ชาวบ้าน จ.บุรีรัมย์ ร้องไม่มีไฟฟ้าใช้มานาน 53 ปี ไม่มีหน่วยงานใด ของรัฐบาลมาช่วยเหลือได้ ทั้งที่วิ่งเต้นดำเนินเรื่องมาโดยตลอด ต้องต้มน้ำใส่แก้วรีดเสื้อ บอกเด็กให้รีบดูหนังสือ 4 หน้าก่อนเทียนดับ

    ที่บ้านประดู่ หมู่ 9 ต.ปราสาท อ.บ้านด่าน จ.บุรีรัมย์ ได้รับรายงานจาก นางสำเรียง เยาว์ลักษณ์ อายุ 53 ปี กล่าวว่า ตั้งแต่เกิดมาตนยังไม่เคยเห็นแสงไฟฟ้าในหมู่บ้าน ซึ่งตัวเองทนได้เพราะชิน สงสารแต่ลูกชั้น ม.4 ที่ใช้ชีวิตท่ามกลางความมืดอย่างยากลำบาก

    เมื่อลูกต้องมาเรียนออนไลน์ที่บ้าน ก็ต้องขับรถเข้าตัวอำเภอห่างประมาณ 10 กม. เพื่อเข้าร้านเน็ต ทำรายงานส่งครู บางครั้งได้อาศัยเพื่อนต่างหมู่บ้าน ก็เกรงใจเขา หลายครั้งลูกหลานได้ยินเขาคุยกันเรื่องละคร ก็ไม่รู้เรื่องเพราะไม่เคยดู 

    นางสำเรียง เล่าว่า อยากจะให้รัฐบาลหรือ ส.ส. มาดูแลช่วยเหลือความเดือดร้อนของชาวบ้านบ้าง เพราะพวกตนเป็นคนไทยเหมือนกัน อยากได้สิทธิ์เท่าเทียมด้านสาธารณูปโภคเหมือนคนทั่วๆ ไป อยากเห็นโทรทัศน์ อยากเห็นละครกับเขาบ้าง เคยวิ่งเต้นมาโดยตลอด แต่ได้รับคำตอบว่า "ต้องใช้งบประมาณสูง"

    ที่บ้านของนางสำเรียง ยังมีระบบโซล่าเซลล์ติดตั้งอยู่ ซึ่งมีการลงทุนไปกว่า 35,000 บาท (แผงโซล่าเซลล์ 30,000 บาท, แบตเตอรี่ 5000 บาท) แต่ใช้ระบบไฟฟ้าได้เพียงแค่หลอดแอลอีดี ซึ่งไม่สามารถชาร์จแบตหรือใช้กับเครื่องใช้ไฟฟ้าอื่นได้ หากจะรีดผ้า ต้องนำกาต้มน้ำไปต้มที่เตาแก๊ส จากนั้นเทใส่แก้วเหล็กหรืออะลูมิเนียม เพื่อใช้เป็นเตารีด

ภาพจาก amarintv

    เด็กหญิงตวิษา นิทุรัมย์ หรือ น้องฟ้า อายุ 12 ปี เผยว่า ตนเองจะอ่านหนังสือเฉลี่ยวันละประมาณ 30-40 นาที หลังจากที่แสงเทียนหมดก็จะเข้านอน อ่านหนังสือได้ 3-4 หน้า เนื่องจากแสงเทียนไม่ได้สว่างเท่าแสงไฟปกติ แต่ถ้าหากหลังจากนี้มีไฟฟ้าเข้ามาติดตั้งแล้ว ตนเองสัญญาว่าจะอ่านให้มากกว่าเดิมอย่างแน่นอน

.

ที่มา : amarintv