จากกรณีที่มีสาวรายหนึ่ง โพสต์เล่าเรื่องราวของลุงเก็บป้ายทะเบียนรถที่ทำหลุดช่วงน้ำท่วมได้ แต่เมื่อไปขอรับคืนกลับเรียกเงินแผ่นละ 100 บาท จนสร้างเสียงวิพากษ์วิจารณ์ตามมานั้น [อ่านข่าวก่อนหน้า : สาวโวยเจอลุงเก็บ "ป้ายทะเบียนรถ" ที่หล่นได้ แต่เจอเรียกค่าเหนื่อยแผ่นละ 100 บาท]

    ทางด้านของคุณลุงผู้เป็นคนเก็บป้ายทะเบียนรถได้ ก็ได้ออกมาให้ข้อมูลว่า ตนไม่เคยเรียกรับเงิน ที่ผ่านมาแล้วแต่เจ้าของจะให้ ส่วนที่บ้านของลุงนั้นก็มีป้ายทะเบียนรถนับร้อยๆ ป้ายวางเรียงกันไว้ พร้อมกับเลขบัญชีติดอยู่ข้างฝาผนัง

    ในขณะที่โลกออนไลน์เสียงแตกออกเป็นสองฝั่ง ฝ่ายหนึ่งมองว่า การให้เงิน 100 บาทกับลุงเป็นเหมือนสินน้ำใจและยินดีจะจ่ายให้ เพราะหากต้องไปติดต่อทำเรื่องขอป้ายทะเบียนใหม่เองก็อาจเสียเงินเสียเวลามากกว่านี้ก็ได้ และหากหาเองก็อาจหาไม่เจอ

    สำหรับเรื่องนี้ นายนิติธร แก้วโต หรือ ทนายเจมส์ ทนายชื่อดังของเมืองไทย ได้ออกมาโพสต์เฟซบุ๊กแสดงความคิดเห็นในเรื่องนี้ว่า การเก็บป้ายทะเบียนรถยนต์ได้ แต่ไม่ส่งคืนเจ้าของ แถมเรียกเงินค่าเก็บ 100 บาท เสี่ยงจะถูกดำเนินคดีลักทรัพย์ และกรรโชกทรัพย์ คุ้มกันไหมกับเงินแค่ 100 บาท

    การเก็บป้ายทะเบียนได้และนำส่งคืนเจ้าของนั้น ถือว่าเป็นพลเมืองดี เป็นการบรรเทาความเสียหายความเดือดร้อนให้กับเจ้าของรถ น่ายกย่อง น่าชื่นชม น่านับถือ แต่การที่ไปเรียกร้องเงินจากเจ้าของทะเบียนรถ เพื่อแลกกับการคืนทะเบียนรถ หากเจ้าของทะเบียนรถไม่ยอมจ่ายเงินและไปแจ้งความ ก็สุ่มเสี่ยงที่จะถูกดำเนินคดี เนื่องจากเอาทรัพย์ของผู้อื่นไป โดยมีเจตนาทุจริต เพื่อแสวงหาประโยชน์อันมิชอบด้วยกฏหมาย การกระทำครบองค์ประกอบความผิด

    ในส่วนการที่ไปเรียกร้องเงิน เพื่อแลกกับการคืนป้ายทะเบียนรถ ทั้งที่ไม่มีสิทธิเรียกร้องตามกฏหมาย หากเจ้าของทะเบียนรถไม่ยอมจ่ายเงิน และไปแจ้งความ ก็สุ่มเสี่ยงที่จะถูกดำเนินคดีในข้อหาพยายามกรรโชกทรัพย์อีกข้อหาหนึ่งด้วย

    กรณีแบบนี้ไม่ได้ต่างอะไรกับการที่เก็บโทรศัพท์มือถือได้ แต่ไม่ยอมคืนเจ้าของ และเรียกร้องเงินจากเจ้าของโทรศัพท์ ซึ่งเคยมีประเด็นปัญหากันมาแล้ว

    ทางทนายเจมส์ ยังทิ้งท้ายฝากไว้เป็นข้อคิดว่า เงินแค่ 100 บาท อาจจะไม่คุ้มกับการถูกดำเนินคดี ทั้งนี้ หากเจ้าของทะเบียนรถจะมอบเงินให้เป็นสินน้ำใจ นั่นก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง ทำดี อย่าหวังสิ่งตอบแทน การลงมือทำดี ย่อมได้ทุนคืนเป็นบุญเป็นกุศลกลับมาแล้ว ทำดีไม่มีขาดทุน ยิ่งถ้าได้สิ่งตอบแทนมาโดยสุจริต ก็ถือว่านั่นเป็นกำไร

โพสต์ดังกล่าว

ที่มา : ทนายเจมส์ LK