เป็นอีกหนึ่งกรณีที่ถูกพูดถึงเป็นอย่างมากในโลกออนไลน์สำหรับกรณีที่เกิดขึ้นที่ "วัดท่าพุราษฎร์บำรุง" 

        ที่มีการตรวจพบว่า มีผู้ที่เข้าบำบัดต้องใช้ชีวิตอย่างแออัดกันกว่า 200 คน ในห้องขนาด 15 เมตร มีห้องน้ำแค่ 2 ห้อง ให้กินข้าวแค่วันละมื้อ และหากผู้เข้ารับการบำบัดอยากจะออกจากศูนย์บำบัดต้องจ่ายเงินให้กับทางศูนย์เพิ่มอีก 10,000 บาท และหลังจากที่ประเด็นข่าวดังกล่าวได้ถูกเผยแพร่ออกไปก็มีชาวเน็ตเข้าไปแสดงความคิดเห็นวิพากษ์วิจารณ์ศูนย์บำบัดเป็นจำนวนมาก ซึ่งต่อมาได้มีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมีมติให้ปิดศูนย์บำบัดแล้ว รวมถึงผู้เข้ารับการบำบัดต่างได้รับการช่วยเหลือออกจากสถานที่ดังกล่าวเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

.

        และล่าสุด เรื่องเล่าเช้านี้ ได้ออกมารายงานว่า ทางเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องได้ประสานให้ผู้ปกครองของผู้บำบัดเดินทางมารับผู้บำบัดกลับบ้าน และพบว่าคงเหลือผู้บำบัดอยู่ที่โรงพยาบาลสนามทั้งสิ้น 20 คน โดยจะมีผู้บำบัดจำนวน 19 คน มีความประสงค์จะเดินทางไปอยู่ที่บ้านของหมอปลาที่จังหวัดเพชรบุรี ส่วนอีก 1 คนพูดคุยไม่รู้เรื่อง ทางเจ้าหน้าที่จึงประสานสาธารณสุขจังหวัดให้นำตัวไปรักษายังสถาบันจิตเวชต่อไป

        ซึ่ง 1 ในกลุ่มผู้เข้ารับการบำบัดที่มีความประสงค์จะไปอยู่ที่บ้านหมอปลาที่จังหวัดเพชรบุรี ก็ได้เปิดใจกับทางนักข่าวของช่อง 3 ว่า ตัวเองพูดคุยกับผู้ปกครองเรียบร้อยแล้ว ด้านผู้ปกครองก็เห็นด้วยที่จะไปอยู่ที่บ้านของหมอปลา ซึ่งตนมีความตั้งใจที่จะไปช่วยหมอปลาทำงานเท่าที่จะสามารถทำได้ 

        ทั้งนี้ยังได้เผยอีกว่ายังไม่ได้ทรัพย์สินที่ฝากไว้กับทางศูนย์บำบัดคืน ซึ่งทางผู้ปกครองได้สอบถามไปยังทางศูนย์บำบัดก็ได้ความว่า ทำลายโทรศัพท์ทิ้งไปแล้ว ส่วนเงินที่ฝากมาก็อยู่ในบัญชีของเจ้าอาวาสที่มรณภาพไปแล้วจึงยังไม่สามารถนำมาคืนได้

        ทั้งนี้ทางด้าน หมอปลา ก็ได้ออกมาเผยว่า จริง ๆ มีผู้บำบัดอีกชุดหนึ่งที่ได้เดินทางไปที่บ้านของตนล่วงหน้าแล้วจำนวน 3-4 คน ทั้งนี้หมอปลายังยืนยันอีกว่า จะดูแลเป็นอย่างดี คนไหนที่ทำงานได้ ก็จะให้ช่วยทำงาน แต่คนไหนที่ยังจำเป็นจะต้องเข้ารับการบำบัดรักษา ตนก็จะให้เข้ารับการบำบัดต่อไป เพื่อให้กลับมาเป็นคนดีของสังคมและพ่อแม่ต่อไป

ชมคลิป

คลิปเปิดไม่ออก >>> กดตรงนี้ คลิก <<<

ที่มา : เรื่องเล่าเช้านี้, เฟซบุ๊ก หมอปลาช่วยด้วย