เปิดเหตุผลที่ "กษัตริย์ซาอุฯ" ทรงตรัสแล้วไม่คืนคำ หลังมีคำสั่งปลด 2 เชื้อพระวงศ์ จากตำแหน่งหน้าที่

คอมเมนต์:

เปิดเหตุผลที่ "กษัตริย์ซาอุฯ" ทรงตรัสแล้วไม่คืนคำ หลังมีคำสั่งปลด 2 เชื้อพระวงศ์ จากตำแหน่งหน้าที่

    กษัตริย์ซาอุฯ ปลด 2 เชื้อพระวงศ์จากตำแหน่งในหน่วยงานรัฐ เนื่องจากเกี่ยวข้องกับข้อหาทุจริต สำนักข่าวซินหัว รายงาน เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา สำนักข่าวซาอุดีอาระเบีย (SPA) เปิดเผยว่า กษัตริย์ซัลมาน บิน อับดุลลาซิซ อัล ซาอุด ของซาอุดีอาระเบีย ได้ปลดเชื้อพระวงศ์ 2 พระองค์ออกจากตำแหน่งในหน่วยงานของรัฐ 

    พระราชกฤษฎีกาที่เผยแพร่ ระบุว่า ฟาฮัด บิน ตูร์กี บิน อับดุลอาซิซ ผู้บัญชาการกองกำลังพันธมิตรที่นำโดยซาอุฯ ในเยเมน และอับดุลอาซิซ บิน ฟาฮัด บิน ตูร์กี บิน อับดุลอาซิซ รองผู้ว่าการภูมิภาคอัล เญาฟ์ ได้ถูกปลดและสอบสวนในข้อหาทุจริตที่เกี่ยวข้องกับกระทรวงกลาโหม 

 

Sponsored Ad

 

    นอกจากนี้พระราชกฤษฎีกาเสริมว่ามีเจ้าหน้าที่และข้าราชการของกระทรวงอีกจำนวนไม่น้อย ถูกนำตัวเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมเพื่อตรวจสอบกรณีการทุจริตเช่นกัน

 

Sponsored Ad

 

    ทั้งนี้ ซาอุฯ ดำเนินแคมเปญต่อต้านการทุจริตในหน่วยงานของรัฐในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา โดยได้จัดตั้งสำนักงานตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณของภาครัฐเมื่อต้นปี 2019

    ทางเว็บไซต์สถานีโทรทัศน์ซีเอ็นบีซี ระบุว่า ความมั่งคั่งของราชวงศ์ซาอุดิอาระเบียอาจจะสูงถึง 1.4  ล้านล้านดอลลาร์ ซึ่งหากเทียบกับราชวงศ์อังกฤษ ที่มีสินทรัพย์โดยรวมมูลค่า 88,000 ล้านดอลลาร์ จากการสำรวจล่าสุดของบริษัทแบรนด์ ไฟแนนซ์ บริษัทที่ปรึกษาทางธุรกิจชั้นนำ ถือว่าราชวงศ์แห่งดินแดนทะเลทรายแห่งนี้ มีความมั่งคั่งกว่าเกือบ 16 เท่าตัว

 

Sponsored Ad

 

    ความมั่งคั่งของราชวงศ์นี้มีที่มาจากการค้นพบแหล่งน้ำมันเมื่อกว่า 75 ปีก่อน ในรัชสมัยของกษัตริย์อับดุลราซิส อิบ ซาอุด โดยบริษัทพลังงานชั้นนำของประเทศ“ซาอุดิ อารามโค”ในปัจจุบันมีมูลค่าทางการตลาดกว่า 2 ล้านล้านดอลลาร์ ถือเป็นหนึ่่งในบริษัทพลังงานที่ทำกำไรได้มากที่สุดแห่งหนึ่งของโลก

 

Sponsored Ad

 

    ซาอุดิอาระเบีย เป็นประเทศที่ใหญ่ที่สุดในคาบสมุทรอาหรับ หรือตะวันออกกลาง มีความมั่งคั่งจากการเป็นผู้ค้าน้ำมันรายใหญ่ของโลก จึงเป็นตลาดที่มีกำลังซื้อสูง

    นอกจากนี้ รัฐบาลซาอุฯยังตระหนักถึงภาวะเศรษฐกิจที่พึ่งพาการส่งออกน้ำมันมากเกินไป จึงมีนโยบายที่จะกระจายการผลิตด้วยการพัฒนาอุตสาหกรรมโรงงานและการเกษตร พร้อมทั้งส่งเสริมให้ภาคเอกชนมีส่วนร่วมในการพัฒนาเศรษฐกิจมากขึ้น นับเป็นโอกาสที่เปิดกว้างสำหรับผู้ประกอบการทั้งไทยและประเทศต่างๆที่กำลังมองหาลู่ทางการค้าการลงทุนในราชอาณาจักรแห่งนี้

ที่มา : Amarintv

บทความที่คุณอาจสนใจ