประโยชน์ต่อตัวเอง และมีภูมิคุ้มกันที่จะปกป้องตนเองจากสิ่งต่าง ๆ ได้ โดยเฉพาะนักเรียนมัธยมศึกษาตอนปลาย จะได้รับการส่งเสริมเติมเต็ม เพื่อพัฒนาศักยภาพของแต่ละบุคคล อันจะส่งผลต่อการรู้จักคิดและตัดสินใจเลือกเรียนในสาขาวิชาชีพของคณะต่าง ๆ ในมหาวิทยาลัยได้ถูกต้อง และเหมาะสมกับความรู้ความสามารถ และศักยภาพของตนเอง (FRUITION)

Sponsored Ad

        สำหรับระดับมัธยมศึกษานั้น การศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนต้น (ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1-3) เป็นช่วงสุดท้ายของการศึกษาภาคบังคับ มุ่งเน้นให้ผู้เรียนได้สำรวจความถนัด และความสนใจของตนเอง ส่งเสริมการพัฒนาบุคลิกภาพส่วนตน มีทักษะในการคิดวิจารณญาณคิดสร้างสรรค์ และคิดแก้ปัญหามีทักษะ ในการดำเนินชีวิต มีทักษะการใช้เทคโนโลยีเพื่อเป็นเครื่องมือในการเรียนรู้ มีความรับผิดชอบต่อสังคม มีความสมดุลทั้งด้านความรู้ความคิด ความดีงาม และมีความภูมิใจในความเป็นไทย ตลอดจนใช้เป็นพื้นฐาน ในการประกอบอาชีพ หรือการศึกษาต่อ

        การศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย (ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4-6) เน้นการเพิ่มพูนความรู้และทักษะเฉพาะด้าน สนองตอบความสามารถ ความถนัด และความสนใจของผู้เรียนแต่ละคนทั้งด้านวิชาการ และวิชาชีพ มีทักษะในการใช้วิทยาการ และเทคโนโลยี ทักษะกระบวนการคิดขั้นสูง สามารถนำความรู้ไปประยุกต์ ใช้ให้เกิดประโยชน์ในการศึกษาต่อ และการประกอบอาชีพ มุ่งพัฒนาตน และประเทศตามบทบาทของตน สามารถเป็นผู้นำ และผู้ให้บริการชุมชนในด้านต่าง ๆ

.

.

        อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้มีรายงานว่า คุณแม่ตั๊ก บงกช เคยได้ออกมาบอกว่า "ถ้าโรงเรียนเปิดแล้ว แต่ยังไม่มีวัคซีน ก็จะไม่ให้ลูกไปเรียน เพราะตั๊ก มีลูกคนเดียว มองว่าความรู้เป็นรอง สุขภาพสำคัญกว่า"

ที่มา : โรงเรียนสาธิตพัฒนา, Instagram bong_kod_tak, sanook

บทความแนะนำ More +

บทความที่คุณอาจสนใจ