หลายคนอาจจะเคยได้ยินเรื่องราวของ สามเหลี่ยมอาถรรพ์ที่อยู่กลางทะเล ซึ่งมีเรื่องราวลี้ลับมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการสูญหายของเรือและเครื่องบิน แต่หลายคนกลับไม่รู้ว่าจริง ๆ ที่แห่งนั้นมีเกาะมหัศจรรย์อยู่ตรงนั้นด้วย...

    เกาะเมอร์มิวดา เป็นหนึ่งในเกาะโบราณที่ถูกค้นพบเมื่อปี 1609 หรือ 412 ปีที่ผ่านมา ซึ่งมันเป็นเพียงแค่เกาะธรรมดาที่ไม่ได้มีอาถรรพ์เหมือนกับตำนานที่เราเคยได้ยินมาแต่อย่างใด

    หลายคนบอกว่า หากได้มีโอกาสไปเที่ยวเกาะเบอร์มิวดาสิ่งที่โดดเด่นสะดุดตาที่สุดบนเกาะแห่งนี้นั่นก็คือ บ้านทุกหลังที่ถูกสร้างขึ้นมาจะมีหลังคาสีขาวสว่างสดใสเหมือนกันเกือบทั้งหมด แถมรูปทรงของมันก็ดูแปลกตา เนื่องจากมีรูปทรงคล้ายกับพีระมิด

    ด้านสื่อท้องถิ่นได้ให้ข้อมูลว่า เหตุผลดั้งเดิมของการมีหลังคาในลักษณะขั้นบันไดสีขาวคือ เนื่องจากเบอร์มิวดาเป็นเกาะที่ไม่มีลำธารหรือทะเลสาบที่อยู่ถาวรบนเกาะ ดังนั้นผู้บุกเบิกในยุคแรกจึงต้องพึ่งพาน้ำฝนที่ตกลงมาเป็นแหล่งน้ำจืดเพียงแห่งเดียวเท่านั้น

    และเพื่อให้แน่ใจว่าฝนที่ตกลงมาจะไม่สูญเปล่า พวกเขาจึงสร้างหลังคาแบบขั้นบันไดเพื่อชะลอน้ำฝนที่ตกหนักและป้องกันไม่ให้รางน้ำล้น นอกจากนั้นหลังจากทั้งหมดจะถูกสร้างด้วยปูน ไม่ใช่กระเบื้อง เพื่อให้มันมีน้ำหนักมากพอที่จะต้านทานพายุเฮอริเคนได้

    สิ่งสุดท้ายก็คือ การทาหลังคาสีขาวจะช่วยสะท้อนแสงยูวีจากดวงอาทิตย์ซึ่งช่วยทำให้น้ำบริสุทธิ์ขึ้น ซึ่งหลังคารูปแบบนี้ถูกเขียนเป็นกฎหมายขึ้นมา และถูกบังคับใช้บนเกาะแห่งนี้

    แล้วรู้ไหมว่า ชาวเบอร์มิวดาก็ต้องใช้ชีวิตด้วยการประหยัดน้ำจนเป็นนิสัย พวกเขาใช้น้ำแก้วเดียวในการแปรงฟันหรือล้างหน้าเท่านั้น นั่นรวมไปถึงการใช้น้ำล้างจาน ซักผ้า และอาบน้ำเช่นกัน น้ำที่เหลือก็จะถูกนำไปใช้ในสวนต่อไป

    แต่นักท่องเที่ยวที่ไม่รู้ภูมิหลังของเกาะแห่งนี้ ต่างก็ใช้น้ำอย่างบ้าคลั่งเวลาไปพัก ณ เกาะแห่งนี้ แต่ยังโชคดีที่พวกเขายังสามารถหาวิธีเข้าถึงแหล่งน้ำจืดที่อยู่ใต้ดินได้ เลยทำให้ผู้คนไม่ได้ลำบากแร้นแค้นในการใช้น้ำมากจนเกินไป แต่มันก็มีอยู่อย่างจำกัดอยู่ดี

.

.

ที่มา : เพชรมายา, BBC