"ครอบครัวใบหยก" เป็นอีกหนึ่งครอบครัวที่ถูกจัดอยู่ในกลุ่มมหาเศรษฐีระดับต้นๆ แต่ในเรื่องการใช้ชีวิตไม่ได้โก้หรูเหมือนอย่างที่หลายคนคิดกัน

        ธุรกิจของ "ตระกูลใบหยก" นั้นมีมากมายเหลือคณานับ โดยมี เบียร์ ปิยะเลิศ ใบหยก ลูกชายคนโตและคนเดียวครอบครัวเป็นหัวเรี่ยวหัวแรงหลักในการบริหารธุรกิจครอบครัวกลุ่มใบหยก

(ขอบคุณภาพประกอบจาก hellomagazine)

        มีโรงแรมที่ต้องดูแลกว่า 10 แห่ง ทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด แถมยังมีโครงการสร้างออฟฟิศบิลดิ้ง กึ่งมิกซ์ยูส บนที่ดินเช่า 30 ปี ถนนศรีอยุธยา ซึ่งจะเป็นทั้งอาคารสำนักงาน พื้นที่ค้าปลีก

        ร้านอาหาร ในชื่อโครงการไดมอนด์ พาร์ค แถมยังมีธุรกิจสายการบิน ธุรกิจอาหารญี่ปุ่น ขนมและเบเกอรี่แบรนด์ญี่ปุ่น ที่เปิดให้บริการทั้งในเมืองไทยและในญี่ปุ่นด้วย

        รวมสาขาร้านอาหารในเครือข่ายมากกว่า 30 แห่งทั่วประเทศ แถมยังมีแพลนจะนำบริษัทด้านอาหาร เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯอีก 

        ส่วนบุ้ง สะธี ใบหยก ก็เป็นเจ้าแม่ตลาดประตูน้ำ ดูแลพื้นที่ให้เช่า ทั้งตึกใบหยก 1 ใบหยก 2 ซึ่งเคยได้ชื่อว่าเป็นตึกสูงที่สุดของไทย ย่านประตูน้ำ ทำเลค้าขายสุดฮ็อตที่มีแต่คนแย่งชิงพื้นที่

        ภายในสองตึกนี้ยังมีโรงแรมขนาดใหญ่ ทั้งโรงแรมใบหยกสวีท และใบหยกสกาย ที่มีลูกค้าชาวจีนแห่มาอุดหนุนกันเนืองแน่นที่คุณบุ้งต้องดูแล รวมทั้งโรงแรมอินทรา ประตูน้ำ

        ส่วนเรื่องมูลค่าทรัพย์สินทั้งสามตึกนี้ ย่านทำเลนี้ คงไม่ต้องบอกนะลูกว่ากี่หมื่นล้าน แถมคุณบุ้งยังขยัน ร่วมก่อตั้งธุรกิจเล็กๆ ทำฟาร์มเพาะสุนัขเฟรนช์บุลด็อกร่วมกับพ่อเวฟอีกละ

        ส่วนคุณบุ๋ม จารุจิต ใบหยก และคุณบุ๊ค พิมพ์เลิศ ใบหยก ทำโปรเจ็คท์นำเข้าเครื่องสำอางจากเกาหลี รวมทั้งช่วยบริหารโรงแรมหัวช้างเฮอริเทจอีกหนึ่งแห่งด้วย

        ถามถึงผลประกอบการล่าสุดของกลุ่มธุรกิจใบหยก ไม่ว่าจะเป็นโรงแรม ร้านอาหาร ร้านกาแฟ และธุรกิจจัดเลี้ยง บอกเลยว่ามูลค่ารวมทุกอย่างแล้ว มากกว่า 1 ล้านล้านบาทต่อปี

        แบ่งเป็นธุรกิจโรงแรม 5.27 แสนล้านบาท ธุรกิจร้านอาหาร 3.85 แสนล้านบาท ธุรกิจกาแฟ เบเกอรี่ ไอศกรีม จัดเลี้ยง มูลค่ามากกว่า 6.2 หมื่นล้านบาท ถือเป็นอัตราการเติบโตเฉลี่ย 10-20% ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา

(ขอบคุณภาพประกอบจาก prop-a-lot)

ขอบคุณข้อมูลและภาพจาก hellomagazine, prop-a-lot, truststoreonline