เป็นอีกหนึ่งคู่ที่ถูกจับตามองเป็นอย่างมาก สำหรับ ตงตง กฤษกร และ เบสท์ รักษ์วนีย์ หลังมีข่าวลือหนาหูว่าทั้งคู่ได้เลิกลากันไปแล้ว หลังฝ่ายหญิงอันฟอลโลไอจีและลบรูปคู่ออกหมด ก่อนที่ "เบสท์" ยังได้จบทุกข้อสงสัย ด้วยการประกาศลั่นกลางไอจีว่า "โสดมากเลยทักมาจีบได้" [อ่านข่าว : ตอกย้ำข่าวลือ "เบสท์" โพสต์รูปสวยในวันสงกรานต์ ประกาศชัด "โสดมากทักมาจีบได้"]

    ล่าสุด "สมรักษ์ คำสิงห์" ได้ออกมาแฉเดือด เปิดหมดเปลือกถึงปมเลิกลาของลูกสาวและฝ่ายชายว่า มีทั้งเรื่องผู้หญิง เรื่องความไม่แมน มาอยู่บ้านลูกสาว 2 ปี ค่าน้ำค่าไฟไม่ช่วยออก แถมตนยังเห็นคาตาว่าฝ่ายชายง้างมือจะตบลูกสาวอีกด้วย

    สมรักษ์ เผยว่า ปัญหาของการเลิกลาน่าจะเป็นปัญหาสะสม ทั้งเรื่องผู้หญิงซ้ำซาก แล้วก็ความเกรงใจที่ฝ่ายชายควรจะมี มาอยู่บ้านเบสท์ 2 ปี ค่าน้ำค่าไฟ หรือค่าอะไรไม่ออก เรื่องนี้เบสท์ก็คิดน้อย

    บางทียืมเงินยืมทีละ 5 ล้าน 2 ล้าน ก็ไม่เป็นไร แต่ว่าถ้ามองถึงอนาคต สำหรับคนที่จะมาเป็นพ่อของลูกในอนาคต แบบนี้มันจะเป็นไปได้ไหม มันเป็นเรื่องของความแมน ความเป็นลูกผู้ชาย ซึ่งตอนแรกเขาเข้ามาเราก็ไม่รู้นิสัย คบกันตอนแรก 3 วันดี 4 วันไข้ เราก็ช่วยปลอบประโลมทั้งสองฝ่าย ไม่ได้อยากให้เลิกหรอก

    สมรักษ์ เผยอีกว่า เมื่อคืนที่ผ่านมา ตงตงก็มาร้องห่มร้องไห้กับตนจะให้ช่วย ซึ่งจะให้ตนช่วยยังไง ทุกอย่างเวลาพูดเวลาปรึกษา บอกไปหลายครั้งแล้วเคยทำตามไหม ก็ไม่เคย จนเบสท์หมดความอดทน แล้วก็ตอนที่เล่นละครดัง ๆ เรื่องคุณชายก็เปลี่ยนไป ก็อ้างว่า "ช่องบีบผม" คือตนมองว่า เหตุและผลมันไม่เพียงพอ  

    แล้วก็อย่างเรื่องผู้หญิงอ่ะ เขาถ่ายรูปไปโชว์เพื่อนบอกว่ากูนอนกับตงตง แล้วเขาก็ส่งมาให้เบสท์ต่อ มันก็ส่งหลายครั้งหลายครั้ง ก็มีเรื่องผู้หญิง มีเรื่องไม่สปอร์ตด้วย แล้วทีนี้มันจะมีข้อดีตรงไหนขีดมาดิ ก็มีแต่ความหล่ออย่างเดียว 

    แล้วเวลาเบสท์โดนแฟนคลับด่า ตงตงก็ไม่เคยออกมาปกป้องเลย แล้วกรณีที่มีข่าวว่ากลัวพ่อ คือตนไม่เคยไปด่าเลย มีแต่ป้องกัน ทีเรื่องอย่างนี้นะตงตงเขายังมาบอกว่า "พ่อช่วยหน่อย" จะไปช่วยยังไงหัวใจคนมันบังคับกันไม่ได้ ก็ถือว่าทำบุญมาร่วมกันแค่นี้ อนาคตข้างหน้าถ้าไปเจอคนใหม่ ไปเจอครอบครัวใหม่ ก็ต้องเอาข้อที่พ่อเตือนไปปรับปรุงตัวเอง คบผู้หญิงมันต้องมีความรับผิดชอบในเรื่องของค่าใช้จ่าย แล้วกับพ่อแม่ผู้หญิง ยังไงก็อย่าไปเถียงเขา อย่าไปทะเลาะกับแม่กับพ่อเขา มันไม่ใช่

    ที่ผ่านมาตนก็เตือนก็สอน คุยแบบลูกผู้ชายมาโดยตลอด เขาก็ครับ ๆ แต่ไม่มันไม่เคยปฏิบัติ ไม่เชื่อ เอาความคิดตัวเองเป็นใหญ่ หลัง ๆ มานี้ก็เปลี่ยนไปเยอะ อ้างว่าช่องอย่างงั้นช่องอย่างนี้ ไม่ให้ลงรูปคู่ พยายามตัดเบสท์ออก เบสท์ก็เริ่มทำใจอ่ะ เรื่องของมึงไม่อยากลงก็ไม่ต้องลง จนถึงที่สุดน้ำตาสักหยดน้ำก็ไม่มีอ่ะ

    ถ้าถามว่าทุกคนแฮปปี้ไหมที่เลิก ทุกคนแฮปปี้ทุกคนแฮปปี้ แฟนคลับก็แฮปปี้ เพราะว่าทุกคนเขารู้หมด เอาง่าย ๆ อย่างกรณีที่ไปเที่ยวมหาสารคามกับผู้หญิง ก็มีคนถ่ายมาให้เยอะแยะ ไปโรงแรมไหนรู้หมด เบสท์แฟนคลับเขาเยอะ ถึงเวลาต้องพูดก็ต้องพูดอ่ะ เป็นดาราอย่ามาปั้นหน้าใส่กัน

    ส่วนเรื่องเลิกไม่เลิกกัน เบสท์เขาไม่ได้มาปรึกษา เขาโตแล้ว ตนก็ปล่อยให้เขาตัดสินใจ ตอนแรกตนก็ไม่รู้เรื่องอะไร แต่เบสท์เขาบินมาหาที่ขอนแก่น ตนก็ถามว่าตงตงไม่มาเหรอ เขาก็บอกว่าไปมหาสารคามแล้วก็ติดต่อไม่ได้เลย ถามว่าทะเลาะกันเหรอ ก็ไม่ได้ทะเลาะอะไร เขาก็บอกมันทนมานานแล้วพ่อ ไอ้เราก็ไม่ถามต่อ ก็ได้แค่บอกให้ใจเย็น ๆ ตามประสาคนเป็นพ่อ

    แล้วอย่างเหตุการณ์เวลาจะไปเมืองนอกซื้อตั๋วเครื่องบินกันแล้ว จู่ ๆ ไม่พอใจก็ไม่อยากไปบอก "ผมไม่ไปแล้ว" อ้าวฉิบหายแล้ว แฟนคลับรอที่สนามบิน มันก็ต้องไป มึงไม่ไปทำไมมึงไม่บอกตั้งแต่ทีแรกไปแต่ละครั้งมันจะมีงอแงถึงเวลาไม่พอใจปุ๊บบอกไม่ไป ตนก็ไม่เข้าใจว่าครอบครัวเรามีแต่ความอบอุ่นคึกคัก มึงเข้ามาแล้วแบบ... คือเราก็เข้าใจนะว่าครอบครัวเขาไม่ได้มีความอบอุ่นเหมือนเรา เขาเข้ามาเราก็พยายามให้ความรักเขา แต่มันก็ยังเป็นแบบนี้ก็ถือว่าทำบุญร่วมกันมาแค่นั้น และตนก็รู้ว่าเบสท์พยายามอดทนให้ถึงที่สุดแล้ว

    ตนมองว่าเป็นลูกผู้ชายก็ต้องรับผิดชอบผู้หญิงจะมีมากมีน้อย หรือต่อให้ผู้หญิงมีมากกว่า ถ้าได้รับการดูแลที่ดี การใส่ใจจากผู้ชายมันก็จะรู้สึกดี กินข้าวก็มีแต่เบสท์จ่าย แล้วเรื่องรถ Alphard ที่ออกมา แรก ๆ อ่ะมีแต่ตงตงใช้ ไม่ใช่เบสท์ใช้ ตนก็ไม่ได้ใช้นะ มีคนขับรถแล้วก็มีเงินเดือนคนขับรถพร้อม ซึ่งใันเป็นรถครอบครัวก็ไม่ได้ว่าอะไร เพราะว่าเราทุกคนก็มีรถคนละคันอยู่แล้ว แต่ที่ไม่ได้ใช้รถเพราะอะไรรู้ไหมล่ะ ตีสี่ตีห้ารถตู้คันนี้ไปวิ่งอยู่รีสอร์ต

    เบสท์เขาก็ไปสอบสวนคนขับรถก็สารภาพหมดเพราะเขากลัวตกงานพอถามมีใครบ้าง เขาก็บอกว่ามีผู้หญิง ทำอะไรไม่รู้เพราะว่าเขาอ่ะนอนรออยู่ในรถ มีผู้หญิงด้วยมีอะไรด้วยเหรอ เบสท์เขาไม่มีหลักฐาน แบบตงตงเขาก็บอกว่าไปปาร์ตี้มั่วสุมกับเพื่อนนักแสดงช่องวัน ไม่มีเรื่องผู้หญิง แล้วทำไมมึงไปตอนตีสามตีสี่ พอตงตงมันไปถ่ายละคร เบสท์ก็ดูกระเป๋าก็ไปเจอหลักฐาน ในกระเป๋า ผมไปก็ดู

    ข่าวชอบออกว่าเขากลัวพ่อ ที่ผ่านมาตนช่วยเขาตลอด อย่างเมื่อคืนตนกลับจากขอนแก่น เขาโทรหา "พ่ออยู่ไหนครับ พ่อช่วยผมหน่อยครับ" มานั่งอยู่หน้าบ้าน มาร้องไห้กับผม ก็คือเบสท์ไม่ให้เข้าบ้าน ตอนแรกก็จะพาเข้าไปคุย แต่บอกว่าถ้าพ่อพาเข้ามา เบสท์จะออกจากบ้านด้วย ก็คือเราก็กลัวว่าลูกเราจะเสียใจ แต่ถ้าเบสท์ทำใจได้พวกเราทุกคนก็แฮปปี้

    ส่วนของที่บ้านถ้าจะเอาก็ให้บอกมา จะให้คนขนไปให้ และถ้าหลังจากนี้เขาจะตามง้ออะไรกันก็ไม่ว่าเราตัดสินใจแล้ว แต่ว่าถามว่าเบสท์มีคนอื่นหรือยัง ไม่มี เขาไม่ใช่เป็นคนเที่ยวผับเที่ยวอะไรแบบนี้

    ถามว่าโกรธไหมที่เขาทำกับลูกเราอย่างนี้ คือมันเป็นธรรมชาติไม่โกรธ แต่ถ้ามาทำลูกเราอ่ะดิ บางวันทะเลาะกันอยู่บ้าน เราเห็นตงตงง้างมือ จะตบเบสท์เราก็โมโหแล้ว เอามึงเอาดิ

    คือบางอย่างตนก็ไม่ได้อยากออกมาพูดให้เป็นข่าวนะ คือลูกของเรา เขามีความสุข หมดเคราะห์หมดโศกหมดเวรหมดกรรมแล้ว (สวยขึ้นด้วย?) ใช่อมทุกข์มานาน ตอนนี้จะไปไหนก็ได้แต่งตัวยังไงก็ได้แม่เตรียมชุดให้ดูแลทำแบบนี้มาตลอด 

    อย่างเมื่อก่อนบางชุดนะ โป๊ไปตงตงก็ห้ามใส่ บางทีทะเลาะกันผมก็ต้องเคลียร์ให้ แม่เขาบอกว่ามันจะโป๊ตรงไหน แม่ก็ไปงานด้วยอยู่ แม่เขาดูแลมาตั้งแต่เด็ก ตงตงก็มีปัญหากับแม่อีก

    แล้วอย่างตอนสงกรานต์อ่ะ ถ้าเป็นผม ผมอยู่มหาสารคาม ผมจะรีบตีรถมาหาเบสท์ที่ขอนแก่นเลย มหาสารคามห่างกับขอนแก่นห่างกันไม่เกินชั่วโมงเดียว เพราะก่อนไปเบสท์ก็ถามว่า "ไปหาแม่กลับวันไหนจะเล่นน้ำกับเบสท์หรือเปล่า" ถามกระจ่างแจ้งแล้ว รอคำตอบแล้ว แต่ก็นิ่งเฉย แล้วบอกไม่ได้ไปกับผู้หญิงหรอก 

    คือมันไม่มีความแมน ค่าข้าวค่าไฟ คือลูกสาวทำงานมาเลี้ยงผู้ชาย มันเป็นยังงั้นจริง ๆ สั่งของสั่งข้าวสั่งชาบูก็มีแต่เบสท์ออก สบู่ยาสีฟันเบสท์ออกหมด ก็ถือบทเรียนชีวิตของเขาไม่เป็นไรหรอก

ที่มา : khaosod