เว็บไซต์ต่างประเทศ เผยเรื่องราวสุดประหลาด เหตุการณ์เกิดขึ้นที่ร้านเบเกอรี่แห่งหนึ่งชื่อว่า Sweet Something ในเมืองแวนคูเวอร์ ประเทศแคนาดา เอ็มม่า เออร์ไวน์ 

    เจ้าของร้านได้เผยคลิปวิดีโอจากกล้อวงจรปิด พร้อมทั้งเล่าว่า เมื่อเวลาประมาณ 03.00 น. ของวันที่ 26 พฤษภาคมที่ผ่านมา มีชายหนุ่มอายุราว ๆ ช่วง 20 ปี มายืนอยู่ที่หน้าร้านประมาณครึ่งชั่วโมง ก่อนที่จะถีบประตูกระจกจนแตก แล้วมุดช่องเข้ามาในร้าน

    หลังจากเข้ามาในร้าน ชายรายนี้ก็เดินไปเดินมาแลัวนั่งพักอยู่สักพัก ก่อนที่จะลุกไปเข้าห้องน้ำ แล้วเดินออกมาที่หน้าร้านพร้อมกับไม้ถูพื้น เอาไปเก็บกวาดเศษกระจกที่ตัวเองทุบแตกเมื่อครู่ มิหนำซ้ำยังถ่ายเซลฟี่กับโทรศัพท์มือถือที่อยู่ในร้าน เขาใช้เวลาทำพฤติกรรมประหลาดเช่นนั้นอยู่ในร้านประมาณ 30 นาที ก่อนที่จะไปเปิดตู้แช่หยิบขนมคัพเค้กช็อกโกแลตออกไปจำนวน 6 ชิ้น ซึ่งมีราคาประมาณ 30 เหรียญ หรือราว 1,000 บาท ก่อนจากไป

    หลังจากนั้นประมาณ 2-3 ชั่วโมง แม่ของเอ็มม่าได้เดินผ่านหน้าร้านและเห็นความเสียหาย จึงรีบโทรศัพท์บอกเธอ ตอนที่ได้ยินข่าวเธอตกใจมาก เพราะกว่าที่เธอจะเปิดธุรกิจร้านนี้ได้ เธอใช้เวลาคิดหนักอยู่นาน ใช้ทั้งความพยายามและตั้งใจเป็นอย่างมาก แต่ปรากฏว่าเมื่อไปเช็กกล้องวงจรปิดและเห็นเหตุการณ์ทั้งหมด เธอก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา

    "ฉันคิดว่าเขาแค่ต้องการคัพเค้กอร่อย ๆ" เอ็มม่า กล่าว

    อย่างไรก็ตาม เอ็มม่าได้ทำตามขั้นตอนทางกฎหมาย ทั้งแจ้งตำรวจและบริษัทประกันภัย ในระหว่างที่รอความคืบหน้า ในวันที่ 27 พฤษภาคม เธอก็เกิดปิ๊งไอเดีย จากรูปภาพของโจรที่ถ่ายเซลฟี่เอาไว้ เขาสวมแว่นดำกรอบสีส้ม เธอจึงคิดทำขนมล้อเลียน โดยดีไซน์อบขนมคุ้กกี้ออกมาเป็นรูปแว่น ตกแต่งกรอบสีส้ม และใส่ครีมช็อกโกแลตตรงกลาง จากนั้นก็นำมันมาวางขายในชื่อเมนูว่า "อาชญากรรมแห่งความหลงใหล"

    ไม่เพียงแค่เป็นกลยุทธ์ทางการตลาด พลิกวิกฤตให้เป็นโอกาสแบบขำขัน แต่หลังจากนั้นยังมีเรื่องเหลือเชื่อเกิดขึ้น ในวัน 29 พฤษภาคม หัวขโมยรายดังกล่าวได้โทรศัพท์มาขอคุยกับเอ็มม่า คุยกันนานประมาณ 10 นาที เขาขอโทษกับสิ่งที่เขาเรียกว่าเป็น "ความผิดพลาดโง่ ๆ" เขาบอกว่าจะรับผิดชอบจ่ายค่าซ่อมประตูให้ 850 เหรียญ (ราว 30,000 บาท) รวมทั้งค่าคัพเค้กที่หยิบไป พร้อมทั้งจะให้ของขวัญเป็นแว่นตาสีส้มอันนั้น และยังชมด้วยว่าคัพเค้กของเธออร่อย

    เหตุการณ์ครั้งนี้ทำให้เอ็มม่ารู้สึกประหลาดใจมาก เธอขอให้ทางตำรวจไม่ต้องแจ้งข้อหาแก่เขา อย่างไรก็ดี ทางเจ้าหน้าที่เผยว่า ในขณะนี้ยังไม่มีการจับกุม แต่พวกเขายังคงอยู่ระหว่างการสอบสวนเหตุการณ์ดังกล่าว  

    เอ็มม่าเผยว่า ภายหลังจากเรื่องราวนี้ถูกเผยเแพร่ไปบนสื่อออนไลน์ ก็มีผู้คนให้ความสนใจสั่งคัพเค้กจากที่ร้านของเธอเป็นจำนวนมาก แม้กระทั่งจากได้รับออร์เดอร์จากในสหรัฐอเมริกาด้วย กลายเป็นเรื่องที่ปฏิเสธไม่ได้จริง ๆ ว่า เหตุการณ์ปล้นร้านขนมครั้งนี้ ช่วยทำให้เธอขายดีขึ้นอย่างไม่คาดคิด เธอให้อภัยเขาและหวังว่าวันหนึ่งจะได้มาเจอกันและนั่งหัวเราะไปกับเรื่องนี้

    "ไม่ใช่เรื่องธรรมดาที่จะมีใครสักคนโทร. มาและพูดขอโทษที่ทำแบบนั้น เราไม่สามารถตัดสินคนได้จากการกระทำเพียงครั้งเดียว เขาอาจทำสิ่งที่ผิด แต่เขาทำทุกอย่างให้ถูกต้องหลังจากนั้น" เอ็มม่า กล่าว  

ที่มา : The Washington Post