แม่ลูกสองตกงาน ชีวิตพลิกสู่ "เศรษฐีบริษัท 400 ล้าน" เพราะอาหารมื้อเดียว

คอมเมนต์:

จากวันที่สิ้นหวัง ประสบความสำเร็จสุดทึ่ง เพราะอาหารมื้อเดียวเปลี่ยนชีวิต

    เว็บไซต์ต่างประเทศ เผยเรื่องราวของหญิงชื่อว่า อะแมนดา คุณแม่ลูกสองชาวอเมริกัน โดยเมื่อ 5 ปีก่อนตอนอายุ 30 ปี เธอเผชิญโชคร้ายต้องตกงานอย่างไม่ทันได้ตั้งตัว ประสบปัญหาทางการเงินและเกือบที่จะล้มละลาย แต่แล้วโชคชะตาก็พลิกผัน เพราะอาหารมื้อเดียว เปลี่ยนชีวิตเธอไปอย่างสิ้นเชิง

    ในวันหนึ่ง สามีของอะแมนดาซื้ออาหารจีนกลับมาบ้าน โดยในนั้นมีคุ้กกี้คำทำนายอยู่ด้วย ซึ่งสามีต้องการให้มันเป็นกำลังใจปลอบโยนเธอใช้ช่วงเวลาที่สุดยากลำบาก เธอเปิดกระดาษออกดู ก็พบข้อความระบุว่า "คุณจะประสบความสำเร็จในธุรกิจอย่างไม่ธรรมดา"

 

Sponsored Ad

 

    ในความสิ้นหวังนั้น กระดาษใบนี้เหมือนเป็นแสงแห่งความหวัง อะแมนดาเผยว่า ตอนนั้นเธอไม่มีประสบการณ์ทางธุรกิจ แต่คิดว่าไม่มีอะไรจะเสียอีกแล้ว จึงใช้เวลา 4 เดือนในการอดออม เก็บเงินจากเช็คว่างงานได้ 160 ดอลลาร์ (ราว 5,300 บาท) จากนั้นตัดสินใจซื้อเครื่องตัดงานฝีมือ เปิดร้านขายของแฮนด์เมดในเว็บขายของออนไลน์ชื่อ Etsy

    แม้ว่าจะไม่น่าเชื่อ แต่ความสำเร็จของเธอเกิดขึ้นจริงตามคำทำนายของคุกกี้ เมื่อแบนเนอร์ร้านของอะแมนดากลายเป็นไวรัลในโซเชียล ทำให้มียอดสั่งซื้อเข้ามาถล่มทลาย และสินค้าของเธอ 2 แบบ กลายเป็นที่ต้องการอย่างมากในตลาดออนไลน์ เธอกลายเป็นเศรษฐีในชั่วข้ามคืน

 

Sponsored Ad

 

    หลังจากนั้น สามีของเธอก็ตัดสินลาออกจากงานประจำมาช่วยซัพพอร์ตอะแมนดา และทั้งคู่ก็ร่วมลงทุนทำธุรกิจให้เติบโตขึ้น ในระยะเวลา 5 ปี ธุรกิจก็ประสบความสำเร็จอย่างน่าทึ่ง ปัจจุบันบริษัทของเธอมีมูลค่ามากถึง 12 ล้านดอลลาร์ หรือราว 400 ล้านบาท

    ภายหลังจากอะแมนดานำเรื่องราวของเธอมาแชร์ลง TikTok ก็ได้รับความสนใจอย่างมาก หลายคนเข้าไปแสดงความยินดีบอกว่า "มันทำให้รู้สึกหัวใจพองโตมาก ยินดีด้วยจริง ๆ" อีกทั้งยังได้กลายเป็นกำลังใจส่งต่อให้กับผู้คนอีกมาย ผู้ใช้โซเชียลรายหนึ่งกล่าวว่า "เราต้องการเห็นสิ่งนี้ แม้ต้องผ่านบางสิ่งที่ยากลำบาก แต่ดวงอาทิตย์จะส่องแสงอีกครั้ง"

 

Sponsored Ad

 

    ขณะที่อะแมนดา ก็ได้เข้าไปตอบว่า "ฉันเชื่อในตัวคุณ เชื่อในจักรวาล มองหาสัญญาณนั้นให้เจอและเงยหน้าขึ้นมา" ทุกวันนี้อะแมนดายังคงเก็บคำทำนายใบนั้นติดตัวไว้เสมอ และเธอตั้งใจที่จะเก็บมันไปตลอดชีวิต 

ที่มา : mirror.co.uk

บทความแนะนำ More +

บทความที่คุณอาจสนใจ