จากเด็ก 18 ถูกปรามาส ครอบครัวโดนโกง 20 ล้าน ก้าวขึ้นเป็นเจ้าของธุรกิจดัง "แม่ หมูสะเต๊ะ"

คอมเมนต์:

จุดเปลี่ยนชีวิต ทำให้เด็กอายุ 18 ด้วยต้นทุนติดลบ 20 ล้าน ก้าวมาเป็นเจ้าของร้านถึง 2 สาขาในวัย 22 ปี!

    สำหรับคุณแล้ว จะทำอย่างไรหากครอบครัวต้องเริ่มจากติดลบ โดนโกงไปกว่า 20 ล้านบาท แทบหมดตัว แต่สำหรับเด็กวัย 18 คนนี้ กลับลุกขึ้นมายืนหยัดเพื่อรอยยิ้มของครอบครัว สร้างธุรกิจขึ้นมาด้วยแนวคิดสุดสร้างสรรค์

    "น้องเจน" สมิทธานันท์ ธนาภิวงศ์ บอกเล่าเรื่องราวบีบหัวใจ ที่เป็นจุดเปลี่ยนในชีวิต ทำให้เด็กที่อายุ 18 ในวันนั้น ก้าวมาเป็นเจ้าของร้าน "แม่ หมูสะเต๊ะ" ถึง 2 สาขา และสามารถเปลี่ยนแปลงครอบครัวให้กลับมามีรอยยิ้มอีกครั้ง

 

Sponsored Ad

 

    ชีวิตในวัยเด็กของน้องเจนและพี่ชาย สุขสบาย ในการดูแลของ "แม่จุ๋ม" คุณแม่เลี้ยงเดี่ยวที่ทุ่มเททั้งกายใจ ทำงานหนัก เพื่อดูแลลูกๆ อย่างดี และส่งพวกเขาให้ถึงฝันที่อยากเป็น แต่โชคชะตากลับเล่นตลก เงินเก็บทั้งชีวิตที่หามาให้ลูก โดนโกงจากคนที่ไว้ใจ ทำให้สูญเงินไปกว่า 20 ล้าน เรียกว่าหมดตัว แทบล้มทั้งยืน

    จากชีวิตของสาวน้อยมัธยมปลายที่กำลังจะก้าวเข้าสู่รั้วมหาวิทยาลัย ผู้มีความฝันอยากเป็นเจ้าของรีสอร์ตและกำลังจะได้ไปเรียนปริญญาควบที่สวิตเซอร์แลนด์ ได้พลิกผันสู่บทบาทเจ้าของธุรกิจจำเป็นเพียงชั่วข้ามคืน 

 

Sponsored Ad

 

    "ตอนนั้นหนูมั่นใจในตัวเองมากค่ะ คิดว่าตัวเองฉลาด เพราะหนูเป็นคนตั้งใจเรียนและเรียนดีมากตลอด ทำกิจกรรมเยอะ ประสบความสำเร็จในรั้วโรงเรียนหลายๆ เรื่อง เลยทำให้มั่นใจว่า มันเกิดเรื่องแค่นี้เอง คนอื่นที่เขาเจอเรื่องแบบนี้ยังสู้ต่อไปได้เลย ทำไมเราจะสู้ไม่ได้ ตอนนั้นหนูมั่นใจมากเลยเริ่มทำธุรกิจเลย"

    เจนได้แรงบันดาลใจในการเริ่มต้นธุรกิจที่จะนำมาพลิกวิกฤตของครอบครัวจากสูตรอาหารของครอบครัว 

 

Sponsored Ad

 

    "คุณแม่เคยได้สูตรหมูสะเต๊ะจากเมืองตรังเมื่อสมัยที่ยังเปิดร้านอาหารอยู่ นานมากก่อนที่หนูจะเกิดอีกค่ะ ในตอนนั้น คุณแม่เลยเอาสูตรมาปรับแล้วลองทำให้คนที่บ้านกินบ้าง ให้คนที่มาร้านอาหารชิมบ้าง ลูกค้าที่ได้ชิมก็ติดใจ เขาเลยมาขอซื้อเป็นเซ็ตหลายๆ เซ็ตแล้วหิ้วไปขายต่อค่ะ แต่ตอนนั้นเราไม่ได้ขายมันจริงจังเพราะกำลังการผลิตของเรามีไม่มาก เลยกลายเป็นแค่ทุนติดตัวของที่บ้าน มีอยู่วันหนึ่ง หลังจากที่บ้านเราเจอเรื่องไม่ดีมา คุณแม่ก็ได้ทำหมูสะเต๊ะสูตรนี้ให้ทุกคนกิน หนูเลยได้ไอเดียว่าเราต้องเอาหมูสะเต๊ะนี้ไปขาย หนูอยากให้ทุกคนรู้ว่าของของหนูมันดีนะ อยากให้หลายคนได้ชิมจริงๆ"

 

Sponsored Ad

 

    "ตอนนั้น การตลาดออนไลน์ยังไม่บูมเหมือนตอนนี้ การขายหมูสะเต๊ะออนไลน์ ขายแบบฟรีเดลิเวอรี่บนเฟสบุ๊ก ยังไม่ค่อยมีใครทำ หนูเลยคิดว่าเราเป็นเจ้าแรกๆ เราต้องทำได้แน่นอน หนูมั่นใจว่าหนูทำได้ พอเปิดขายครั้งแรก หนูมีการซื้อโฆษณาบนเฟสบุ๊กด้วย ผลตอบรับมันมาเยอะมาก พวกหนูก็ไม่ได้ตั้งรับกันเลยว่าลูกค้าจะมาเยอะขนาดนี้ ข้อผิดพลาดเลยเกิดขึ้นเยอะมาก เสียบหมูไม่ทัน มีปัญหาเรื่องการจัดการเวลาว่าจะทำทันไหม ส่งทันไหม คุณภาพหมูก็ไม่ต่อเนื่องด้วย เพราะช่วงแรกๆ สูตรยังไม่คงที่ ลูกค้าก็มีติมาบ้าง ในทุกๆ ครั้งที่มีการออกไปส่ง มีการสั่งซื้อ มันก็จะมีปัญหาสักอย่างมาให้แก้ ทั้งแม่ หนู แล้วก็พี่ชายเลยต้องมานั่งคุยกันทุกครั้งว่าจะแก้ปัญหายังไง จนทุกวันนี้ปัญหามันดีขึ้น เพราะเราคุยหาทางแก้ด้วยกันในครอบครัว"

 

Sponsored Ad

 

    "ส่วนตัวหนูมองว่าวิกฤตนี้เป็นโอกาสให้หนูพัฒนาตัวเองมากขึ้นค่ะ มันทำให้หนูต้องเรียนรู้สิ่งต่างๆ เพิ่มขึ้น ปรับตัวให้เก่งมากขึ้น อดทนให้มากขึ้นด้วยค่ะ หนูคิดว่าถ้าผ่านตรงนี้ไปได้ หนูจะมีภูมิคุ้มกันในการใช้ชีวิตมากขึ้นเเน่นอนค่ะ"

    ผ่านมาราว 4 ปีแล้วที่ธุรกิจหมูสะเต๊ะของเจนยืนหนึ่งในย่านสมุทรปราการ โดยเฉพาะเรื่องของความพิถีพิถันและคุณภาพ ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ลูกค้าติดใจและเป็นปัจจัยสำคัญในการดำเนินธุรกิจของเจน 

 

Sponsored Ad

 

    "หมูสะเต๊ะสูตรแทรกมันของร้านหนูจะไม่ใช่หมูที่เป็นเนื้อล้วนแล้วเสียบก้อนมันต่อท้ายไม้ แต่จะเลือกใช้ส่วนของหมูที่มีมันแทรกอยู่ในเนื้อเลย เนื้อจะเด้งมาก เคี้ยวแล้วสู้ฟัน นุ่มหนึบ เป็นซิกเนเจอร์ของร้านหนูเลย ไม่มีที่ไหนทำแบบนี้แน่นอนเพราะต้นทุนสูง แต่คุณภาพต่างกันเยอะมาก ลูกค้าติดใจสูตรนี้มากค่ะ"

Sponsored Ad

    เริ่มต้นจากความคิด แทนที่จะจมอยู่กับปัญหา ต้องหาวิธีแก้ปัญหา พาครอบครัวที่หวิดล้มละลายเดินหน้าต่อ ยอมพักฝันด้านการเรียนของตัวเองชั่วครู่มาเป็นแม่ค้าขายหมูสะเต๊ะอยู่ในโลกออนไลน์ จนกระทั่งรายได้กลับมาอีกครั้ง

    ไม่ว่าปัญหาจะใหญ่หรือเล็ก แต่ถ้าเป็นเรื่องของคนในครอบครัว ย่อมไม่ควรละเลย น้องเจน เจ้าของเรื่องราวนี้กล่าว

ที่มา : รายการวัคซีนทีวี, amarintv

บทความที่คุณอาจสนใจ