เปิดกฎหมาย "เงินอัดฉีดนักกีฬา" หลังมีดราม่า "สนธิญา" ยื่นเรื่องเก็บภาษี จากนักกีฬาฮีโร่เหรียญทองโอลิมปิก

คอมเมนต์:

ประเด็นนี้เดือดมากจริง ๆ

    กลายเป็นประเด็นดราม่าในโลกออนไลน์ หลัง นายสนธิญา นักการเมืองฝั่งรัฐบาล ได้ออกมายื่นหนังสือขอให้มีการตรวจสอบเงินอัดฉีดนักกีฬาโอลิมปิก จนกลายเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก

    เมื่อวานนี้มีข่าวว่า นายสนธิญา สวัสดี ที่ปรึกษากรรมาธิการ การกฎหมาย การยุติธรรม และสิทธิมนุษยชนสภาผู้แทนราษฎร ได้ยื่นหนังสือขอให้ตรวจสอบเงินอัดฉีดที่ "น้องเทนนิส" หรือ พาณิพัค วงศ์พัฒนกิจ นักกีฬาเทควันโดทีมชาติไทย ที่ได้ชื่อว่าเป็นฮีโร่เหรียญทองโอลิมปิก 

 

Sponsored Ad

 

    จำนวนเงินที่ น้องเทนนิสได้รับนั้น มีมูลค่าเกือบ 22 ล้าน ซึ่งนายสนธิญา ได้ยื่นเรื่องให้ตรวจสอบว่าสมควรที่จะถูกเรียกเก็บภาษี 7% หรือไม่ เพราะเป็นจำนวนเงินรางวัลที่เยอะมาก รวมถึงให้ตรวจสอบนักกีฬาคนอื่นๆ ที่ได้เหรียญด้วย

 

Sponsored Ad

 

    แน่นอนว่า ตามกฎหมายแล้ว หากนักกีฬาได้รับเงินให้เปล่าจากบริษัทห้างร้าน โดยผู้ให้ไม่ได้หวังสิ่งตอบแทน แม้เงินที่ได้รับจะทำให้นักกีฬามีฐานะที่ดีขึ้น แต่ถ้าจำนวนเงินที่ได้รับนั้นไม่เกิน 10 ล้านบาท นักกีฬาจะได้รับการยกเว้น ไม่ต้องนำเงินอัดฉีดส่วนนี้มาเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา

    โดยปกติแล้ว สำหรับบุคคลทั่วไป หากได้รับเงินเกิน 10 ล้านบาท จากบริษัทห้างร้าน ผู้รับจะต้องเสียภาษีในการรับในอัตรา 5% แต่ถ้าผู้รับเป็นนักกีฬา รวมถึงสตาฟโค้ช และเงินที่ได้รับเป็นเงินอัดฉีด จะได้รับการยกเว้นภาษีให้เป็นกรณีพิเศษ (มาตรา 42(28) ประมวลรัษฎากร)

 

Sponsored Ad

 

    ซึ่งในกรณีของน้องเทนนิส โค้ช และนักกีฬาคนอื่นที่สร้างเสียงให้ประเทศนั้น จะได้รับการยกเว้นไม่ต้องนำเงินอัดฉีดส่วนที่เกิน 10 ล้านบาท มาเสียภาษี เนื่องจากเป็นการสนับสนุนนักกีฬาและผู้ฝึกสอนกีฬาที่ได้สร้างชื่อเสียงให้กับประเทศชาตินั่นเอง (ข้อ 2(93) กฎกระทรวง ฉบับที่ 126 (พ.ศ. 2509) และ กฎกระทรวง ฉบับที่ 325 (พ.ศ.2560))

 

Sponsored Ad

 

    แน่นอนว่า การที่นายสนธิญา ออกมาพูด ทั้งที่ตนเองมีฐานะหรือตำแหน่งที่เป็นถึงปรึกษากรรมาธิการด้านกฎหมาย ทำเอาชาวเน็ตถึงกับวิพากษ์วิจารณ์ออกมาทันที เนื่องจากว่าการรับเงินของเหล่านักกีฬาในครั้งนี้เป็นกฎที่ถูกระบุอยู่ในกฎหมายนั่นเอง

    ต่อมาเมื่อวานนี้ ทางด้าน สนธิญา สวัสดี ได้เข้าไปรองกับ บก.ปอท.1 หลังถูกเพจดังนำข่าวเท็จไปเพยแพร่ ทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียง ซึ่งได้ออกมาชี้แจงว่า การที่นำข่าวออกเท็จ เรื่องยื่นตรวจสอบการจ่ายภาษีกรณีเงินอัดฉีดนักกีฬาโอลิมปิกออกมาเผยแพร่ ทำให้ตนเสียชื่อเสียง โดนต่อว่ากล่าวหามากมาย 

 

Sponsored Ad

 

    รวมไปถึงครอบครัวญาติพี่น้องต่างติดต่อมาสอบถามถึงกรณีดังกล่าวที่เกิดขึ้นว่าทำไปเพื่ออะไร ทั้งๆ ที่ตนไม่ได้ออกมาเคลื่อนไหว อีกทั้งตนยังสนับสนุน ให้เงินรางวัลกับน้องเทนนิส เป็นเงิน 3,000 บาท ทำไมตนต้องออกมาเรียกให้ตรวจสอบเก็บเงินภาษีกับน้องเทนนิสด้วย ในเมื่อตัวน้องเองทำชื่อเสียงให้กับประเทศชาติ และไม่ใช่เรื่องที่จะนำปัญหามาสู่ตนเอง

ที่มา : กรมสรรพากร, ไทยรัฐออนไลน์, siamnews

บทความแนะนำ More +

บทความที่คุณอาจสนใจ