ชีวิตคนในเมืองเต็มไปด้วยการแข่งขันกับเวลา ยิ่งช่วงเวลาทำงานและเลิกงาน จะมีผู้คนมากมายเบียดเสียดไม่ว่าจะเป็นตามบนรถเมล์ รถไฟฟ้า รถไฟ และท้องถนน สื่อต่างประเทศเปิดเผย ได้มีชาวเน็ตคนหนึ่งได้โพสต์ภาพเล่าเรื่องราวที่เขาได้ไปเห็นมา ที่เขตไทเปของเกาะไต้หวัน ในช่วงวันหนึ่ง ซึ่งเป็นช่วงเวลาเลิกงาน ผู้คนเบียดเสียด มีชายนั่งรถเข็นคนหนึ่งเขาพยายามที่จะขึ้นรถเมล์ประจำทาง แต่เนื่องจากผู้คนเบียดเสียดมากมาย ทำให้เขาไม่สามารถขึ้นไป

(ภาพประกอบเนื้อหาเท่านั้น)

    โดยผู้ตั้งโพสต์บอกว่า ในวันนั้นเขากำลังจะขึ้นรถเมล์เพื่อเดินทางไปสัมภาษณ์งาน แต่เนื่องจากในช่วงเช้าวันนั้นเอง ได้เกิดแผ่นดินไหว ทำให้รถไฟฟ้าต้องหยุดให้บริการชั่วคราว เขาจึงต้องไปอาศัยรถเมล์เพื่อเดินทางไปสัมภาษณ์งานแทน 

    แต่ในระหว่างนั้นที่เขากำลังต่อคิวเพื่อขึ้นรถเมล์อยู่นั้นเอง และเมื่อรถเมล์ได้วิ่งเข้ามาจอดที่ป้าย ผู้คนที่ต่อคิวกันยาวเหยียดก็เริ่มแย่งกันขึ้นรถ จู่ๆ ก็มีเสียงของผู้สูงอายุตะโกนขึ้นมาว่า “ทำไมปล่อยให้เขาขึ้นไปก่อน”  เนื่องจากมีบางคนหลีกทางให้คนนั่งรถเข็นที่มาทีหลังได้ไปข้างหน้าก่อน จึงมีบางคนไม่ยอม...

    ทันใดนั้นเอง คนขับรถเมล์คันดังกล่าวก็มองไปทางด้านหลังประตู จากนั้นก็ลงมาแล้วพูดว่า “ขอทางหน่อย ผมจะลงรถ” แล้วก็เดินไปเปิดประตูช่องเก็บสัมภาระ เพื่อเอาแผงทางลาดสำหรับให้รถเข็นวีลแชร์ขึ้น

    พนักงานขับรถก็พยายามเบียดเสียดเข้าไปท่ามกลางผู้คน จากนั้นก็วางทางราด แล้วก็พูดว่า “คนข้างในรถออกมาก่อน ผมจะให้รถเข็นขึ้นไปข้างใน” ทั้งหมดนี้ใช้เวลาทั้งหมดประมาณ 5 นาทีเสร็จ แล้วก็เดินไปขึ้นรถขับรถต่อ

    และแล้วทุกคนก็ได้ขึ้นรถกัน ระหว่างนั้นผู้โดยสารบนรถก็เกิดพูดคุยกันถึงเรื่องนี้ พนักงานขับจึงพูดไปว่า “หากผมไม่ให้เข้าขึ้นคันนี้ เดี๋ยวคันต่อๆไปก็เหมือนเดิม เขาก็จะไม่ได้ขึ้นสักคัน” และเมื่อคนนั่งรถเข็นจะลงสถานีไหน พนักงานขับรถก็ต้องลงไปช่วยเหลือเช่นกัน

    พฤติกรรมนี้เป็นสิ่งที่พนักงานขับรถเมล์ หรือการคมนาคมขนส่งอื่นก็ต้องให้บริการ ซึ่งเป็นสิ่งที่คนไต้หวันเห็นกันเป็นประจำอยู่แล้ว ทำให้ผู้ตั้งโพสต์ได้ความรู้ใหม่ก็คือ เวลาจะไปขึ้นรถเมล์ รถไฟฟ้า รถไฟก็ต้องให้คนนั่งรถเข็นขึ้นก่อน

    ภาพแห่งความประทับใจนี้ทำให้ผู้ตั้งโพสต์รู้สึกว่า เป็นภาพที่อบอุ่นหัวใจเหลือเกินและทำให้รู้ว่าสังคมแห่งนี้ยังมีเรื่องดีดีเกิดขึ้นเสมอ

(ภาพประกอบเนื้อหาเท่านั้น)

(ภาพประกอบเนื้อหาเท่านั้น)

    ทันทีที่ภาพนี้ถูกเผยแพร่ออกไปก็ทำให้มีผู้คนจำนวนมากให้ความสนใจ และคอมเมนต์ว่า

    “โชคดีที่สังคมเข้าใจและหยิบยื่นน้ำใจให้”

    “แต่ก็ยังมีบางคนที่ยังเห็นแก่ตัว จะแย่งขึ้นไปก่อน”

    “ดูแล้วซาบซึ้งใจเหลือเกิน”

     “เป็นสังคมที่มีระเบียบจริงๆ และรู้จักเคารพสิทธิของทุกคนมาก”

ที่มา : idea543 | เรียบเรียงโดย หมื่นพันเหตุผล