เปิดใจ "เสาวภา" พยาบาลคิดบวก ดูแลรพ.สนามบุษราคัม ใหญ่สุดที่เคยดูแลมา เหนื่อยแต่สนุกมาก

คอมเมนต์:

สุดยอดมากค่ะ ขอเป็นกำลังใจให้นะคะ

    ต้องบอกเลยว่าทุกวันนี้ทั้งหมอ พยาบาลและเจ้าหน้าที่ ทำงานกันอย่างหนักหน่วง ด้วยสปิริตแรงกล้า หวังเพียงแค่คนได้หายดีกลับมาเป็นปกติอีกครั้ง ก็ถือเป็นของขวัญและเป็นขวัญกำลังใจ ให้แก่บุคลากรทางการแพทย์แล้ว

    ซึ่งก่อนหน้านี้ ได้มีพยาบาลสาวได้เผยถึงทัศนคติที่ดีในการทำงาน หลังต้องเป็นส่วนหนึ่งในการรักษาผู้ป่วย ที่โรงพยาบาลสนาม บุษราคัม ภายในอาคารชาเลนเจอร์ 3 ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุม อิมแพ็ค อารีน่า เมืองทองธานี อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี

    โดยระบุข้อความว่า "เป็นวอร์ดคนไข้ที่ใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยดูแลมา ที่ทำงานอยู่ตรงหน้าฮอลล์ 2 ต้องเดินผ่านฮอลล์ 3 และเดินข้ามฮอลล์ 2 ไปอีก ขาลากทุกวัน แต่ทุกๆ วันมีแต่รอมยิ้ม บางวันทำงานจนไม่อยากเลิก เหนื่อยมาก แต่สนุกมาก 

 

Sponsored Ad

 

    หันซ้ายเจอเพื่อน รพ.ตรัง พูดภาษาใต้ หันขวาเจอเพื่อนจาก รพ.เชียงรายพูดภาษาเหนือ หันหลังเจออาจารย์จากโรงพยาบาลพระนั่งเกล้าพูดภาษากลาง หันหน้าเจอคนไข้พูดภาษา ลาว พม่า กัมพูชา มันไปอีก มีขนมแบ่งกันกินทุกวัน มีความสุขกับการทำงานแบบสุดๆ"

 

Sponsored Ad

 

    ในเวลาต่อมาโซเชียลฯ ได้แห่เข้ามาให้กำลังใจบุคลากรทางการแพทย์สาวคิดบวกรายนี้ และทีมแพทย์ทุกท่านเป็นจำนวนมาก จนโพสต์ของเธอได้ปังสนั่น

    เนื่องจากโรงพยาบาลสนามบุษราคัมแห่งนี้กว้างใหญ่มาก อุปสรรคในการทำงานคือการเดินซึ่งเป็นระยะทางที่ไกลมากทุกวัน ในเวลาต่อมา ทางฝ่ายบริหารจึงได้แก้ปัญหาด้วยการจัดหาและจัดสรรยานพาหนะ เครื่องอำนวยความสะดวกในการเดินทางให้

 

Sponsored Ad

 

     ทั้งสกู๊ตเตอร์ รถไฟฟ้า และรถกอล์ฟ มาให้ใช้ซึ่งทำงานกันอย่างเต็มที่ทั้งกองหน้าและกองหนุนเลยทีเดียว ภาครัฐและเอกชนเลยทีเดียว

 

Sponsored Ad

 

รถไฟฟ้าคันสีเขียวของ HAUP ถูกส่งมาช่วยบุคลากรทางการแพทย์แล้ว

.

 

Sponsored Ad

 

    ซึ่งคุณ 'เสาวภา ไชยวิชา' ได้โพสต์เฟซบุ๊กอีกครั้ง พร้อม ภาพรถกอล์ฟ รถไฟฟ้า และสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า พร้อมระบุข้อความว่า "ทุกคนเรามีรถใช้แล้ว เยอะเว่อร์ จริงๆ เลิกงานเร็ว แต่ยังไม่กลับ เพราะหัดเล่นของเล่นใหม่อยู่ ฮ่าๆ ขอบคุณฝ่ายบริหารค่า"

    เธอยังได้เปิดใจผ่านช่อง TOP NEWS อีกว่า "เราควรมองโลกในแง่บวก เจอเพื่อนร่วมงานหลากหลาย ต่างภาษา ต่างความคิด ต่างความรู้สึก เราก็เลยมีความสุขในการทำงาน เรามาทำงานก็ได้เห็นความเสียสละของทุกคน มีอาจารย์หมอคนหนึ่ง ทิ้งลูกไว้ที่บ้านไปปีหนึ่ง เพราะต้องมาช่วยดูแลผู้ป่วย แล้วต้องแบ่งเวลาไปปั๊มนมเพื่อที่จะเก็บไว้ให้ลูก 

 

Sponsored Ad

 

    นอกจากหนูแล้วหนูยังคิดว่ามีอาจารย์ที่เสียสละมากกว่าหนูอีก คนที่ยอมทิ้งลูกมาทำเพื่อประชาชน มาทำให้โรคนี้มันหายไปจากประเทศไทย เราก็เพียงแค่อยากให้โรคนี้มันหายไปเร็วๆ คือเราเห็นการเสียสละของทุกคนแล้วเรามีความประทับใจ เรารักกัน เราเลยมีความสุขในทุกๆวัน

Sponsored Ad

    เจ้าตัวเผยว่าตนนั้นอยู่จุดสแกน มีหน้าที่เป็นด้านหน้าเพื่อรับคนเข้ามา เราจะทำการซักประวัติจากห้องกั้นกระจก ซึ่งต้องทำงาน เป็นเวลา 8-16 ชั่วโมง ซึ่งตนมองว่าบุคลากรทางการแพทย์เหนื่อยกันจริงๆ ทำงานถ้าเทียบกับเลยที่ได้รับต้องบอกว่าไม่มีทางคุ้ม คือทุกคนที่มาทำงานนี้คือต้องเสียสละจริงๆ เพราะทุกคนทำงานมากกว่าเกินเดือนด้วยซ้ำ ซึ่งเราจะเห็นบ่อยๆกับภาพความเหนื่อยล้าของการต่อเวร

    นอกจากนี้เธอยังเล่าประวัติส่วนตัวอีกว่า เธอนั้นปัจจุบันอายุ 32 ปี วิศวกรเป็นอาชีพในฝัน แต่ที่มาทำอาชีพนี้เพราะคุณแม่อยากให้เป็นพยาบาล แต่พอเราได้มาเป็นแล้วแม่บอกว่าเราจะรู้สึกดีเอง ซึ่งเราก็รู้สึกดีจริงๆ เมื่อเราก้าวเข้ามาทำงานในอาชีพนี้ หนูรู้สึกดีทุกวันที่ได้เป็นพยาบาล 

    ซึ่งคุณเสาวภาเผยชีวิตส่วนตัวว่า คุณแม่เป็นชาวนาอยู่อีสานอยู่จังหวัดขอนแก่น แม่หวังว่าเราจะโตขึ้นมาทำงานรับราชการ รับใช้ชาติ ช่วยเหลือประชาชนและสังคมต่อไป"

.

ชมคลิป เปิดใจ "เสาวภา" พยาบาล รพ.บุษราคัม

คลิปเปิดไม่ออก >>> กดตรงนี้ คลิก <<<

ที่มา : saowapa chaiwicha

บทความแนะนำ More +

บทความที่คุณอาจสนใจ