คุณครูแบกนักเรียนขึ้นห้องเรียนตลอด 3 ปี ครูใหญ่ย้ำการให้โอกาสนักเรียน 1 คน ก็เหมือนได้ช่วยครอบครัวหนึ่งไว้

คอมเมนต์:

"เราไม่ได้มีการเรียนการสอนพิเศษอะไรที่แตกต่างจากที่อื่น.. แต่แค่พูดคุยกับเด็ก ๆ มากกว่าที่อื่น" ผู้อำนวยการ กล่าว

    สื่อต่างประเทศรายงานว่า ที่ประเทศจีนมีคุณครูคนหนึ่งที่ร้อนรนกระตือรือร้นในหน้าที่อย่างมาก รักนักเรียนทุกคนเท่าเทียมกัน รักมากจนกระทั่งยอมแบกนักเรียนคนหนึ่งขึ้น-ลงห้องเรียนทุกวัน

    เด็กชายคนนี้ชื่อ “เสี่ยวเจ๋อ”  คุณครูจะถามทุกวันว่า “เสี่ยวเจ๋อ วันนี้อยากให้แบกขึ้นห้องเรียนไหม?” เด็กชายเสี่ยวเจ๋อก็มักจะตอบว่า เอา และคุณครูก็จะตอบกลับไปว่า งั้นมาขึ้นหลังครูเลย” นี่เป็นบทสนทนาที่พวกเขาจะคุยกันทุกวันตลอด 3 ปีที่ผ่านมา 

 

Sponsored Ad

 

    เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นที่โรงเรียนประถมศึกษาในเมืองถังซี ประเทศจีน เด็กชายเสี่ยวเจ๋อเรียนอยู่ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 อายุ 11 ปี เขามีรูปร่างเจ้าเนื้อที่ต้องให้คุณครูแบกขึ้น-ลงห้องเรียนเป็นเพราะว่าไม่สบายด้วยโรคบางอย่างที่ทำให้ไม่สามารถเดินได้เป็นปกติเหมือนคนทั่วไป ทำให้คุณครูพละศึกษา เย่ถิง วัย 32 ปีคนนี้ช่วยแบกเขาขึ้น-ลงห้องเรียนเสมอ จนกลายเป็นเรื่องราวที่น่าประทับใจคนทั้งโรงเรียนไปแล้ว

    เนื่องจากเสี่ยวเจ๋อสุขภาพไม่แข็งแรงทำให้เข้าโรงเรียนสายในปี 2017 คุณแม่ของเสี่ยวเจ๋อก็ได้ส่งลูกชายไปโรงเรียน ความประทับใจในครั้งแรกที่เขามีต่อคุณครูก็คือ ในการเปิดภาคเรียนวันแรก ขณะกำลังเรียนคาบกายภาพนั้น

 

Sponsored Ad

 

    ครูเย่ถิงก็เห็นเสี่ยวเจ๋อค่อย ๆ จับรถเข็นเดินมายังสนามกลางแจ้ง มีเพื่อนสองคนช่วยเหลืออยู่ด้านข้าง แล้วมานั่งขอบสนามจ้องมองตาละห้อย เมื่อเห็นเพื่อน ๆ วิ่งเล่นบนสนามอย่างสนุกสนาน เพราะอยากที่จะไปวิ่งเล่นด้วย 

    หลังเลิกเรียนครูเย่ถิงก็จะบอกกับเสี่ยวเจ๋อว่า “มามะ มาขึ้นหลังครูเร็ว” จากนั้นก็อุ้มเขากลับห้องเรียนต่อ ครูเย่ถิงบอกว่า เสี่ยวเจ๋อมีความสูงราว ๆ 140 ซม. น้ำหนักประมาณ 50 กิโลกรัม ถือว่าเป็นน้ำหนักตัวที่ไม่เบาเลยทีเดียว


    และเนื่องจากขาของข้างของเขาไม่มีเรี่ยวแรง ทำให้ลำตัวของเขาค่อย ๆ ไหลลื่นลงมาเสมอ จนครูต้องพยายามหาท่าในการแบกเขาให้ถนัดที่สุด และต้องระมัดระวังให้มาก หลายครั้งที่เสี่ยวเจ๋อรู้สึกเกรงใจและอยากช่วยแบ่งเบาภาระให้ครู มีอยู่ครั้งหนึ่งก่อนจะถึงหน้าประตูโรงเรียน จู่ ๆ เขาก็พูดขึ้นมาว่า “ครูครับ ผมอยากลงมาเดินเอง”

 

Sponsored Ad

 

    จากนั้นเขาก็จับรถเข็นค่อย ๆ เดินขยับทีละนิดมาถึงหน้าประตูโรงเรียน เมื่อถึงประตูหน้าโรงเรียนก็หันหลังมายิ้มให้ครู พร้อมกับโบกไม้โบกมือ ครูเย่ถิงเล่าว่า นี้เป็นภาพที่ดูมีความสุขในแบบที่ไม่เหมือนใคร

    ครูเย่ถิงรู้ว่าเสี่ยวเจ๋ออยากที่จะมีช่วงเวลาของตนเอง เพราะหลังเลิกเรียนจะมีผู้ปกครองมากมายมายืนรอรับนักเรียนที่หน้าประตูโรงเรียน ทำให้เขาเองก็อยากพึ่งตนเองบ้างเมื่ออยู่ต่อหน้าพ่อแม่ และครูเย่ถิงก็เคารพความคิดของเขา ต่อจากนั้นเป็นต้นมา ก่อนจะแบกเขามาถึงหน้าประตูโรงเรียน ครูก็จะถามเสมอว่า จะลงมาเดินเองไหม? และเสี่ยวเจ๋อก็รู้สึกดีใจ ลงมาเดินด้วยการจับรถเข็นออกไปหาพ่อแม่ที่หน้าโรงเรียนเอง 

 

Sponsored Ad

 

    ในวันเกิดของของเสี่ยวเจ๋อ ขณะที่เขานั่งรอแม่อยู่ที่ระเบียงทางเดิน แล้วครูเย่ถิงก็เดินมาถามว่า “ทำไมยังไม่กลับบ้าน?” เสี่ยวเจ๋อก็พูดว่า “ครูวันนี้วันเกิดของผม” ครูเย่ถิงจึงบอกว่า “งั้นครูร้องเพลงอวยพรวันเกิดให้นะ” จากนั้นก็ขยับเข้าไปร้องเพลงอวยพรให้เสี่ยวเจ๋อ 

    เสี่ยวเจ๋อเป็นเด็กร่าเริงเป็นที่รักใคร่ของเพื่อนในห้องเรียน หากวันไหนที่ครูเย่ถิงไม่ว่างมาช่วยแบก เพื่อน ๆ ในห้อง 2-3 คนก็จะช่วยเหลือเขาค่อย ๆ เดินออกมาที่หน้าประตูโรงเรียน ไปห้องน้ำ โรงอาหารและที่ต่าง ๆ ภายในโรงเรียน ทำให้ครูเย่ถิงไม่ต้องเป็นห่วงอีกต่อไป

 

Sponsored Ad

 

    แม่ของเสี่ยวเจ๋อเล่าว่าในตอนแรกรู้สึกกังวลและเป็นห่วงลูกชายมาก แต่ตอนนี้เธอเห็นแล้วว่าลูกชายดูมีความสุขมาก และไม่มีปัญหาในการใช้ชีวิตร่วมกับเพื่อน ๆ ในห้องเลย เพราะทุกคนล้วนมีน้ำใจและพยายามช่วยเหลือเสี่ยวเจ๋อตลอดเวลา

 

Sponsored Ad

 

    ที่จริงโรงเรียนนี้มีนักเรียนพิเศษแบบนี้อยู่หลายคน และครูของโรงเรียนก็เป็นครูที่ถูกเลือกมาเป็นพิเศษ ทำให้โรงเรียนเต็มไปด้วยความรักและความอบอุ่น ผู้อำนวยการโรงเรียนยังบอกอีกว่า “การช่วยเหลือเด็กนักเรียนคนหนึ่งก็เหมือนได้ช่วยเหลือครอบครัวหนึ่งแล้ว เด็ก ๆ ที่มีร่างกายที่ไม่พร้อมหลังจากที่เข้ามาเรียนที่นี่ก็มีพัฒนาการที่ดีขึ้นเรื่อย ๆ 

    ผู้อำนวยการกล่าวว่าเราไม่ได้มีการเรียนการสอนพิเศษอะไรที่แตกต่างจากที่อื่น แต่แค่พูดคุยกับเด็ก ๆ มากขึ้น และให้ความรัก ความอบอุ่น ความจริงใจ แค่นี้เด็กก็สามารถสัมผัสได้ด้วยตนเอง และมีกำลังใจในการเรียนมากขึ้น อยากที่จะพยายามพัฒนาตนเอง ครูและนักเรียนของที่นี่ต่างพึ่งพาอาศัยกัน และพยายามปลูกฝั่งให้มีความรัก ช่วยเหลือซึ่งกันและกัน และเคารพผู้อื่นเสมอ

ที่มา : nocancers

แปลและเรียบเรียงโดย thousandreason

บทความแนะนำ More +

บทความที่คุณอาจสนใจ