ปุ้มปุ้ย เปิดใจทั้งน้ำตา เจอปัญหาชีวิตคู่ที่หาทางออกไม่ได้ กดดันคนมองว่าต้องมีความสุขตลอดเวลา

คอมเมนต์:

เปิดใจกำลังเจอปัญหาชีวิตคู่ที่หาทางออกไม่ได้ อยากหาวิธีแก้ไข หาทางออกอย่างไรไม่ให้รักต้องเจอทางตัน#ปุ้มปุ้ย #กวินท์

    ถือเป็นคู่รักขวัญใจวัยรุ่นเลยก็ว่าได้ สำหรับคู่ของ ปุ้มปุ้ย พรรณทิพา นางแบบ-เน็ตไอดอลคนดัง ภรรยาสุดแซ่บของนักร้องหนุ่ม กวินท์ ดูวาล ที่เมื่อไม่นานมานี้ได้ออกมาเปิดใจผ่านรายการ Club Friday SHOW โดยเผยว่า คู่ของตนเองกำลังเจอปัญหาชีวิตคู่ที่หาทางออกไม่ได้ อีกทั้งต้องอยู่กับความกดดัน เพราะคนส่วนใหญ่ชอบคิดว่าคู่รักเน็ตไอดอลต้องมีความสุขตลอดเวลา 

    โดยสาว ปุ้มปุ้ย เผยว่า เธออยากมาขอคำปรึกษา พี่อ้อย-พี่ฉอดมาก และยอมรับว่า ชีวิตหลังแต่งงานเจอปัญหาหนัก หน้าฉากที่คนเห็นว่าน่ารัก แต่ชีวิตจริงไม่ใช่ ทั้งปัญหาไลฟ์สไตล์ที่ต่างกัน ทั้งเรื่องมุมมองความคิดและการมีเวลาให้กัน ยิ่งฝ่ายชายมีปัญหาติดเกม จนทำให้ทั้งคู่ทะเลาะกันบ่อย ค่อย ๆ บั่นทอนชีวิตรัก ซึ่งตอนนี้ก็ยังหาทางออกไม่ได้ เพราะต่างคนก็มีเหตุผลของตัวเอง

 

Sponsored Ad

 

ภาพจากอีจัน

    ปุ้มปุ้ย ยอมรับว่า ปัญหาสะสมมาเรื่อย ๆ และกำลังจะถึงขีดของตัวเองแล้ว โดยในมุมมองของปุ้ย มองว่า ตนกลับบ้านมาเหนื่อย ๆ จากทำงาน หิวมาก กลับมาบ้านก็หวังจะได้ไปกินข้าวกับสามี แต่สามีมัวแต่เล่นเกมและต้องรอสามีเล่นเกมจนเสร็จ กว่าจะได้ไปกินข้าวร้านก็ปิดแล้ว

    ปุ้มปุ้ย : แล้วเขาติดเกมแล้วเราไม่โอเคกับการที่เรากลับบ้านมาเราไม่อยากเห็นเขานั่งเล่นเกม คือ ถึงเราไม่ได้มีอะไรคุยกันเหมือนเมื่อก่อนเพราะเราอยู่ด้วยกันมานาน แต่อย่างน้อยมานั่งข้าง ๆ กันก็พอ แต่เรารู้สึกว่าการเล่นเกมเอาเขาไปอยู่อีกโลกหนึ่งแล้วคือเราไม่ได้อยู่ตรงนั้นด้วย แล้วสิ่งที่เขาจะแก้ไขคือ โอเคเราจะไม่เล่น แต่ก็ไม่เคยที่จะไม่เล่น แล้วสุดท้ายพอมาเคลียร์กันแล้วมานั่งคุย นั่งปรับกันสุดท้ายเขาพูดออกมาเลยว่า "เธอ...เราติดเราเลิกเล่นไม่ได้"

 

Sponsored Ad

 

ภาพจากอีจัน

    กวินท์ : แต่คำว่า เราติดเราเลิกเล่นไม่ได้ เพราะเราติดจริง ๆ เพราะ ปุ้ย เขาคิดว่าผมไม่ทำงาน ซึ่งเราทำงานแล้วถ้าผมไม่ทำงานผมจะหาเงินมาจากไหนแต่ผมมีช่วงเวลาส่วนตัวของผม และผมเล่นเกมส์ในส่วนช่วงเวลาของผม บางส่วนผมแล้วเราก็เล่นยาวไปจนเราไม่ได้ดูเวลามันเลยกระทบชีวิตคู่ของผมกับ ปุ้ย ซึ่งเวลา ปุ้ย เดินเข้ามาแล้วไม่พอใจเพราะว่า ปุ้ย เก็บมาหลายรอบแล้ว แต่พอไม่ไหวเขาก็เดินเข้ามาดึงประตูแล้วทำหน้าเหวี่ยงแล้วผมก็พูดกับเขาไปว่าอย่าทำแบบนี้มันทำให้เรารู้สึกแย่ แทนที่จะพูดว่า..เลิกเล่นเกมส์นะจะได้ไปกินข้าวกัน แต่มันไม่มีประโยคนี้เพราะมันต้องเลยทันที เพราะผู้หญิงเขาเป็นแบบนี้ครับ ต้องการอะไรทันที ห้ามรอ 5 นาที 10 นาที แต่ว่ากินข้าวตอนนี้ต้องลุกครับผม

 

Sponsored Ad

 

ภาพจากอีจัน

    ปุ้มปุ้ย : เพราะชีวิตประจำวันของเราคือ 6 โมงเช้าเราต้องตื่นแล้ว กินข้าว ทำงาน ใช้แรงงาน ทำงานถ่าย Vlog คิดคอนเทนต์เดินทางกว่าจะถึงบ้าน 2 ทุ่ม เพราะฉะนั้นบางวันเราแทบไม่มีเวลากินข้าว และเราต้องมากินข้าวเย็นกับเขาเพราะฉะนั้นการที่เราเหยียบเท้าเข้ามาในบ้าน คนที่ไม่ได้กินข้าวแล้วทำงานหนักมาทั้งวันต้องมารอเขาที่ต้องเล่นเกมส์เสร็จตานี้ก่อน ถึงได้กิน แล้วคือ เราย้ายบ้านไปอยู่แถวราชพฤกษ์ร้านอาหารไม่ได้เปิดดึกเหมือนทองหล่อค่ะ 2-3 ทุ่ม คือ ไม่มีอะไรให้กินแล้ว หนูเลยมีความรู้สึกว่าการกินข้าวเย็นมันไม่ต้องรอให้เล่นเกมส์เสร็จ

 

Sponsored Ad

 

    กวินท์ : ซึ่งมันไม่ได้เป็นแบบนั้นตลอด แต่ผู้หญิงคิดว่ามันเป็นทุกวัน ในมุมมองผมก็จะรู้สึกว่า อะไรอีกแล้ว และ เขาจะชอบบอกว่าเราไม่ชอบพาเขาออกไปกินข้าวข้างนอกเพราะว่าเราชอบบ่น แต่ที่เราบ่นเพราะผู้ชายคนหนึ่งที่อยากบ่นเพราะรถมันติด เพราะกรุงเทพฯมันเป็นอย่างนี้ แต่ถามว่าเราเคยปฏิเสธไหม ก็ไม่เคย พาไปทุกรอบ

  

  ปุ้มปุ้ย : ตัดภาพไปตอนคบกันแรก ๆ เธอเราชอบรถติดมากเลย เพราะมันได้ใช้เวลากับเธอมาก (หัวเราะ) บ้านอยู่ทองหล่อ ขับไปรับเราที่ เมืองทอง พาไปทานข้าวที่พระราม 7 เรายังบอกเลยว่าเราเกรงใจเดี๋ยวเราไปเจอกันที่ร้านได้นะ เขาก็บอกว่าไม่เขาชอบขับรถเพราะจะได้ใช่เวลาบนรถไปกับเธอ
    กวินท์ : อันเราจำได้ แต่บางทีเราคบกันมานานแล้ว มันสั่งอาหารเดี๋ยวนี้มันส่งที่บ้านแล้ว 

 

Sponsored Ad

 

    ซึ่งปุ้มปุ้ยยังเผยอีกว่า ชีวิตตัวเองไม่กลัวเรื่องจน เรื่องลำบาก "หนูพร้อมที่จะซัพพอร์ตเขาทุกอย่าง แต่สิ่งที่หนูขอในชีวิตไม่กี่อย่าง คือ เรื่องกินเพราะหนูทำงานหนัก" 

    ขณะที่หนุ่ม กวินท์ ก็มีเหตุผลว่าเล่นเกมในช่วงเวลาที่เสร็จงานแล้ว ตนก็รู้ปัญหาว่ากระทบชีวิตคู่ พยายามปรับตัว แต่ยังทำไม่ได้เท่าที่ภรรยาต้องการ อีกทั้งยังอยากให้ ปุ้ย พูดและเปลี่ยนวิธีคิดแล้วการกระทำ อย่างเช่น แค่พูดว่า "เธอเลิกเล่นได้แล้วนะ ไปกินข้าวกันได้แล้ว"

 

Sponsored Ad

 

    จากปัญหาที่สะสมมาเรื่อย ๆ จากทะเลาะโต้เถียงกลายเป็นฝ่ายหญิงเงียบและเก็บสะสมแสดงออกทางสีหน้าไม่พอใจ ทำให้ฝ่ายชายรู้สึกแย่ กลายเป็นปัญหาหนักสะสมไม่ได้รับการแก้ไข ซึ่งในขณะเปิดใจทั้งคู่ก็มีความเห็นที่ไม่ตรงกัน เกิดการโต้เถียงเล็กน้อยในรายการ ซึ่งพิธีกรก็ต้องช่วยกันให้คำปรึกษา พร้อมคำแนะนำในการปรับตัวเอง

    พี่อ้อย : บ่อยครั้งที่เราไม่คุยกันดีกว่าให้มันเงียบ ๆ ไปดีกว่า แต่พอปัญหามันถูกสะสมมันจะก้อนใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ เราก็จะรู้สึกว่าไม่ต้องพูดอีกต่อไปแล้วจนมันเกิดอคติ พอเราได้คุยกันเราทั้งคู่อาจจะรู้ว่าเราต้องการอะไร

Sponsored Ad

    กวินท์ : ซึ่งผมอยากให้คนทางบ้านได้รู้ว่าจริง ๆ ชีวิตเรามันมีทั้งทุกข์ ทั้งสุข มันมีเศร้า มันมีทุกอย่างอย่ามองว่าทุกอย่างสดใสไปหมด แต่เราทั้งคู่มีเป้าหมายเดียวกันที่จะไปด้วยกันในจุดจุดนั้น แต่ในระหว่างทางมันก็ไม่ได้ง่ายนะ

 

ภาพจากอีจัน

    นอกจากนี้ทั้งคู่ยังเผยอีกว่า กว่าจะเริ่มฝ่าฟันอุปสรรคต่าง ๆ นานามาด้วยกันขนาดนี้ ช่วงแรก ๆ ที่คบกันทั้งคู่เคยเกือบเลิกกันมาแล้ว 

    กวินท์ เล่าว่า ช่วงนั้นตนเพิ่งเป็นทหารมาแล้ววันนั้นเป็นวันเกิดเพื่อนของปุ้ย เลยอยากไปเที่ยวกันต่อ เพราะรู้สึกอยู่ในค่ายมานานมาก ถึงแม้ว่าเราไม่มีเงินแต่เราอยากจะไปกินเหล้ากับเพื่อน แต่ปุ้ยไม่พอใจ อยากให้กลับบ้าน เพราะ ปุ้ย ต้องทำงานตอนเช้า "เราก็ไม่เข้าใจว่าทำไมแค่ไปกินเหล้ากับเพื่อนคุณจะนอนก็นอนสิ" เช้าอีกวันตนจึงโทรไปง้อ แต่ปุ้ยทำเสียงไม่ดีใส่ ตนตัดสินใจว่าจะไม่ทนกับคำพูดแบบนี้ คู่เราไม่ควรจะเป็นแบบนี้ ตัดสินใจว่าจะเลิกกับเขาถึงรู้ว่าเป็นการตัดสินใจที่ผิด

    และผมก็ได้เห็นบางสิ่งบางอย่างในตัวเขาซึ่งถ้าผมไม่ได้เลิกอาจจะไม่เห็นสิ่งนั้นในตัวเขา อย่างเช่น ถ้าผมไม่มีผู้หญิงในชีวิตของผม ผมก็ไม่อยากอยู่ เราได้เห็นศักยภาพที่เขาทำให้เราเป็นคนดีขึ้น (น้ำตาคลอ)

    จากนั้นรูปที่ขึ้นมาคือ รูปดอกไม้ (กวินท์ พูดพร้อมน้ำตาคลอ)

    ปุ้มปุ้ย เผยว่า "เวลาที่ กวินท์ ให้ดอกไม้ ปุ้ย เราจะชอบเอาไปใส่หนังสือให้มันแห้งแล้วมันสวยดี เราเลย tag เขาไปในตอนนั้น"
    กวินท์ : เรารู้สึกว่าไม่มีผู้หญิงคนนี้ในชีวิตแล้วเรากลับไปเป็นเหมือนเดิมเที่ยวเหมือนเดิม ในจังหวะนั้นเราคิดว่าการที่เราไม่มีเขาในชีวิตเพราะเราคิดว่าเราดึงเขาลงอยู่เราไม่มีเงิน (ร้องไห้) เราทำอะไรดีๆให้ผู้หญิงคนนี้บ้าง เราเลยทักไปหาเขาว่าเรากำลังจะตายแล้ว ไม่เหลืออะไรแล้ว
    ปุ้มปุ้ย : ตอนแรกเราคิดว่าที่เขาทักมาหลังจากบอกว่าเลิก หมาหวงก้างแล้ว พอเห็นว่าเรามีคนใหม่ก็จะกลับมาแล้ว
    กวินท์ : เราก็บอกกับเขาว่าไม่เป็นไรคุยกันต่อได้เลย แต่เราจะอยู่ตรงนี้เราจะพยายามของเรา คือ คนนั้นอาจจะได้แต้มไปเรียบร้อยแล้วแต่ไม่เป็นไรเราก็จะอยู่กับเขาแบบนี้ คือ เรื่องนี้เราขอโทษเธอแบบมันเป็นการตัดสินใจที่ผิดมากๆ ... แต่สุดท้ายเราได้มาแต่งงานกันแล้วเราก็ต้องทำให้มันดีที่สุดรู้เปล่า (อันนี้บอกตัวเราทั้งคู่) เพราะว่าคู่ชีวิตมันต้อง 50/50 ไม่ใช่ใครคนใดคนหนึ่งทำคนเดียว

ชมคลิป

ชมคลิป

v

v

v

ชมคลิปเต็ม >>>>> กดตรงนี้ คลิ๊ก !!!! <<<<<

ที่มา : Club Friday SHOW, ejan

บทความแนะนำ More +

บทความที่คุณอาจสนใจ