เชื่อว่าหลายคนคงเคยมีความเชื่อที่ว่า ชีวิตของเราทุกคน ถูกใครบางคนกำหนดมาให้ตั้งแต่เกิดแล้ว บางคนมีชีวิตที่เหมือนกันแม้จะไม่ได้เติบโตมาด้วยกันเช่นเดียวกับเรื่องราวคู่แฝดในวันนี้

    เรื่องราวนี้ต้องย้อนกลับไปเมื่อ 81 ปีก่อน หรือในปี 1940 ที่ฝาแฝดกำพร้าคู่หนึ่งได้ถูกครอบครัวบุญธรรม 2 ครอบครัวมารับไปเลี้ยง ทำให้ทั้งสองคนต้องแยกออกจากกัน โดยต่างคนก็ต่างไปมีชีวิตใหม่โดยที่ไม่มีโอกาสได้เจอกันอีกเลย แต่พวกเขากลับมีชีวิตที่เหมือนกันเป็นอย่างอย่างมาก

    แฝดคนแรก ถูกตั้งชื่อว่า เจมส์ ลูอิส ซึ่งพ่อแม่และ แลร์รี น้องชายบุญธรรมมักจะเรียกเขาว่า จิม... ซึ่งครอบครัวนี้ก็เลี้ยงดูเขาเป็นอย่างดี แถมยังรับเลี้ยงหมาที่ชื่อว่า ทอย อีกด้วย พอเขาโตขึ้นก็ได้แต่งงานกับลินดา แต่ไปกันไม่รอด หลังจากนั้นเขาก็ได้ไปแต่งงานใหม่กับเบ็ตตี้ และมีลูกชายด้วยกัน 1 คน โดยตั้งชื่อว่า เจมส์ อัลเลน นอกจากนี้ เขายังเป็นคนที่ติดบุหรี่เป็นอย่างมาก แถมมีประวัติการป่วยเป็นไมเกรน ขับรถเชฟโรเลต และทำงานเป็นพนักงานรักษาความปลอดภัย

    ส่วนแฝดอีกคน ถูกตั้งชื่อว่า เจมส์ สปริงเกอร์ ซึ่งครอบครัวเรียกเขาว่าจิมเช่นกัน แถมมีน้องชายชื่อแลร์รี่ และน้องหมาชื่อทอย เหมือนกันด้วย พอโตขึ้นก็ได้แต่งงานหญิงสาวที่ลินดาเหมือนกัน และก็ไปกันไม่รอด จนได้ไปพบรักใหม่กับหญิงที่ชื่อว่า เบ็ตตี้ และมีลูกชาย 1 คน ซึ่งเขาได้ตั้งชื่อลูกว่า เจมส์ อัลเลน เหมือนกันกับพี่ชายฝาแฝดของเขา นอกจากนี้ เขายังเป็นคนที่ติดบุหรี่เป็นอย่างมาก แถมมีประวัติการป่วยเป็นไมเกรน ขับรถเชฟโรเลต แต่ทำงานเป็นรองนายอำเภอ

    หลังจากเวลาผ่านไป 39 ปี แม่ของแฝดคนพี่ ก็ได้บอกความจริงกับลูกชายว่า ตัวเขานั้นมีน้องชายฝาแฝดที่ถูกแยกกันตั้งแต่เกิด ซึ่งปัจจุบันยังมีชีวิตอยู่ที่เมืองข้าง ๆ โดยห่างกันแค่ 72 กิโลเมตรเท่านั้นเอง ทำให้ตัวเขานั้นรีบติดต่อไปที่ศาลภาคทัณฑ์ เพื่อหาบันทึกการรับเลี้ยงของตนเองและน้องชายฝาแฝด

    หลังจากหาข้อมูลทั้งหมดได้แล้ว ก็ได้ติดต่อไปยังครอบครัวของน้องชายฝาแฝดเพื่อนัดเจอกันครั้งแรก... โดยแม่ของแฝดน้องได้บอกว่า ไม่คิดเลยว่าแฝดพี่ยังมีชีวิตอยู่ และรู้สึกยินดีเป็นอย่างมากที่ทั้งสองคนจะได้พบกันอีก

    จนเวลาผ่านไป พี่น้องฝาแฝดก็ได้มาเจอกันหน้า พูดคุยจนรู้ข้อมูลว่า ทั้งคู่มักปวดศีรษะจากอาการเครียดเหมือนกัน ชอบกัดเล็บเหมือนกัน สูบบุหรี่ยี่ห้อเดียวกัน และชอบไปเที่ยวชายหาดในฟลอริดาที่เดียวกัน มีชีวิตครอบครัวที่เหมือนกัน แถมมีนิสัยที่เรียกได้ว่าเหมือนกันเกือบจะ 100 เปอร์เซ็นต์

    แน่นอนว่าเรื่องราวของทั้งคู่เป็นความบังเอิญที่น่าเหลือเชื่อจนโด่งดังไปทั้งเมือง จนทีมนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยมินนิโซตา ต้องเชิญทั้งคู่ไปร่วมทดสอบเพื่อค้นหาว่า สภาพแวดล้อมการเลี้ยงดูมีผลต่อพฤติกรรมของฝาแฝดที่ถูกแยกจากกันหรือไม่อีกด้วย

ที่มา : เพชรมายา, allthatsinteresting