คุณครูสาวเปิดเทคนิค "สอบครูผู้ช่วย" สอบผ่านตั้งแต่ครั้งแรก ทำตามความฝัน ให้ป้าข้างบ้านเห็น

คอมเมนต์:

"คำเดียวที่สามารถชนะทุกอย่างบนโลกได้ คือคำว่า อดทน แล้ววันหนึ่งที่คุณทำได้คุณจะรู้สึกขอบคุณตัวเองมาก ๆ" คุณครูสาวกล่าว

        การเป็น "ครู" นั้นใช่ว่าจะยาก จนไม่สามารถเป็นได้เลย  แต่ก็ไม่ได้ง่ายจนเป็นกันได้ง่าย ๆ  เชื่อว่าสำหรับคนที่เรียนครูหรือกำลังเป็นครูอัตราจ้าง ความใฝ่ฝันในชีวิต ก็คงจะเป็นการได้สอบบรรจุเป็นข้าราชการครู เพื่อความก้าวหน้ามั่นคงในหน้าที่การงาน แต่การสอบเป็นข้าราชการครูก็ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะอย่างที่ทราบกันดีว่ามีการแข่งขันที่ค่อนข้างสูงมากเลยทีเดียว

        แต่ก็ไม่มีอะไรยากเกินถ้าเราพยายามจริง ๆ เช่นเดียวกับผู้ใช้เฟซบุ๊ก Noo-na Sirirat ที่เมื่อไม่นานมานี้เจ้าตัวได้ออกมาโพสต์ภาพความสำเร็จ หลังจากที่สามารถสอบบรรจุครูผู้ช่วยได้เป็นที่เรียบร้อย 

 

Sponsored Ad

 

        โดยผู้ใช้เฟซบุ๊กท่านดังกล่าวได้โพสต์ภาพพร้อมข้อความว่า #รีวิวการสอบครูผู้ช่วย ครั้งแรกและครั้งเดียวติด "ฉบับคนสมาธิสั้นติดมือถือ" ก่อนอื่นเลยอยากจะขอชี้แจงตรงนี้ว่าโพสต์นี้เป็นโพสต์วิทยาทาน ไม่ใช่โพสต์เพื่อการโอ้อวดแต่อย่างใด เพราะตนเคยผ่านจุดที่นั่งดูการรีวิวจากคนที่สอบผ่านเพื่อที่จะนำมาพัฒนาตัวเองและเพื่อเป็นแรงบันดาลใจให้กับตัวเองว่าสักวันฉันจะเป็นคน ๆ นั้น ตนจะมาแชร์ประสบการณ์ตรงที่ตนเจอมากับตัวเอง ในการสอบครูผู้ช่วยปี 2563 ปีที่หลายคนต้องยอมรับว่าข้อสอบหินที่สุด โหดที่สุด คัดคนไปดาวอังคารรึปล่าว เพราะมีผู้สอบผ่านเพียงแค่ 10,375 คน จาก 159,314 คน หรือเฉลี่ยรวม 6.86% จาก 100% ทั่วประเทศ

 

Sponsored Ad

 

        ตนเป็นบัณฑิตเกียรตินิยมอันดับหนึ่งจบใหม่ ที่มีเป้าหมายอย่างชัดเจนเลยว่าจะต้องใส่ชุดขาวรับปริญญาเท่านั้น และตนก็ทำมันสำเร็จ ตนสอบได้ลำดับสามของ กศจ.พังงา และได้บรรจุเป็นข้าราชการครูในรอบแรก ออกตัวก่อนเลยว่า ตนไม่ได้เป็นเด็กเรียนจ๋า ไม่ใช่หนอนหนังสือ ออกแนว work hard play harder

        จุดเริ่มต้นเลยคือ เป็นหลักจิตวิทยาง่าย ๆ ที่ทุกคนต้องตั้งมั่นเลยว่า "เราจะต้องสอบติด" ห้ามดูถูกตัวเองเด็ดขาดว่าทำไม่ได้ ต่อมาสิ่งที่เราควรทำคือ พยายามปรึกษารุ่นพี่หรือคนที่เขาสอบติดว่ามีเทคนิคยังไง แบ่งเวลายังไง อ่านหนังสืออะไร ติวสำนักไหนดี นี่คือสิ่งที่ฉันทำในช่วงแรกพี่เขาช่วยแนะนำได้ดีจริง ๆ

 

Sponsored Ad

 

เทคนิคการอ่านหนังสือสอบฉบับคนสมาธิสั้นติดมือถือหรือโรคโนโมโฟเบีย

        - ตั้งเป้าหมายให้ชัด วางกรอบให้ดี ว่าจะอ่านวิชานี้ให้จบภายในกี่วัน 

 

Sponsored Ad

 

        - วันที่ประกาศปฎิทินการสอบออก ต้องฮึดกว่าเดิมร้อยเท่าพันเท่า 

        - นาฬิกาใส่ติดตัวไว้ตลอดเวลา เพราะเจ้านาฬิกาจะสามารถบังคับคนสมาธิสั้นให้เป็นคนเห็นค่าของเวลามากขึ้น

        - ปิดแจ้งเตือนโทรศัพท์มือถือทุกอย่าง และวางให้ห่างตัว แล้วอ่านหนังสือให้จบ หรือครบเวลาก็ไปมาเล่นสัก 10 นาที แล้วทำวนอยู่แบบนี้จนติดเป็นนิสัย 

        ถ้าอ่านหนังสือจนรู้สึกน่าเบื่อ แนะนำให้ค้นโลก Internet ได้ เราอาจจะหาอ่านตามเว็บตามเพจต่าง ๆ ที่เขาแชร์กัน หรือทีเด็ดเลยก็คือ โหลดข้อสอบมาทำแนะนำเลยวิธีนี้เพราะเราต้องคิดว่ายิ่งทำเยอะเท่าไหร่เรายิ่งเข้าใกล้เส้นชัยมากขึ้นเท่านั้น โดยเฉพาะวิชาเอก แนะนำให้ไปโหลดข้อสอบ O-Net ย้อนหลังมาสัก10ปีมานั่งทำ แต่ต้องมีวิจารณญาณเพราะข้อมูลบางอย่างอาจมีการเปลี่ยนแปลงหรือมีการอัปเดตเพิ่มมากขึ้น

 

Sponsored Ad

 

        เป็นคนนึงที่มีตารางเวลาอ่านหนังสือนะ แต่ไม่เคยทำได้ แต่จะทำได้จากปฎิทินอ่านหนังสือคือวันนึงจะอ่านไหนยังไงก็ได้เอาที่สบายใจแต่วันนั้นต้องจบ ไม่อ่านหนังสืออย่างเดียว ต้องหา relax times อันนี้สืบเนื่องมาจากการทำปฎิทินการอ่านหนังสือสอบเลย อย่างเช่น สัปดาห์นี้จะไปเที่ยวกับครอบครัว 1 วัน หรือเดือนหนึ่งไป Hangouts กับเพื่อนสัก 1 ครั้ง นอกจากมีเวลาพักผ่อนแล้วเวลานอนก็เป็นสิ่งสำคัญ สำหรับคนอื่นไม่รู้ แต่สำหรับตนเวลานอนสำคัญมาก เพราะสมองจะมีประสาทรับรู้และการจดจำที่ดีเมื่อตนพักผ่อนเพียงพอ 

 

Sponsored Ad

 

        และที่สำคัญต้องหา Inspiration โดยตนจะแปะไปเลยฝาบ้าน คำพูดที่เป็นพลังบวกให้ฮึด รูปคนที่เรารัก เพลงที่เป็นแรงบันดาลใจ ภาพฝันที่เราอยากเป็น มองมันแบบนี้ทุก ๆ วัน แล้วคิดว่าต้องทำได้ นี่ส่วนตัวนั่งฟังเพลงนักสู้สีกากีทุกวัน ย้อมใจก่อนหนังสือทุกครั้ง คำเดียวที่สามารถชนะทุกอย่างบนโลกได้ คือคำว่า อดทน ฉันโตมากับคำ ๆ นี้จริง ๆ เวลาที่เหนื่อยมาก ๆ เรารู้สึกว่าเรากำลังทำอะไรอยู่ ก็จะพูดคำนี้กับตัวเองเสมอ พยายามมองผลลัพธ์ว่ามันคุ้มค่าแค่ไหน

Sponsored Ad

        สนามสอบนี้เราต้องกลัวคู่แข่งไหม คำตอบคือ ไม่ค่ะ สนามนี้ไม่มีคู่ต่อสู้ เพราะเราทุกคนแค่แข่งกับเกณฑ์คะแนนการสอบเท่านั้นซึ่งมันโหดมากเพราะฉะนั้นเราต้องพาตัวเองให้รอดพ้นผ่านเกณฑ์คะแนนสอบให้ได้

        ถามเคยร้องไห้บ้างไหม ตอบเลยว่า บ่อยมาก เพราะเราแบกความหวังของครอบครัว ถึงแม้เขาไม่เคยพูดแต่เรารู้ว่าเขาหวัง

        สุดท้ายผู้ใช้เฟซบุ๊กท่านดังกล่าวได้ทิ้งท้ายว่า วันนี้ตนเลยรู้ว่าทุก ๆ คนที่ได้อ่านโพสต์นี้ คือความหวังของครอบครัว รู้ว่าทุกคนกดดัน รู้ว่ามันหนักมาก ความพยายามและความอดทนเท่านั้นจริง ๆ และโพสต์นี้ตนได้แนบใส่เลคเชอร์วิชาการศึกษาของฉันไว้ด้วย เพราะมันมีค่า 75 คะแนน มันอาจจะไม่ได้น่าอ่านมากหรือสวยมาก แต่อยากจะแบ่งปันให้เพื่อน ๆ พี่ ๆ น้อง ๆ ครูได้อ่านกัน หวังว่าจะมีประโยชน์กับทุกคน

ที่มา : เฟซบุ๊ก Noo-na Sirirat

บทความแนะนำ More +

บทความที่คุณอาจสนใจ