เรื่องราวของสาวรายหนึ่งที่โพสต์เล่าเรื่องราวผ่านบนเฟซบุ๊ก หลังจากที่เธอและแฟนแวะไปเยือนคาเฟ่แห่งหนึ่งในเมืองโคราช แต่พบว่าพนักงานไม่ได้ให้หลอดมาจึงกลับไปขอหลอดที่พนักงานเพิ่ม แต่กลับได้รับคำตอบที่ไม่น่าฟัง ก่อนเรื่องราวดังกล่าวจะกลายเป็นดราม่า โต้กลับกันไปมา

    เมื่อ 29 มีนา ที่ผ่าน ลูกค้าสาวรายหนึ่งได้โพสต์เฟซบุ๊กเล่าว่า ตนได้แวะซื้อเครื่องดื่มที่ร้านคาเฟ่แห่งหนึ่งในโคราช ตนกับแฟนสั่งเครื่องดื่มทั้งหมด 3 แก้ว คือ Milky Way (โกโก้), Matcha (ชาเขียวเย็น) และ Dirty โดยตั้งใจจะนำชาเขียวไปให้พนักงานขับรถที่มาด้วยกัน เพราะเขาต้องขับรถจากโคราชกลับบุรีรัมย์นาน 2 ชม.

    แต่ปรากฏว่าพนักงานไม่ได้นำหลอดมาให้ แฟนของเธอจึงขอหลอดพนักงานเพิ่ม แต่กลับได้รับคำตอบกลับมาว่า "ไม่ได้ค่ะ ชาเขียวเย็นทางร้านเสิร์ฟเป็นแก้วยกดื่มนะคะ"

    ซึ่งเธอเข้าใจว่าอาจเป็นสูตรของทางร้านที่ไม่อยากให้เครื่องดื่มเสียรสชาติ แต่เรื่องจากคนขับรถต้องดื่มระหว่างทาง จึงไม่สะดวกและอาจจะเป็นอันตรายหากต้องยกดื่ม

    เธอจึงขอหลอดอีกครั้ง พร้อมอธิบายเหตุผลว่า "ขอหลอดได้มั้ยคะ พอดีแก้วนี้จะให้คนที่ต้องขับรถอ่ะค่ะ ยกดื่มคงไม่ถนัด" ซึ่งเธอก็มั่นใจว่าไม่ได้พูดด้วยน้ำเสียงเหวี่ยงใส่พนักงานเลย ออกแนวขอร้องเมตตาด้วยซ้ำ แต่พนักงานอีกคนหนึ่งที่อยู่ข้างๆ กลับกระแทกเสียงกลับมาว่า "ไม่ได้ค่ะ"

    สุดท้ายเธอจึงต้องนำหลอดของของแฟนที่ยังไม่ได้ใช้ใส่แก้วชาเขียวให้คนขับรถแทน และเขียนทิ้งท้ายไว้ว่า "งงอ่ะ ปกติไปคาเฟ่อื่นๆ ถ้าทางร้านกลัวเสียรสชาติ ทางร้านก็จะอธิบายแล้วถ้าลูกค้ายังยืนยัน ร้านอื่นก็ไม่ได้ห้ามไรขนาดนี้นะ แบบนี้คือไรอ่ะงง เพิ่งเคยเจอร้านแบบนี้ โดนตะคอกเพราะขอหลอด เงิ้บไปสิ ไม่กล้าขอแล้วก็ไม่กล้าไปละค่าาา"

โพสต์ดังกล่าว

    ต่อมาประเด็นดังกล่าวก็ได้กลายเป็นประเด็นดราม่า ชาวเน็ตจำนวนมากเข้ามาแสดงความคิดเห็น โดยมองว่าทำไมทางร้านถึงได้หวงหลอดมากขนาดนี้ นอกจากนี้ก็มีอีกหลายคนที่เข้ามาแชร์ประสบการณ์เจอพนักงานร้านคาเฟ่ไม่เป็นมิตรเหมือนกัน 

    ต่อมา วันที่ 5 เมษายน 2565 ที่ผ่านมา ทางด้านบาริสต้าของร้านได้ออกมาคอมเมนต์ถึงประเด็นนี้ใจความว่า "กระแทกเสียงว่าซ่านน มาดูกล้องวงจรปิดที่ร้านมั้ยล่ะ มีเสียงตอนพูดนะ จะได้รู้ว่ากระแทกเสียงจริงมั้ย"

    "อีกอย่างนึงนะคะ คุณลูกค้าหน้าเหวี่ยง สายตาหาเรื่องมากค๊าา จนดิฉันต้องเดินหนีเอง เพราะไม่อยากมีเรื่อง อ่ะ เห็นโพสต์ขนาดนี้แสดงว่าอยากมีเรื่องจริง ก็มาค๊าา มาร้านได้เลยค๊าา"

    เรื่องราวทุกอย่างยังไม่จบเท่านี้ เพราะลูกค้าสาวคนดังกล่าวก็ได้แคปคอมเมนต์และโพสต์เรื่องราว ภาค 2 พร้อมข้อความว่า "ภาค2 พี่เค้าคือบาริสต้าของร้านนะคะ แหะๆ ขอโทษที่หน้าเหวี่ยงเพราะไม่ได้หลอดนะค้าา แต่ยืนยันว่าได้อธิบายว่าจะให้คนที่ต้องขับรถแล้ว และเสียงคุณพนงกระแทกจนเราก้มมองหลอดจริงๆค่า555555"

    ไม่รู้ว่ท้ายที่สุดเรื่องราวนี้จะจบลงที่ตรงไหน แต่อย่างไรก็ตามเรื่องนี้ยังถูกวิพากษ์วิจารณ์แบบไม่จบไม่สิ้น แล้วเพื่อน ๆ ล่ะคิดเห็นกับเรื่องนี้อย่างไรบ้างคะ?

ที่มา : catdumb