"พิซซ่า" ส่งมาถึงบ้านลุงวัย 65 เกือบทุกวัน ตลอด 9 ปี ทั้งที่เขาไม่เคยสั่งเลยสักครั้ง

คอมเมนต์:

สิ่งที่น่ากลัวคือ "เขาไม่เคยสั่งพิซซ่าเลย"

        เมื่อไม่นานมานี้เว็บไซต์ต่างประเทศรายงานว่า นาย Jean Van Landeghem วัย 65 ปี ได้รับพิซซ่ามาส่งถึงหน้าบ้านตลอดช่วงระยะเวลา 9 ปี แต่สิ่งที่น่ากลัวคือ "เขาไม่เคยสั่งพิซซ่าเลย" 

 

        รายงานระบุว่า ช่วงแรก ๆ เขาคิดว่าน่าจะเป็นการส่งผิดสับสนออเดอร์หรืออะไรก็ตามที่อาจเกิดขึ้นได้ แต่พอหลังจากมีพิซซ่ามาส่งผิด ร้านอาหารเดลิเวอรี่เจ้าอื่น ๆ ก็ตามมาส่งถึงบ้านเขาด้วยเช่นกัน โดยที่เขาไม่เคยจ่ายค่าอาหารพวกนี้เลย เพราะเขาปฏิเสธที่จะรับในสิ่งที่เขาไม่ได้สั่ง อาจจะไม่ใช่ปัญหาใหญ่โตอะไร แต่ลองพิจารณาว่าหลังจากนั้นแล้วแทบจะทุกชั่วโมงแต่ละวัน ทั้งกลางวันกลางคืนจะมีคนมาเคาะหน้าประตูบ้านเพื่อส่งอาหารตลอดเวลา

 

Sponsored Ad

 

        เขาบอกว่า "มันเริ่มจาก 9 ปีที่แล้ว มีคนส่งพิซซ่ายื่นกล่องพิซซ่าทั้งกล่องมาให้ผม ทั้งที่ผมไม่ได้สั่งอะไรเลย มันเกิดขึ้นแทบจะทุกวันก็ว่าได้ ไม่ว่าจะเป็นเวลาไหนก็ตาม นอกเหนือจากบริการส่งอาหารในเมืองผมแล้ว ก็ยังมีร้านจากรอบนอกเมืองด้วย เคยมีคนมาส่งอาหารให้ผมตอนตีสองด้วยนะ"

 

Sponsored Ad

 

        สำหรับตัวเขานั้นมักจะซื้อพิซซ่าแช่แข็งจากซุปเปอร์มาร์เก็ตเป็นส่วนใหญ่ เขารู้ดีว่าต้องปฏิเสธรับพิซซ่าเหล่านั้นไป แม้จะไม่ต้องจ่ายเงินแต่การที่มีอาหารมาส่งบ่อย ๆ ทั้งที่ไม่ได้สั่งกลายเป็นเรื่องที่น่ารำคาญมาก

        "ผมนอนไม่ได้เลย ทุก ๆ ครั้งที่ผมได้ยินเสียงมอเตอร์ไซค์บนถนนมันทำให้ผมขนลุกจนตัวสั่น เพราะผมกลัวว่าจะมีคนมาส่งพิซซ่าหน้าบ้านอีกแล้ว" เขากล่าว

 

Sponsored Ad

 

        รายงานระบุว่า เคยมีวันหนึ่งในเดือนมกราคม 2019 เขาได้รับอาหารจากร้านต่าง ๆ มากถึง 10 เจ้า และรายการอาหารเหล่านั้นคือพิซซ่า 14 ถาด ซึ่งไม่เพียงแต่เขาเท่านั้นที่เบื่อหน่ายกับการส่งอาหารผิดบ้าน ร้านอาหารและร้านพิซซ่าเองต่างก็เหนื่อยเช่นเดียวกัน เพราะพวกเขาจะสูญเสียรายได้จากการทำอาหาร แถมยังต้องทิ้งอาหารเหล่านั้นไป

 

Sponsored Ad

 

        ที่น่าแปลกอีกอย่างคือ เพื่อนของเขาจากเมืองใกล้ ๆ กัน ก็เจอกับเรื่องแบบนี้เหมือนกัน บางครั้งทั้งคู่ก็เคยได้รับพิซซ่าในวันเดียวกัน สิ่งนี้จึงทำให้พวกเขาเชื่อว่าอาจจะมีการโทรแกล้งสั่งอาหารมาจากเพื่อนหรือคนรู้จักแน่ ๆ 

        อย่างไรก็ตามถึงแม้จะแจ้งความไปหลายต่อหลายครั้ง ก็ยังไม่ทราบว่าใครเป็นคนทำและไม่รู้ว่าจะหยุดเมื่อไหร่

ที่มา : The Times, catdumb

บทความที่คุณอาจสนใจ