"กรมอนามัย" ห่วงคนไทย แนะนำ 7 เมนู ทำกินง่ายๆ ได้ที่บ้าน เสริมภูมิคุ้มกันให้ร่างกาย

คอมเมนต์:

"กรมอนามัย" ห่วงคนไทย แนะนำ 7 เมนู ทำกินง่ายๆ ได้ที่บ้าน เสริมภูมิคุ้มกันให้ร่างกาย

    จากสถานการณ์ในประเทศไทยของเรา ทำให้หลายคนรู้สึกกังวลใจเป็นอย่างมาก หลายหน่วยงานและบริษัทต่างก็มีมาตรการ และให้พนักงานเฝ้าระวังตนเองมากขึ้น โดยเฉพาะเรื่องของการรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย

    เมื่อไม่นานมานี้ กรมอนามัย ได้เผยข้อมูลทางโภชนาการ กับ 7 เมนูอาหาร ที่ช่วยเสริมเรื่องภูมิคุ้มกัน โดยระบุข้อมูลว่า การเลือกกินอาหารที่ดีและมีคุณค่าทางโภชนาการ เพื่อให้ได้รับปริมาณสารอาหารแต่ละชนิดเพียงพอกับความต้องการของร่างกายในแต่ละวัน จะมีส่วนช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายให้ทำงานเป็นปกติและเต็มศักยภาพ

 

Sponsored Ad

 

    กรมอนามัยได้แนะนำ 7 เมนู เสริมภูมิคุ้มกันได้แก่ 

    เมนูที่ 1 ไข่ยัดไส้ กินมะเขือเทศและแครอทให้ได้อย่างละ ½ ทัพพี จะได้รับวิตามินซี 42 เปอร์เซ็นต์ และวิตามินเอ 43 เปอร์เซ็นต์ 

    เมนูที่ 2 ต้มเลือดหมู กินผักกาดหอม ½ ทัพพี ตับหมู 1 ช้อนโต๊ะ เลือดหมู 1 ชิ้นและหมูสับ 1 ช้อนโต๊ะ จะได้รับธาตุเหล็ก 45 เปอร์เซ็นต์  

 

Sponsored Ad

 

    เมนูที่ 3 ต้มยำปลาทู มีมะเขือเทศและน้ำมะนาวเป็นส่วนประกอบ จะได้รับวิตามินซี 42 เปอร์เซ็นต์ 

 

Sponsored Ad

 

    เมนูที่ 4 ต้มจืดตำลึงเต้าหู้ไข่ มีส่วนผสมของแครอท ½ ทัพพี และตำลึง 2 ทัพพี จะได้รับวิตามินเอ 42 เปอร์เซ็นต์ 

    เมนูที่ปลานึ่งขิง หากใช้ปลาทับทิมเป็นส่วนประกอบ จะได้รับวิตามินดี 20 เปอร์เซ็นต์ 

 

Sponsored Ad

 

    เมนูที่ 6  ปลาผัดเปรี้ยวหวาน มีส่วนผสมของมะเขือเทศ ½ ทัพพีและพริกหวาน 1 ลูก จะได้รับวิตามินซีเพียงพอกับความต้องการของร่างกาย

 

Sponsored Ad

 

    และเมนูที่ 7 ข้าวผัดหอยลาย มีส่วนผสมของเนื้อหอยลาย ได้รับธาตุเหล็ก 33 เปอร์เซ็นต์ ของปริมาณที่ควรได้รับในแต่ละวัน ทั้งนี้ การปรุงประกอบอาหารควรเลือกวัตถุดิบที่สด สะอาด และปรุงอาหารให้สุกใหม่ทุกครั้ง ลดกินหวาน มัน เค็ม

    ที่สำคัญ ควรมีกิจกรรมที่เหมาะสมทำควบคู่ไปด้วย เช่น การทำงานบ้าน เต้นแอโรบิกในบ้าน หรือมีกิจกรรมผ่อนคลายเพื่อลดภาวะเครียด เช่น การสวดมนต์ไหว้พระก่อนนอน ฟังเพลง อ่านหนังสือ ดูหนัง เล่นเกม 

 

Sponsored Ad

 

    นอกจากนี้ กรมอนามัย ยังบอกให้ดื่มน้ำสะอาด 1.5 – 2 ลิตรต่อวัน และนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ อย่างน้อย 7 – 9 ชั่วโมงต่อวัน เพื่อให้ร่างกายและจิตใจแข็งแรง มีสุขภาพดีในระยะยาว

ที่มา : กรมอนามัย

บทความที่คุณอาจสนใจ