เปิดภาพล่าสุดของ "ฮัท เดอะสตาร์" ออกบิณฑบาตร หันหลังให้วงการบันเทิง สู่ร่มกาสาวพัสตร์

คอมเมนต์:

“พระฮัท” เผย #เรื่องดีดี หลังออกบิณฑบาตร เจอโยมพูด "ขอบคุณที่ท่านมาบวชให้ผมได้ใส่บาตร..." (มีต่อ)

    เป็นอีกหนึ่งในดาราหรือซุปตาร์ที่ใจบุญอย่างมาก สำหรับ “ฮัท จิรวิชญ์ พงษ์ไพจิตร” หรือที่เรารู้จักในชื่อ “ฮัท เดอะสตาร์” นักแสดงและนักร้องมากความสามารถ

    ก่อนหน้านี้เขาได้ เข้าพิธีอุปสมบทแล้วเรียบร้อย ที่วัดบวรนิเวศราชวรวิหาร โดยได้ฉายาว่า อภิวิชฺโช แปลว่า ผู้มีวิชาอันยิ่งใหญ่ ทั้งนี้ตั้งใจว่าจะศึกษาพระธรรม รวมถึงบวชทดแทนคุณพ่อแม่ และจะใช้วลาบวชทั้งสิ้น 1 พรรษา

 

Sponsored Ad

 

.

    เขา ได้เผยก่อนเข้าพิธีอุปสมบทว่า “นับเป็นบุญวาสนาของฮัท ที่ สมเด็จพระวันรัต ได้มีเมตตากรุณาเป็น พระอุปัชฌาย์ ฮัทตั้งใจที่จะบวชอุทิศส่วนกุศลถวายแด่ดวงพระวิญญาณองค์บูรพมหากษัตราธิราชเจ้า และ องค์เจ้าฟ้าสุทัศขัติยราชกุมาร ที่ฮัทได้มีโอกาสรับบทเป็นพระองค์ท่าน” 

 

Sponsored Ad

 

    “และที่สำคัญคือการทดแทนพระคุณพ่อแม่ ตลอดจนครูบาอาจารย์ รวมทั้งผู้มีอุปการะคุณทุกท่าน และจะศึกษาพระธรรมวินัยตลอดพรรษานี้ครับ”

    ผ่านมามาหลายเดือนแล้ว วันนี้เลยจะพาทุกท่านไปชมภาพล่าสุดของพระฮัท พร้อมกับการสนทนาธรรมของพระฮัทกันค่ะ

 

Sponsored Ad

 

    ในวิชาเรียงความแก้กระทู้ธรรมครั้งที่ ๑

    ที่อาตมะได้อธิบายขยายความแห่งพุทธศาสนสุภาษิต คือ

    สุขา สทฺธา ปติฏฺฐิตา.

 

Sponsored Ad

 

    ศรัทธาตั้งมั่นแล้วนำสุขมาให้

    สรุปโดยย่อมีความว่า

    ศรัทธา แปลว่าความเชื่อ มีหลายหลายรูปแบบมากมาย ศรัทธาในพุทธศาสนาถือว่าเป็นศรัทธาที่ถูกต้องมี ๔ ประการ คือ

    ๑.กัมมสัทธา คือ เชื่อในเรื่องกฎแห่งกรรม

    ๒.วิปากสัทธา เชื่อในเรื่องผลของกรรม

    ๓.กัมมัสสกตาสัทธา เชื่อว่าสัตว์มีกรรมเป็นของของตน ทำกรรมสิ่งใดก็จะต้องเสวยวิบากเป็นไปตามกรรมของตน

    ๔.ตถาคตโพธิสัทธา คือเชื่อความตรัสรู้ขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า เมื่อศรัทธาดังนี้ตั้งมั่นแล้ว ก็ให้พิจารณานำเอาพระธรรมของพระพุทธองค์มาเลือกสรร และนำมาประพฤติปฏิบัติ ไม่ทำบาปทั้งปวง หมั่นสร้างบุญสร้างกุศล ทำจิตใจให้บริสุทธิ์ ผ่องใส ปราศจากกิเลส ก็ย่อมได้รับแต่ความสุข ความสงบ ความสำเร็จในชีวิต ทั้งในโลกปัจจุบัน และ ในโลกหน้า ดังนี้แล.

 

Sponsored Ad

 

    ขอให้ทุกท่านจงเจริญงอกงามไพบูลย์ในธรรมเป็นนิตย์ เทอญ.

    ถึงแม้ว่าจะจบการศึกษาหลักสูตรพระปริยัติธรรม ตลอดระยะเวลา๑พรรษา ที่ได้บวชเรียนในร่มพระธรรมมาแล้วนั้น

    อาตมะจึงมีความประสงค์ที่จะบวชเรียนต่อเพื่อศึกษาและปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐาน จึงมากราบเรียนสมเด็จพระวันรัต เจ้าอาวาสวัดบวรนิเวศวิหาร เรื่องขออนุญาตไปปฏิบัติธรรมที่ วัดมกุฏคีรีวัน จังหวัดนครราชสีมา ท่านรับสั่งว่า

 

Sponsored Ad

 

    “การปฏิบัติธรรมที่แท้จริงนั้นคือการนำธรรมมาปฏิบัติที่ตัวเรา สามารถปฏิบัติได้ทุกที่ ทุกเวลา เพราะธรรมะไม่ได้อยู่ที่ไหนอยู่กับตัวเรานี่แหละ กายก็อยู่กับเรา วาจาก็อยู่กับเรา ใจก็เป็นของเรา ศีลก็อยู่กับเรา สมาธิก็อยู่กับเรา ปัญญาก็อยู่กับเรา แค่มีสติระลึกรู้ตัวอยู่เสมอ ก็ถือว่าได้ปฏิบัติธรรมแล้ว แต่ถ้าอยากจะไปก็อนุญาต และขออนุโมทนาในความตั้งใจ “

    ขอให้ทุกท่านจงเจริญงอกงามไพบูลย์ในธรรมเป็นนิตย์ เทอญ

    ในวิชาเรียงความแก้กระทู้ธรรมครั้งที่ ๒

Sponsored Ad

    ที่อาตมะได้อธิบายขยายความแห่งพุทธศาสนสุภาษิต คือ

    สุโข ปญฺญาปฏิลาโภ.

    ความได้ปัญญา ให้เกิดสุข.

    สรุปโดยย่อมีความว่า

    ปัญญาทางโลกนั้นคือ โลกียปัญญา เป็นปัญญาที่รู้ลักษณะของสภาพธรรมที่ปรากฎทางอายตนะภายใน ได้แก่ ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ ที่เกิดดับอยู่ตลอดเวลา ส่วนปัญญาทางธรรมนั้นคือ โลกุตรปัญญา เป็นปัญญาที่มีความรู้แจ้งเห็นจริงในหลังความเป็นไปของโลก รู้ในพระธรรมที่พระพุทธเจ้าทรงตรัสรู้ ปัญญาทางพระพุทธศาสนาคือปัญญาที่พึงปฏิบัติยิ่งมี ๓ ประการ คือ

    ๑.สุตมยปัญญา เป็นปัญญาที่เกิดจากการได้ยิน ได้ฟัง เช่นการฟังเทศ ฟังธรรม เป็นต้น

    ๒.จินตามยปัญญา เป็นปัญญาที่เกิดจากการนึกคิดพิจารณาไตร่ตรอง เช่น พิจารณาว่าการกระทำทาง กาย วาจา ใจ เป็นเหตุของ สุข ทุกข์ที่เกิดขึ้น เป็นต้น

    ๓.ภาวนามยปัญญา เป็นปัญญาที่เกิดจากการปฏิบัติจิตตภาวนา เช่น การฝึกเจริญวิปัสสนากรรมฐาน ด้วยการกำหนดลมหายใจเข้าออกอยู่กับ พุธโธๆ เป็นต้น

    เมื่อจิตตั้งมั่นในปัญญาที่ได้กล่าวมาแล้วนั้น ไม่ช้าไม่นานก็จะเกิดสมาธิ เกิดปัญญา ก็ย่อมพบกับความสุขความสงบที่แท้จริง ดังนี้แล

    ขอให้ทุกท่านจงเจริญงอกงามไพบูลย์ในธรรมเป็นนิตย์ เทอญ

    เรื่องเล่าดีดีเช้านี้ : ถึงแม้ว่าบัณฑิตอุ้ม จะลาสิกขาไปแล้ว ก็ยังกลับมาช่วยรับอาหารขณะบิณฑบาตแล้วทุกครั้งที่เจอโยมที่มาใส่บาตร อุ้มก็จะพูดว่า

    “ขอบคุณมากนะครับที่ใส่บาตรผมตอนเป็นพระ”

    เป็นคำสั้นๆที่แสนจะลึกซึ้งเสียเหลือเกิน จนโยมท่านหนึ่งได้พูดตอบกลับอุ้มว่า

    “ต้องขอบคุณท่านมากกว่าที่บวชเป็นพระให้ผมได้ใส่บาตร”

    อาตมะรู้สึกปิติสุขอย่างบอกไม่ถูกที่ได้ยินบทสนทนาที่ลึกซึ้งกินใจ ก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ดีของเช้าวันใหม่จึงนำมาเล่าสู่กันฟัง.

    ขอให้บัณฑิตอุ้ม และท่านทั้งหลาย จงมีความเพียรที่บริสุทธิ์  ปัญญาที่เฉียบแหลม  กำลังกายที่สมบูรณ์ เจริญงอกงามไพบูลย์ในธรรมเป็นนิตย์ เทอญ.

    ในวิชาเรียงความแก้กระทู้ธรรมครั้งที่ ๓

    อาตมะได้อธิบายขยายความแห่งพุทธศาสนสุภาษิตที่ลิขิตไว้ ณ ดังนี้

    สีลํ รกฺเขยฺย เมธาวี.

    ปราชญ์พึงรักษาศีล.

    สรุปโดยย่อมีความว่า

    ปราชญ์ คือ ผู้มีปัญญารอบรู้ รู้ถูก รู้ผิด รู้จักบาปบุญ เจริญแต่สิ่งที่เป็นกุศล ส่วนศีลนั้น เป็นข้อปฏิบัติ สำหรับการควบคุมกายและวาจาให้ปกติและตั้งอยู่ในความดีงาม โดยพื้นฐานแล้วศีลที่พุทธศาสนิกชนควรรักษาให้มั่นคือ เบญจศีล หรือ ศีล๕
บุคคลใดที่พึงรักษายึดมั่นในศีล๕ ไม่ให้ขาดตกบกพร่อง บุคคลนั้นย่อมขึ้นชื่อว่าเป็นปราชญ์ผู้ทรงศีลเจริญด้วยโภคทรัพย์ ศีลจึงเป็นทรัพย์อันประเสริฐที่ไม่สามารถใช้เงินทองซื้อมาครอบครองเอาไว้ได้นอกจากปฏิบัติด้วยตนเอง และจะนำมาซึ่

    ความสุข ความสงบ ทั้งกายและใจอย่างแท้จริง ดังนี้แล.

    ขอให้ทุกท่านจงเจริญงอกงามไพบูลย์ในธรรมเป็นนิตย์ เทอญ

.

.

.

ที่มา : ไลค์เกอร์ดอทคอม, @hutdragon7

บทความแนะนำ More +

บทความที่คุณอาจสนใจ