ไต้หวันใช้เวลา 11 ปี พัฒนาพันธุ์ "มะม่วงเขียวเสวย" ของไทย จนมีรสชาติดีขึ้น ขายได้กิโลละ 200 บาท

คอมเมนต์:

รู้จัก "มะม่วงเขียวมรกต" มะม่วงที่พัฒนาสายพันธุ์จาก มะม่วงเขียวเสวยของไทย !!

    ลาภปากคนไทยในไต้หวันกันเลยทีเดียวเลยค่ะ หลังเกษตรกรชสาวไต้หวันที่เมืองผิงตงใช้เวลากว่า 11 ปี นำมะม่วงเขียวเสวยของไทยมาปรับปรุงพันธุ์ กลายเป็นเขียวเสวยไต้หวันสำเร็จ ตั้งชื่อมะม่วงเขียวมรกต

    ช่วงนี้ เป็นหน้าร้อนของไต้หวัน ผลไม้ที่กำลังมีผลผลิตมากก็คือมะม่วง หลายๆ คนที่อยู่ไต้หวันคงได้ลิ้มลองมะม่วงกันไม่น้อยแล้ว ปีนี้ผลผลิตมาก ราคาค่อนข้างถูก ซื้อยกลัง 200-300 บาทเท่านั้นเอง ก็ได้กินกันอย่างจุใจแล้ว 

 

Sponsored Ad

 

    อีกทั้งยังมีหลากหลายพันธุ์ของมะม่วงให้เลือกสรร โดยที่แต่ละพันธุ์มีเอกลักษณ์ มีความอร่อยที่แตกต่างกันไป ราคาก็จะต่างกันไปด้วย มีตั้งแต่กิโลละ 40, 50 จนไปลูกละ 80 - 120 กันเลยทีเดียว 

    นายพัน เกษตรกรชาวไต้หวันคนนี้ ได้นำพันธุ์มะม่วงเขียวเสวยจากไทยมาปรับปรุงพันธุ์ และใช้ความพยายามอยู่ 11 ปีจึงประสบความสำเร็จได้ในที่สุด 

 

Sponsored Ad

 

    ในปีนี้มีมะม่วงสายพันธุ์ใหม่กำลังออกสู่ท้องตลาดไต้หวัน ซึ่งก็คือ มะม่วงเขียวเสวยไต้หวัน มีชื่อภาษาจีนว่า “มะม่วงเฝ่ยชุ่ย-翡翠芒果” หรือมะม่วงเขียวมรกต เป็นมะม่วงสายพันธุ์ใหม่ในไต้หวันที่ลุงพันเป็นผู้ปลูก 

    มะม่วงเขียวมรกต เป็นมะม่วงเปลือกสีเขียวเนื้อสีเหลือง โดยนำพันธุ์มะม่วงเขียวเสวยจากเมืองไทยมาปรับปรุง และใช้ความพยายามอยู่หลายปีจึงประสบความสำเร็จ กลายเป็นมะม่วงเขียวเสวยในไต้หวัน อีกทั้งยังมีรสชาติคล้ายฝรั่ง ความหวานระดับลำไย ดึงดูดลูกค้าได้ไม่น้อย  โดยในเดือนที่แล้ว นายพันเหลียนจิ้น เริ่มขายมะม่วงนี้ทางออนไลน์กิโลกรัมละ 200 บาท ถือเป็นราคาที่ทดลองขาย

 

Sponsored Ad

 

    นายพันเหลียนจิ้นปลูกมะม่วงเขียวมรกตกในเนื้อที่ 2 เฮกตาร์กว่าๆ ประมาณ 400 กว่าต้น เริ่มทยอยมีผลเก็บเกี่ยวตั้งแต่ต้นเดือนกุมภาพันธ์ ขณะนี้มีผลเก็บเกี่ยวค่อนข้างมาก นายพันเหลียนจิ้นเป็นเกษตรกรที่ชอบทดลองปลูกพันธุ์มะม่วงที่หลากหลาย และเพื่อต้องการให้มะม่วงเขียวมรกตมีความพิเศษ ฤดูร้อนก็จะกินแบบกรอบ ฤดูใบไม้ร่วงก็จะกินแบบสุก ทำให้มะม่วงพันธุ์เดียวกันกินได้ 2 แบบ 

 

Sponsored Ad

 

    มะม่วงเขียวมรกตนี้ถือเป็นพันธุ์มะม่วงที่เขาประสบความสำเร็จในการเพาะพันธุ์ และปรับปรุงได้โดยใช้เวลานานถึง 11 ปี ที่สำคัญยังมีสายพันธุ์มาจากเขียวเสวยในเมืองไทย แต่กลับสร้างมูลค่าได้สูงถึงกิโลกรัมละ 200 บาทเลยทีเดียว และคาดว่าในอนาคตหากมะม่วงพันธุ์นี้กลายเป็นที่นิยมในไต้หวันแล้ว ราคาน่าจะสูงกว่านี้อีกก็เป็นได้

มีการออกข่าวในช่องข่าวระดับประเทศของไต้หวันด้วยนะ

Sponsored Ad

ชมคลิป

คลิปเปิดไม่ออก >>> กดตรงนี้ คลิ๊ก <<<

ที่มา : Radio Taiwan International