เมื่อไม่นานมานี้ เฟซบุ๊ก อยากดังเดี๋ยวจัดให้ รีเทิร์น Part 1 ได้ออกมาเผยแพร่เรื่องราวของผู้เช่ารายหนึ่งได้เช่าห้องพักไว้ที่กรุงเทพในช่วงเดือนสิงหาคม - กันยายน ที่ผ่านมาแต่ระหว่างนั้น ผู้เช่ารายดังกล่าวได้กลับบ้านต่างจังหวัดทำให้ไม่ได้จ่ายค่าเช่าเป็นเวลา 2 เดือน โดยเฟซบุ๊กดังกล่าวได้โพสต์ภาพพร้อมข้อความระบุว่า..

ข้อความบทสนทนาระหว่าง

ผู้เช่าและเจ้าของที่พัก

        จากนั้นทั้งคู่ได้มีการตกลงกันแล้วว่าจะทยอยจ่ายให้ มีการโอนเงินค่าเช่าก้อนแรกไปแล้ว 1,000 บาท ค้างชำระอีก 4,500 บาท โดยทางเจ้าของที่พักได้บอกว่า ให้ชำระภายในวันที่ 24 กันยายน พร้อมบอกว่าถ้าไม่จ่ายก็จะขนของออกจากห้องทั้งหมดทันที

        แต่ผู้เช่ารายดังกล่าวก็ไม่ได้มาเคลียร์ยอดดังกล่าวตามที่ตกลงกันไว้ จนมาถึงวันที่ 14 ตุลาคม เจ้าของที่พักก็ได้ขนของในห้องของผู้เช่าออกไปขายจนหมดเกลี้ยง

        นอกจากนี้ทางเจ้าของที่พักก็ได้เรียกเก็บยอดเงินเพิ่มเป็น 7,500 บาท แบ่งเป็นยอดค่าเช่าของเดือนตุลาคม 2,500 บาท และยอดค้างเดิม 5,000 บาท เมื่อสอบถามว่าเป็นค่าอะไร เนื่องจากตอนแรกทางเจ้าของที่พักได้บอกว่า ค่าเช่าที่ค้างคือ 4,500 บาทเท่านั้น โดยเจ้าของที่พักก็ได้อธิบายต่อว่า 500 บาทที่เพิ่มมาเป็นค่าปรับ ค่าจ่ายช้า ค่าโทรศัพท์ติดตาม

        ทั้งนี้ผู้เช่ารายดังกล่าวก็รู้สึกไม่พอใจและมองว่าตัวเองก็เสียหายเหมือนกัน อีกทั้งยังเป็นจำนวนที่มากกว่า 7,500 บาทที่ทางเจ้าของที่พักเรียกเก็บเสียด้วย เพราะเจ้าของที่พักได้นำของของตนออกไปขายไม่ว่าจะเป็น พระเครื่อง, ตู้เย็น, ไมโครเวฟ รวมถึงเอกสารราชการสำคัญหลายใบ ซึ่งรวมมูลค่ากว่า 30,000 บาท 

        ซึ่งทางผู้เช่าก็รู้สึกว่าตัวเองจะไม่ได้รับความเป็นธรรมจากเรื่องนี้จึงอยากถามความคิดเห็นจากชาวเน็ต และหลังจากที่โพสต์ดังกล่าวได้ถูกเผยแพร่ออกไปก็มีชาวเน็ตเข้าไปแสดงคิดเห็นกันเป็นจำนวนมาก โดยชาวเน็ตส่วนใหญ่มองว่า เหตุการณ์ดังกล่าวผิดกันทั้ง 2 ฝ่าย เพราะตัวผู้เช่าเองก็ผิดเรื่องไม่ยอมจ่ายค่าเช่าตามกำหนด ส่วนเจ้าของที่พักก็ผิดที่เอาของผู้เช่าไปขายโดยไม่ได้รับอนุญาต

ความคิดเห็นจากชาวเน็ต

ความคิดเห็นจากชาวเน็ต

ที่มา : เฟซบุ๊ก อยากดังเดี๋ยวจัดให้ รีเทิร์น Part 1