คุณตาใช้เวลา 20 ปี สร้างผืนป่าในทะเลทราย เพราะเบื่อกับข้ออ้างที่เจ้าหน้าที่ไม่ยอมทำอะไรสักที

คอมเมนต์:

"ผมเห็นเงินมหาศาลถูกละลายไปกับโครงการที่ไม่มีความคืบหน้าอะไรเลย?" คุณตากล่าว

    วันนี้แอดจะพาไปรู้จักกับผู้ชายคนหนึ่ง เขาเป็นเหมือนวีรบุรุษคนหนึ่งของอินเดียเลยก็ว่าได้ เขามีชื่อว่า Anand Dhawaj Negi ชายวัยเกษียณจากงานราชการ ที่หันมาทุ่มเวลาบั้นปลายชีวิตกว่า 20 ปี เพื่อเปลี่ยนผืนทะเลทรายอันหนาวเหน็บและแห้งแล้งทางตอนเหนือของอินเดีย ให้มีพื้นที่สีเขียวอุดมสมบูรณ์ขึ้นมาได้

    โดยเรื่องราวนี้เกิดขึ้นเมื่อปี 1977 ขณะที่คุณตายังคงทำงานอยู่ในส่วนงบประมาณของโครงการพัฒนาพื้นที่ทะเลทราย ซึ่งในตอนนั้นรัฐบาลอินเดียได้มีโครงการสุดทะเยอทะยานที่จะบรรเทาผลเสียของการขยายตัวของพื้นที่ทะเลทราย เขาได้เห็นจำนวนเงินหลักล้านมหาศาลถูกละลายไปกับโครงการโดยที่ไม่มีผลลัพธ์อะไรเลย ด้วยความห่วงใยคุณลุงจึงไปถามกับนักวิทยาศาสตร์หรือเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับโครงการว่า "ทำไมมันถึงไม่มีความคืบหน้าอะไรเลย?"

 

Sponsored Ad

 

    คำตอบที่ได้กลับมาก็คือ "ยังขาดเทคโนโลยีในการพัฒนาพืชผลที่ยั่งยืนอยู่ได้ในสภาพแวดล้อมที่ไม่เอื้ออำนวยอย่างทะเลทราย" ด้วยความที่เป็นลูกชาวไร่ชาวนา คุณตาเองก็เริ่มเบื่อกับคำแก้ตัวต่างๆนานาของหน่วยงานรัฐ จึงอยากลงมือทำด้วยตนเอง ในปี 1999 คุณตาเริ่มลางานบ่อยขึ้น เพื่อไปลงมือทำงานส่วนนี้ด้วยตัวเองจนกระทั่งเมื่อเข้าสู่ปี 2003 คุณตาได้เกษียณออกจากงานราชการอย่างเต็มตัว ตั้งเป้าหมายใช้พลังทั้งหมดที่ยังเหลืออยู่เพื่อทำให้ทะเลทรายกลายเป็นสีเขียวให้ได้ (น่าชื่นชมมากจริงๆ)

 

Sponsored Ad

 

    คุณตากลับมาสู่ถิ่นฐานบ้านเกิดในพื้นที่รัฐหิมาจัลประเทศ เพื่อที่จะเปลี่ยนพื้นที่รกร้างกลางทะเลทรายอันหนาวเหน็บให้มีพื้นที่สีเขียวตามเป้าหมายที่วางไว้ และเพื่อให้ชาวไร่ที่กำลังดิ้นรนในพื้นที่แห่งนี้ได้เห็นว่ามันสามารถทำได้จริง แม้ว่ามันจะไม่ใช่เรื่องที่ง่ายเหมือนปอดกล้วยเข้าปาก ที่จะเห็นผลในทันที ซึ่งคุณตาเองรู้ดีว่าเขากำลังจะทำอะไร ในตอนแรกความพยายามของคุณตาประสบกับความล้มเหลว เนื่องจากเมล็ดที่ลงเพาะปลูกไปนั้นมีน้ำไม่เพียงพอ นั่นจึงเป็นความท้าทายอย่างแรกที่เขาเผชิญ

 

Sponsored Ad

 

    ต่อมาคุณตาได้ใช้วิธีปลูกพืชแนวราบ ไถพรวนให้เป็นพื้นที่ลาดเอียงเพื่อให้ได้ดินระดับสม่ำเสมอ เพื่อกักเก็บน้ำฝนและลดการพังตัวของดิน อีกทั้งทำงานร่วมกับชุมชนท้องถิ่นในการสร้างทางน้ำตื้นที่ไหลมาจากธารน้ำแข็งที่ห่างออกไป 25 กิโลเมตร

 

Sponsored Ad

 

    ซึ่งหลังจากที่เริ่มมีความคืบหน้าเป็นรูปเป็นร่างขึ้นมาบางส่วน ทางกรมชลประทานในพื้นที่จึงเริ่มเข้ามาให้ความช่วยเหลือและร่วมมือพัฒนาพื้นที่ ด้วยการช่วยสนับสนุนจัดหาน้ำและแหล่งน้ำให้

    เมื่อปัญหาเรื่องแหล่งน้ำสุดท้าทายที่เพิ่งจะได้รับการแก้ไขไป ตอนนี้ก็มีปัญหาหน้าดินแบบทรายที่ขาดสารอาหารจำเป็นต่อพืชผลที่คุณตาต้องการปลูกอีก ฉะนั้นคุณตาจึงเริ่มเลี้ยงแพะประมาณ 300 ตัว นำมูลของพวกมันไปผสมกับไส้เดือนเพื่อเพิ่มระดับไนโตรเจนในดิน 

 

Sponsored Ad

 

.

    เรียกได้ว่าทำทุกอย่างเพื่อให้ได้ผืนป่าในทะเลทรายจริงๆ นอกจากนี้คุณตาปลูกต้นโคลเวอร์รอบๆ พื้นที่โอเอซิส เนื่องจากมันจะย่อยสลายวนเวียนไปเรื่อยๆ เมื่อมีพืชใหม่ผุดขึ้นมาแทนที่ พร้อมกับช่วยปกป้องพืชอื่นๆ จากการที่มีสัตว์ประเภทหนูมากินพืชในพื้นที่ 

    เชื่อหรือไม่ว่า ในการลงแรง ลงทุนครั้งแรกของคุณตาใช้เงินส่วนตัวทั้งหมดไปกับการทดสอบเทคนิคการทำไร่ทำสวนท้องถิ่นผสมผสานกับวิธีการปลูกพืชทางวิทยาศาสตร์ มันเป็นช่วงการทดลองที่ยากลำบาก แต่เมื่อระยะเวลาผ่านไป พืชที่ปลูกในทะเลทรายนั้นมีอัตราตายน้อยลงจาก 85% เหลือเพียง 1% ซึ่งเป็นผลที่น่าพอใจเป็นอย่างมาก หลังจากพิสูจน์ได้แล้วว่าพืชมีมูลค่าอย่าง ถั่วแดง มันฝรั่ง ถั่วลันเตา แอปเปิล และแอปริคอต สามารถเติบโตได้ในสภาวะแวดล้อมแห้งแล้งอย่างทะเลทราย

 

Sponsored Ad

 

.

    คุณตาจึงเริ่มโฟกัสไปที่ต้นไม้มากขึ้น เพราะเขาพิจารณาแล้วว่าพวกมันคือส่วนสำคัญในการต่อสู้กับปัญหาสภาวะโลกร้อนที่เพิ่มมากขึ้นในพื้นที่นี้ “สิ่งสำคัญอันดับแรกของผมคือการปลูกป่า” ด้วยความช่วยเหลือของอาสาสมัคร 2 คน ทำให้คุณตาสามารถปลูกป่าขึ้นมาในพื้นที่เกือบ 1 ตารางกิโลเมตรกลางทะเลทรายได้จริงอย่างที่หวังเอาไว้ มันเป็นแรงและกำลังใจให้คุณตาไปต่ออย่างมีความหวัง

Sponsored Ad

     เมื่อเริ่มเห็นประสิทธิผล คุณตาก็ได้รับคำชื่นชมจากทั้งชาวบ้านท้องถิ่นและนักวิทยาศาสตร์จำนวนมาก หลังจากนั้น ผู้คนจากทั่วทุกสารทิศเข้ามาเยี่ยมชมและประจักษ์ให้เห็นกับตาว่าป่ากลางทะเลทรายผืนนี้มันมหัศจรรย์ขนาดไหน

 

    แต่ทว่าเรื่องเศร้าก็เกิดขึ้น เพราะในท้ายที่สุดแล้ว คุณตา Anand Dhawaj Negi ผู้เยียวยาพื้นดินทะเลทรายแห่งนี้ได้จากไปในช่วงเดือนพฤษภาคม 2021 ด้วยวัย 74 ปี แม้ว่าเขาจะจากไปแล้ว แต่เรื่องราวของคุณตาจะถูกจดจำในฐานะฮีโร่ หรือ วีรบุรุษคนหนึ่งประจำท้องถิ่น และโอเอซิสสีเขียวกลางทะเลทรายของเขาก็จะถูกอนุรักษ์เอาไว้เพื่อเป็นตัวย้ำเตือนว่า "ไม่มีอะไรเป็นไปไม่ได้"

    ความพยายามของคุณตาในครั้งนี้จะไม่สูญเปล่า ทั้งนี้ ทางครอบครัวของคุณตาเองก็จะสานต่อผลงานของคุณตาให้สำเร็จ เนื่องจากคุณตาเองได้ตั้งเป้าหมายเอาไว้มากมายหลายอย่าง 

    ทั้งนี้ก็เพื่อส่วนรวมและคนในท้องถิ่นทั้งนั้น ทางครอบครัวยังบอกว่าอีกว่า พื้นที่ป่าแห่งนี้ยังต้องขอให้หน่วยงานรัฐท้องถิ่นเข้ามาช่วยเหลือเป็นอย่างมาก ในการรับผิดชอบอนุรักษ์ผืนป่ากลางทะเลทรายแห่งนี้ให้คงอยู่ต่อไปในอนาคต

ชมคลิป

คลิปเปิดไม่ออก >>> กดตรงนี้ คลิก <<<

ที่มา : thebetterindia,GratitudeDNA 

บทความแนะนำ More +

บทความที่คุณอาจสนใจ