คุณลุงชาวนา ปฏิเสธรับเงิน 180 ล้าน ไม่ยอมขายที่ ลั่นครอบครัวเราไม่สนใจเรื่องเงินทอง

คอมเมนต์:

ถ้าเป็นคุณจะยอมขายบ้านเพื่อแลกกับเงินไหม

    "บ้าน" ที่รับมรดกต่อมาจากพ่อแม่ปู่ย่าตายาย มันสร้างความรู้สึกรักและผูกพัน จนไม่อยากย้ายไปไหน เพราะนั้นคือความทรงจำอันแสนมีค่า ซึ่งซื้อด้วยเงินไม่ได้แล้ว แต่หากว่าคุณได้รับข้อเสนอซื้อบ้านและที่ดินเป็นเงินก้อนโตละ? คุณยังจะไม่ยอมย้ายออกจากบ้านหลังนี้อยู่ไหม

    สื่อนอกเผย เรื่องราวของ ทาโคาโอะ ชิโตะ ชาวนาชาวญี่ปุ่นผู้รักบ้านและฟาร์มของตัวเองจนเงินไม่อาจซื้อได้ ครอบครัวของชิโตะปลูกผักทำฟาร์มมานานกว่า 100 ปีอยู่บนที่ดินผืนนี้ มาตั้งแต่รุ่นพ่อของเขาจนไปถึงหลานสาว จนกระทั่งวันหนึ่ง พื้นที่โดยรอบถูกกว้านซื้อไปทำเป็นสนามบิน แต่พ่อของชิโตะไม่ยอมขายที่ดินของเขา

 

Sponsored Ad

 

    ในอดีต พื้นที่บริเวณนี้คือหมู่บ้านของเกษตรกรที่ประกอบไปด้วย 28 ครอบครัว รวมถึงหมู่บ้านในบริเวณใกล้เคียงอีก 66 ครอบครัวที่อาศัยอยู่ท่ามกลางทุ่งโล่ง จนกระทั่งปลายทศวรรษ 1960 ทางรัฐบาลตัดสินใจสร้างสนามบินนานาชาติโตเกียวใหม่ในเมืองซันริซูกะ (ปัจจุบันคือเมืองนาริตะ และสนามบินก็ถูกเปลี่ยนชื่อเป็นสนามบินนานาชาตินาริตะ)

 

Sponsored Ad

 

    ในขณะนั้นเองได้เกิดความขัดแย้งอย่างรุนแรงระหว่างประชาชนกับทางรัฐบาลญี่ปุ่นจนถูกขนานนามว่า “ความขัดแย้งที่ซันริซูกะ” โดยมีผู้คัดค้านการสร้างสนามบินมากถึง 17,500 คน

    ถึงแม้รัฐบาลพยายามหลีกเลี่ยงการเวนคืนที่ดิน แต่รัฐบาลก็ใช้วิธีต่าง ๆ ในการเวนคืนที่ดินของผู้อยู่อาศัยหลายคน สำหรับชาวนาในหมู่บ้านของชิโตะ ทุกคนค่อย ๆ ย้ายออกไปเพื่อแลกกับเงินก้อนโต ยกเว้นแต่คุณพ่อของชิโตะที่ปฏิเสธเงินข้อเสนอกว่า 180 ล้านเยน (ประมาณ 53 ล้านบาท) ซึ่งมีมูลค่าเทียบเท่ากับการทำฟาร์มไปถึง 150 ปี โดยทุกคนในครอบครัวไม่สนใจเรื่องเงินทอง แต่พวกเขาต้องการทำฟาร์มต่อไปมากกว่า

 

Sponsored Ad

 

    หลังจากคุณพ่อของชิโตะจากไปในวัย 84 ปี เขาได้ลาออกจากการทำงานภัตตาคารเพื่อกลับไปดูแลฟาร์มของครอบครัว

 

Sponsored Ad

 

    “ดินที่นี่มีคุณภาพดี เพราะมันถูกเก็บเกี่ยวมานานกว่า 100 ปีแล้ว การปลูกผัก เก็บเกี่ยวพืชผล และการส่งของคุณภาพดีให้กับลูกค้าพึงพอใจ คือสิ่งที่ทำให้เรามีความสุข” ชิโตะกล่าว

    “ตลอดปี เราปลูกแครอท, หอมใหญ่, กระเทียม, ต้นหอม รวม ๆ แล้วมีผักกว่า 10 ชนิดด้วยกัน ทั้งหมดถูกปลูกแบบธรรมชาติ การทำฟาร์มเป็นงานที่หนักจนผมไม่ค่อยมีเวลาว่าง แต่ในเวลาว่างผมก็จะไปดื่มสังสรรค์และร้องคาราโอเกะเสมอ”

 

Sponsored Ad

 

    ส่วนผลกระทบในช่วงนี้ ชิโตะกล่าวว่า มันไม่ได้ส่งผลอะไรกับเขาแม้แต่น้อย แถมอากาศยังบริสุทธิ์ขึ้น บ้านของเขาก็เงียบสงบขึ้น เพราะการจราจรทางอากาศน้อยลง

.

 

Sponsored Ad

 

    แต่ความสุขของชิโตะและครอบครัวอาจไม่ยั่งยืน เพราะในเดือนธันวาคมปี 2018 ศาลท้องถิ่นของจังหวัดชิบะได้ตัดสินให้มีการบังคับคดีบนที่ดินของชิโตะ ซึ่งมันจะกลายเป็นรันเวย์ที่ 2 ของสนามบินนาริตะ

Sponsored Ad

.

    แต่ในอีกไม่กี่วันต่อมา ศาลอีกแห่งได้ตัดสินให้หยุดการบังคับคดีเอาไว้ก่อน จนกว่าจะมีการพิจารณาคดีในศาลสูงโตเกียวจะเริ่มขึ้นในปีถัดไป

    ปัจจุบัน ชิโตะกับครอบครัวกลายเป็นสัญลักษณ์ของการต่อสู้เพื่อสิทธิพลเมือง มีอาสาสมัครและนักกิจกรรมจำนวนมากที่สนับสนุนเขาอยู่ตลอดหลายปีที่ผ่านมา 

    พวกเขายังอยู่อาศัยอยู่ใจกลางสนามบินนาริตะ มีเครื่องบินอยู่เหนือหลังคาบ้านของเขาตลอด 24 ชั่วโมง และวิธีเดียวที่จะเข้าออกฟาร์มได้ก็คือผ่านอุโมงค์ใต้ดิน แต่ถึงอย่างนั้น เขาก็ยังอาศัยอยู่บนพื้นแผ่นดินบ้านเกิดของเขาอย่างมีความสุขเสมอ

ชมคลิป

คลิปเปิดไม่ออก >>>>> กดตรงนี้ คลิ๊ก !!!! <<<<<

ที่มา : petmaya

บทความแนะนำ More +

บทความที่คุณอาจสนใจ