เป็นบุญตาพุทธศาสนิกชน เปิดภาพ "เนื้อในเดิม" ของ "หลวงพ่อโสธร" แตกต่างจากที่คุ้นตา

คอมเมนต์:

ภาพเนื้อในของ หลวงพ่อโสธร วัดโสธรวราราม วรวิหาร หลังบูรณปฏิสังขรณ์ พร้อมเผยตำนานเรื่องพระโสธร พระที่ขึ้นชื่อเรื่องความศักดิ์สิทธิ์

    จากกรณีวัดโสธรวราราม วรวิหาร ได้ทำการบูรณปฏิสังขรณ์หลวงพ่อโสธร จนมีการเปิดเผยภาพของเนื้อข้างในขององค์หลวงพ่อโสธรเดิม ประกอบจากหินทราย 8 ชิ้น พอกปูนทับเป็นองค์ และเป็นศิลปะสมัยอยุธยาตอนต้น

    ซึ่งก่อนหน้านี้ กลุ่มเผยแพร่ฯ กรมศิลปากร เผยว่า เมื่อวันที่ เมื่อวันที่ 14 มกราคม 2565 ทางกลุ่มได้ทำ การสำรวจองค์หลวงพ่อโสธร และพระพุทธรูป ของวัดโสธรวรารามวรวิหาร ซึ่งพบว่าพระพุทธรูปมีรอยกระเทาะแตกออกจนเห็นเนื้อใน โดยสาเหตุเกิดจากการพอทาสีด้วยสีอะคริลิกที่ไม่ประสานกับวัสดุเดิม ทำให้แตกร่อน และอาจมีปัญหาเรื่องความชื้นภายใน 

 

Sponsored Ad

 

    จึงจำเป็นต้องทำรายงานต่ออธิบดีกรมศิลปากร และเรื่องนี้ได้มีการชี้แจงแนวทางเรื่องการดำเนินงานสำรวจตรวจสอบความเสียหาย ต่อ พระราชภาวนาพิธาน ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดโสธรวรารามวรวิหาร เจ้าคณะจังหวัดฉะเชิงเทรา เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

    ในขณะที่เฟซบุ๊ก นิทรรศการพลังแผ่นดิน อัศจรรย์งานศิลป์แผ่นดินสยาม เผยว่า ตำนานของหลวงพ่อโสธรนั้น เกิดขึ้นเมื่อมีพระพุทธรูป 3 องค์ ลอยน้ำมาจากทางเหนือ จนกระทั่งมาถึงแม่น้ำเจ้าพระยาตรงที่เรียกว่า สามเสน ก็ได้แสดงปาฏิหาริย์ให้ชาวบ้านเห็น ชาวบ้านพยายามฉุดพระพุทธรูปทั้ง 3 องค์ขึ้นมา แต่ฉุดไม่ขึ้น แม้จะใช้คนเป็นแสนคนก็ฉุดไม่ได้ ที่ตรงนั้นจึงได้เรียกขานว่า สามแสน ก่อนจะเพี้ยนมาเป็น สามเสน

 

Sponsored Ad

 

    จากนั้น พระพุทธรูปทั้ง 3 องค์ก็จมลง ลอยเข้าคลองพระโขนง ออกไปทางบางปะกง และลอยผ่านคลองชักพระ และพระพุทธรูปก็แสดงปาฏิหาริย์โผล่ขึ้นมาอีก ชาวบ้านพยายามชักพระเข้าแต่ก็ทำไม่สำเร็จ แล้วพระพุทธรูปทั้ง 3 องค์ก็ลอยทวนน้ำขึ้นไปทางหัววัดสามพระทวน ที่ต่อมาเพี้ยนเป็น วัดสัมปทวน

    จากนั้น พระพุทธรูปทั้ง 3 องค์ ก็ลอยตามแม่น้ำบางประกง ผ่านหน้าวัดโสธร ชาวบ้านก็พยายามฉุดพระขึ้นมาแต่ก็ฉุดไม่ได้ จนเรียกแถวนั้นว่า บางพระ และพระพุทธรูปก็ลอยวนที่หัวเลี้ยวตรงกองพันทหารช่างที่ 2 จนชาวบ้านเรียกตรงนั้นว่า แหลมหัววน

 

Sponsored Ad

 

    จากนั้น หนึ่งในพระพุทธรูปคือ หลวงพ่อโสธร ได้แสดงอภินิหารลอยขึ้นที่หน้าวัดโสธร ชาวบ้านพยายามช่วยกันยกพระขึ้นมาแต่ทำไม่ได้ จนพระอาจารย์รูปหนึ่งรู้วิธีอัญเชิญ และอัญเชิญท่านขึ้นมาประดิษฐานในพระวิหารได้สำเร็จที่วัดหงส์ และเกิดเหตุพายุพัดเอาหงส์บนยอดเสาธงลงมา ชาวบ้านจึงเปลี่ยนชื่อวัดหงส์ เป็นวัดเสาธง
    เมื่อเปลี่ยนชื่อแล้ว ไม่นานเกิดเหตุวัดเสาธงหักอีก ชาวบ้านจึงเรียกใหม่เป็น วัดเสาธงทอน และเนื่องจากมองว่าชื่อไม่เพราะ จึงเปลี่ยนชื่อวัดเป็น วัดโสธร และเรียกหลวงพ่อว่า หลวงพ่อโสธร
    วัดโสธรได้รับการเสนอแต่งตั้งให้เป็นพระอารามหลวงชั้นตรี ชนิดวรวิหาร ได้รับพระราชทานนามใหม่ว่า วัดโสธรวรารามวรวิหารและขนานนามหลวงพ่ออย่างเป็นทางการว่า หลวงพ่อพุทธโสธร

    หลวงพ่อโสธรขึ้นชื่อเรื่องความศักดิ์สิทธิ์ สามารถขอพรขอบารมีได้หลากหลาย ทั้งเรื่องค้าขาย คงกระพัน แคล้วคลาด โรคภัยไข้เจ็บ แต่ผู้เฒ่าผู้แก่บอกว่า สิ่งที่ห้ามบนบานกับหลวงพ่อโสธรคือ เรื่องทหารและเรื่องขอบุตร เพราะหลวงพ่อชอบให้คนเป็นทหาร ปกปักรักษาบ้านเมือง

ที่มา : เฟซบุ๊ก กลุ่มเผยแพร่ฯ กรมศิลปากร

บทความแนะนำ More +

บทความที่คุณอาจสนใจ