หลายคนสงสัย ทำไม "คุณครู" และ "บุคลากรทางการศึกษา" ถึงมีหนี้เยอะ จนกลายเป็นปัญหาระดับชาติ
คอมเมนต์:
ทำเอาชาวเน็ตแห่สงสัยเลยทีเดียว สำหรับปัญหาหนี้สินของครูและบุคลากรทั้งหลาย ซึ่งปัจจุบันครูทั่วประเทศประมาณ 9 แสนคน คิดเป็นร้อยละ 80 มีหนี้รวมกัน 1.4 ล้านล้านบาท มีเจ้าหนี้รายใหญ่ที่สุดคือ สหกรณ์ออมทรัพย์ครู วงเงิน 8.9 แสนล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 64 และธนาคารออมสิน วงเงิน 3.49 แสนล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 25
ล่าสุด ทางด้านผู้ใช้เฟสบุ๊ก Wiriyah Eduzones ได้โพสต์ข้อสงสัยเกี่ยวกับครู ทำไมถึงมีหนี้เยอะ โดยได้โพสต์ระบุว่า…สงสัยว่า ทำไมครูและบุคลากรทางการศึกษามีหนี้เยอะ ก่อนที่ชาวเน็ตจะเข้ามาตอบกันมากมาย อาทิ "ต้นทุนชีวิตคนเราไม่เท่ากันค่ะ เราเป็นหนี้ตั้งเรียนกู้ กยศ เรียน ตอนทำงานก็จ่ายหนี้ กยศ ไม่เคยขาด ได้บรรจุก็อยากให้ทางบ้านสบายช่วยเหลือทางบ้านบ้าง ไม่มีใครอยากเป็นหนี้หรอกค่ะถ้าไม่จำเป็น เคยสำรวจหน่วยงานราชการอื่นกันมั้ยคะ ทำไมสำรวจเฉพาะครูตลอด"
Sponsored Ad
"นักธุรกิจหนี้เยอะกว่าคะ ครูอย่างมากแค่ 1-3 ล้าน. แต่นักธุรกิจ สิบล้านก็มี มองให้ทะลุ คิดให้กว้าง", "ซื้อโน้ตบุ๊ค เครื่องปริ้น หมึก อุปกรณ์ทำสื่อ อุปกรณ์การสอน สื่อการสอน บ้านอยู่ห่างจากโรงเรียนแค่ 10 กม. แต่ค่าน้ำมันเดือนละ 5000 เป็นอย่างต่ำเพราะงานโรงเรียน ค่าซองงานในชุมชน บางคนบ้านอยู่ไกลจากโรงเรียนก็มีค่าเช่าบ้าน ไม่มีรถก็ไม่ได้เพราะทำอะไรก็ต้องใช้รถ ผ่อนรถอีก ต้องเรียนต่ออีก"
Sponsored Ad
.
"อยากมีพ่อแม่ร่ำรวยบ้างเหมือนกันครับ จะได้ไม่ต้องมีหนี้ ไม่ต้องกู้ แต่เผอิญพ่อแม่เป็นชาวไร่ชาวนาครับ แต่ก็ภูมิใจที่ท่านยังส่งเรียนจนได้เป็นครู เกิดมาคงไม่มีใครอยากเป็นหนี้หรอก คนอื่นจะมองว่าเป็นครูแล้วฟุ้งเฟ้อ ซื้อรถ ซื้อบ้าน ถึงเป็นหนี้เยอะ ใครๆ ก็อยากมีบ้านมีรถทั้งนั้น ไม่ว่าอาชีพไหน แต่ก็อย่างว่าครู ไม่มีโอที ไม่มีโบนัส แต่ครูเป็นคนมีค่า ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่ารถ ค่าบ้าน ค่าเน็ต ค่าสื่อการเรียนการสอน ตอนนี้ก็มีค่าอุปกรณ์สอนออนไลน์ และอีก ฯลฯ ค่ะ"
Sponsored Ad
.
"ครูที่ไม่เป็นหนี้ก็มีครับ ต้นทุนบ่คือกัน บางคนมั่งมีมูลหลาย บางคนดิ้นรนตั้งแต่สมัยเรียนก่อนมาเป็นครู"
Sponsored Ad
นอกจากนี้ยังได้มีความในใจจากครูท่านหนึ่งสรุปไว้ว่า 9 สาเหตุที่ทำให้ครูไทยส่วนมากเป็นหนี้….อ่านแล้ว รู้เลย นี่คือความจริง!
1.เพราะครูต้องกู้ซื้อรถ
Sponsored Ad
รถที่ซื้อไม่ใช่เพราะคนเป็นครูจะต้องทำตัวหรูหรือไฮโซหรอกนะ แต่เป็นรถที่ใช้ในการขนส่งเด็กๆนักเรียนออกนอกพื้นที่ อย่างเช่นงานแข่งขันวิชาการต่างๆ จะให้ไปเช่าไปยืมรถของคนอื่นก็ดูยุ่งยากและต้องเพิ่มค่าใช้จ่ายมากขึ้น
2.เพราะครูต้องมีภาระหน้าที่ทางครอบครัว
Sponsored Ad
ครูก็คน คนก็คือครู ครูทุกคนมีครอบครัวมีภาระหน้าที่ที่จะต้องดูแล ไม่ว่าจะเป็นบิดา มารดา ที่ท่านมีพระคุณต่อเราที่จะต้องตอบแทน เมื่อเราได้ดิบได้ดีมีการมีงานทำ คนที่ขึ้นชื่อว่าลูกก็จำเป็นจะต้องดูแลท่านให้ท่านได้อยู่อย่างสุขสบายเหมือนพ่อแม่คนอื่นๆบ้าง ถึงแม้จะไม่ได้สบายถึงขั้นมหาเศรษฐีก็ขอให้ท่านได้พอมีพอกินพอใช้ก็พอ มีบ้านที่ฝนตกแล้วไม่รั่วเหมือนเมื่อครั้งที่ท่านเคยส่งเราเรียนหนังสือ ส่งเราเรียนจบได้มีงานทำที่ดี
3.เพราะครูต้องซื้อชุดใส่ให้ครบทุกวันจันทร์-ศุกร์ ไหนจะชุดออกงานอีก
Sponsored Ad
ครูต้องทำงาน 5 วันเต็มและในแต่ละวันครูก็ต้องใส่ชุดที่แตกต่างให้ตรงวัน อย่างเช่นวันจันทร์ใส่ชุดกากี วันอังคารใส่ผ้าไทย วันพุธใส่ชุดลูกเสือ (ชุดลูกเสือบางจังหวัดใส่วันพฤหัสบดี) วันพฤหัสบดีใส่ชุดกีฬา วันศุกร์ใส่ชุดพื้นเมือง (ครูในแต่ละพื้นที่จะใส่ไม่เหมือนกันขึ้นอยู่กับนโยบายของทางจังหวัด หรือทางเขตพื้นที่)
4.เพราะครูต้องซื้ออุปกรณ์เสริมมาช่วยสอน
งบรายหัวค่าตกแต่งห้องเรียน ขอบอกตรงๆว่าไม่พอใช้จ่ายกันหรอกครับ ถ้าจะตกแต่งห้องกันจริงๆคงต้องเพิ่มงบ โดยเฉพาะเรื่องสื่อการสอนยิ่งไปกันใหญ่ สื่อบางตัวครูก็ต้องควั๊กกระเป๋า(แบนแฟนทิ้ง)จ่ายซื้อเองด้วยน้ำพักน้ำแรงและหยาดเหงื่อที่แลกมา เช่น ค่ากระดาษที่ไม่พอสำหรับปริ้นใบงาน ค่าหมึก ค่าเครื่องปริ้นเตอร์ ครูบางคนลงทุนซื้อเครื่องโปรเจคเตอร์เอง ซื้อสื่อการสอนที่เขามาเร่ขายที่หน้าเขตพื้นที่ ครูบางท่านโหดกว่านั้นลงทุนซื้อเครื่องดนตรีแพงๆนำมาสอนนักเรียนก็มี
5.เพราะครูต้องพัฒนาตน(เรียนต่อ)
ในยุคปัจจุบันถ้าเราจะเป็นครูก็คงจะเป็นยากหน่อย หากครูไม่ยอมที่จะพัฒนาตน พัฒนาความรู้ของตัวเองให้ทัดเทียมกับความรู้ของเด็กๆในยุคนี้ ซึ่งเป็นยุคของนักเรียนที่อยู่ในเจเนอเรชั่น Y ของคนที่เกิดตั้งแต่ปีพ.ศ.2540 ขึ้นไป เพราะยุคนี้เป็นยุคที่เด็กๆเติบโตมากับเทคโนโลยีมากมาย และพวกเขาสามารถเข้าถึงความรู้ได้ง่ายๆ แค่เพียงคลิกเดียวเบาๆ ง่ายเสียยิ่งกว่าการหายใจเข้าปอดเสียอีก และสิ่งเหล่านี้ก็ทำให้เด็กยุคนี้เรียนรู้ได้รวดเร็วและทั้งเก่งทั้งฉลาด
6.เพราะครูต้องเติมน้ำมันไปอบรม
"ถ้าจะว่าไปแล้วครูไทยคงเป็นอาชีพเดียวที่มีการอบรมมากที่สุดในกาแล็กซี่"
7.เพราะครูไม่ค่อยมีรายได้เสริม
อาชีพครูถ้าจะทำอาชีพเสริมหารายได้ก็สามารถทำได้ แต่ถ้าจะทำอย่างจริงจังเป็นล่ำเป็นสัน ก็คงจะทำไม่ได้ เพราะเวลาของเรามีมันช่างเหลือน้อยนิดเสียยิ่งกระไร เวลาให้สามีคนในครอบครัวก็ยังไมมีเลย แล้วจะให้เอาเวลาที่ไหนไปทำอาชีพเสริม
8.อาชีพครูเป็นอาชีพที่ได้ซองเยอะ
ยิ่งถ้าเป็นครูที่สอนมานานก็จะยิ่งมีคนรู้จักมากตามอายุการทำงาน เพราะในแต่ละปีครูก็จะผลิตลูกศิษย์ออกไปสู่สังคมในแต่ละรุ่นมากมาย ประกอบกับลักษณะงานของเราก็ต้องเกี่ยวข้องกับชุมชน วัด และเทศบาล ที่เรานั้นสอนอยู่ ครูเราจึงต้องมีปฏิสัมพันธ์กับผู้คนมากมายตามหน้าที่ จึงทำให้มีผู้คนทั่วไปรู้จัก เรียกได้ว่าฮอตมาก ส่วนเรื่องของซองผ้าป่า งานบุญ งานบวช งานแต่งนี่ก็คงจะไม่ต้องพูดถึง เพราะมีมาตลอดไม่ขาดสาย ดั่งสายน้ำที่ไหลมาจากยอดเขาที่ไม่เคยมีวันได้เหือดแห้ง
9.เพราะครูเครดิตดีเหลือเกิน
ครูเป็นอาชีพที่เครดิตดีมากเมื่อเทียบกับข้าราชการหลายหน่วยงาน เพราะเราแม้ไม่มีเงินเราก็ ไม่หนี ไม่ใช้ และไม่จ่าย เฮ้ย! ไม่ใช่…เราเป็นอาชีพที่ต้องทำงานอยู่กับที่ตลอดเวลา ไม่ค่อยได้ย้ายกันบ่อยๆเหมือนกับอาชีพอื่นๆหรอก และฐานเงินเดือนเราก็ค่อนข้างจะเยอะ (หากเทียบกับหน่วยงานอื่นก็ถือว่าเยอะพอสมควรแต่เงินทอนจะเหลือเท่าไหร่ไม่ว่ากันนะ) ซึ่งเงินเดือนของเรานี่แหละ เป็นอะไรที่ล่อเป้าดึงดูดบรรดาองค์กรปล่อยเงินกู้ ธุรกิจประกันภัย ห้างร้านขายสินค้าต่างๆให้เข้ามาหาเราอยู่เสมอ
สังเกตกันได้ว่าหน่วยงานสินเชื่อ บัตรเครดิต หน่วยงานประกัน และหน่วยงานของธนาคารต่างๆจะเข้ามาแวะเวียนเยี่ยมเยือนโรงเรียนของเราอยู่เป็นประจำ (มาบ่อยยิ่งกว่าคณะประเมินเสียอีก เอะ…หรือมาบ่อยเหมือนกันนะ ฮ่าๆ) ถ้าโรงเรียนใหญ่ๆก็ประมาณเดือนละ 3-4 ครั้ง เห็นจะได้ บางครั้งมีมาตั้งบูธขายของกันทั้งบริษัทเลยก็มี เอาสินค้ามาล่อตาล่อใจเราอยู่นั้นแหละ
ซึ่งงานนี้ต้องมองไปถึงต้นทุนชีวิตของแต่ละคนแหละนะ เพราะแต่ละคนไม่เหมือนกัน แล้วการใช้เงิน การบริหารการเงิน ปัจจัยต่างๆก็ต่างกันอีกด้วย ครูที่ไม่มีหนี้ก็มีและอาชีพอื่นๆ ก็มีหนี้ไม่น้อยไปกว่าวงการครูหรอกนะ
ที่มา : Wiriyah Eduzones, kruvoice