อีกหนึ่งในเรื่องของ โค้ชเช หรือ เช ยอง ซอก ชาวเกาหลีใต้ที่ทำหน้าที่เป็นหัวหน้าผู้ฝึกสอนนักกีฬาเทควันโดทีมชาติไทย ที่เคยบอกว่าตนเองอยากสละสัญชาติเดิมแล้วมาเป็นคนไทยเต็มตัว

    โค้ชเช ได้ร่วมสร้างความยิ่งใหญ่ให้เทควันโดไทยและอยู่เมืองไทยมาแล้วกว่าเกือบ 20 ปี ครั้งหนึ่งเขาเคยให้สัมภาษณว่า “อยากได้สัญชาติไทยก่อนไปโอลิมปิก เพราะอยากได้ชื่อว่าเป็นโค้ชคนไทยที่คว้าเหรียญทองให้กับประเทศ”

    สำหรับชื่อไทยอย่างเป็นทางการของ หัวหน้าทัพจอมเตะทีมชาติไทย นั่นก็คือ ชัยศักดิ์ ที่แปลว่า ผู้มีชัยชนะและศักดิ์ศรีที่ยิ่งใหญ่ โดยชื่อนี้ได้รับการตั้งจากพระเกจิดังแห่งหนึ่งตั้งแต่เมื่อปี 2554 ซึ่งโค้ชเชชื่นชอบเพราะเป็นพยัญชนะตัวเดิม ช.ช้าง จากคำย่อที่ทุกคนเรียกประจำนั่นคือ โค้ชเช

    และล่าสุด เมื่อวานนี้ นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงความสำเร็จของนักกีฬาเทควันโดไทยในการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกเกมส์ โตเกียว 2020 

    ซึ่งโค้ชเช เป็นผู้ที่มีส่วนสำคัญในความสำเร็จครั้งนี้ ซึ่งได้ช่วยพัฒนากีฬาเทควันโดของไทยให้ได้รับการยอมรับว่า มีความก้าวหน้าเป็นอย่างมาก และถือเป็นอันดับต้นๆ ของโลกในขณะนี้ 

    โดยมีผลงานสำคัญมากมาย ทั้งการนำทีมนักกีฬาเทควันโดทีมชาติไทย เข้าร่วมการแข่งขันในเอเชียนเกมส์ โอลิมปิกเกมส์ และรายการแข่งขันระดับโลกอื่นๆ จนสร้างผลงานโดดเด่นได้รับเหรียญรางวัลอย่างต่อเนื่อง

    โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ยังบอกอีกว่า  ในเบื้องต้น ได้รับทราบจากการกีฬาแห่งประเทศไทย และสมาคมกีฬาเทควันโดแห่งประเทศไทย ว่า ปัจจุบัน โค้ชเช ยังถือสัญชาติเกาหลีใต้ และได้แสดงความประสงค์ที่จะเปลี่ยนมาเป็นสัญชาติไทย 

    แต่เนื่องจากที่ผ่านมา เอกสารและหลักฐานต่างๆ ซึ่งมีจำนวนมาก อาจยังรวบรวมได้ไม่ครบถ้วน จึงได้ชะลอการยื่นขออย่างเป็นทางการไว้ก่อน แต่ทราบว่าในขณะนี้ได้เตรียมเอกสารไว้จนเกือบครบแล้ว 

    ดังนั้นเมื่อ โค้ชเช เดินทางกลับถึงประเทศไทยแล้ว จะเตรียมยื่นเอกสารพร้อมหลักฐานขอสัญชาติไทยอย่างเป็นทางการ ผ่านทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อส่งต่อให้กระทรวงมหาดไทย พิจารณาต่อไป

    ด้าน นายธนาคม จงจิระ อธิบดีกรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย ได้ระบุว่า กรมการปกครองจะรีบพิจารณาโดยเร็วที่สุด เชื่อว่าไม่มีปัญหา เนื่องจากเจ้าตัวได้ตัดสินใจสละสัญชาติเกาหลีใต้แล้ว จึงไม่มีข้อติดขัดตามพระราชบัญญัติสัญชาติ พ.ศ. 2508 ที่ต้องให้เลือกถือสัญชาติเดียว รวมทั้งได้สร้างคุณงามความดีให้ประเทศไทยมาอย่างยาวนาน

ที่มา : ไทยรัฐออนไลน์