เปิดเรื่องราว "พยาบาลดวงแข็ง" ผู้รอดชีวิตจากเรืออับปางถึง 3 ครั้ง จนได้ฉายาหญิงที่ไม่มีวันจม

คอมเมนต์:

เปิดเรื่องราว "พยาบาลดวงแข็ง" ผู้รอดชีวิตจากเรืออับปางถึง 3 ครั้ง จนได้ฉายาหญิงที่ไม่มีวันจม

    เรียกว่าเป็นอีกเรื่องราวน่าเหลือเชื่อจริงๆ สำหรับเรื่องราวของ ไวโอเล็ต เจสซอป (Violet Jessop) พยาบาลดวงแข็ง ผู้รอดชีวิตจากเหตุการณ์เรือล่ม ได้ถึง 3 ครั้ง 3 ครา หนึ่งในนั้นเธอยังเป็นอีกหนึ่งคนที่รอดพ้นวิกฤติจากเรือไททานิกในปี 1912 เหตุการณ์ที่ดังกระฉ่อนไปทั่วโลกอีกด้วย

    หากจะเล่าย้อนไปช่วงต้นทศวรรษ 1900 การล่องเรือสำราญถือเป็นอีกกิจกรรม ที่เหล่าบรรดามหาเศรษฐี เลือกที่จะออกมาพบปะสังสรรค์และพักผ่อนกัน ดังนั้นการเป็นส่วนหนึ่งในเรือสำราญนั้น จึงเป็นสิ่งที่หลายคนใฝ่ฝันจะเข้าไปทำงานและอยู่ในนั้น 

 

Sponsored Ad

 

    พื้นเพชีวิตของ ไวโอเล็ต เดิมทีเธอเกิดในปี 1887 ประเทศอาร์เจนตินา ซึ่งเกิดมาเธอก็ได้เจอกับความท้าทาย เริ่มจากการป่วยเป็นวัณโรคตั้งแต่เด็ก ในตอนนั้นทางทีมแพทย์ต่างถอดใจ และลงความเห็นว่าไม่สามารถจะช่วยเธอไว้ได้ แต่สุดท้ายเธอก็ได้เป็น 1 ใน 6 ของเด็กที่รอดชีวิตจากวัณโรค และกลับมาใช้ชีวิดได้ตามปกติ

 

Sponsored Ad

 

    ในเวลาต่อมา พ่อเธอก็ได้มาด่วนจากไป โดยพ่อได้เสียชีวิตลงในขณะที่เธอมีอายุได้เพียง 16 ปี ในนาทีนั้นแม่จึงตัดสินใจพาลูกๆ ไปอยู่ประเทศอังกฤษ ในระหว่างที่ย้ายไปที่ใหม่นั้นเธอต้องเรียนไปด้วยดูแลน้องไปด้วย เพราะแม่ของเธอต้องไปทำงานบนเรือและต้องเดินทางตลอด จึงทำให้ไม่ค่อยได้มีเวลาอยู่ด้วยกัน


    หลังจากแม่เธอเริ่มป่วย เธอจึงตัดสินใจลาออกจากมหาลัย ในวัย 23 ปี เพื่อออกมาหาเงินจุนเจือครอบครัว ซึ่งเธอเลือกทำงานบนเรือแทนแม่ตั้งแต่ยังสาว ในตอนแรกที่เธอเข้าทำงานเธออยู่บริษัท Royal Mail Steam Packet และถึงแม้ว่าเธอจะไม่ได้แต่งตัวดีๆ แต่งหน้าแต่งตา แต่เธอก็ได้รับการขอแต่งงานจากแขกถึง 3 ครั้งในตอนที่ทำงานเป็นเด็กเสิร์ฟอยู่บนเรือ

 

Sponsored Ad

 

    แต่เนื่องจากงานสนุกมากแค่ไหน ถ้าต้องแลกกับเงินเดือนอันน้อยนิดก็ไม่คุ้มอยู่ดี ในเวลาต่อมาในปี 1910 เธอจึงเลือกที่จะย้ายไปอยู่บริษัท White Star Line ที่ให้บริการเรือ Olympic ที่มีชื่อเสียงโด่งดัง 

 

Sponsored Ad

 

    เหมือนโชคชะตาจะเล่นตลกกับการเดินทางบนเรือสำราญครั้งแรกในชีวิต เนื่องจากในครั้งแรกที่เธอได้ออกเดินทาง เธอก็ต้องเจอกับสภาพอากาศที่เลวร้าย ก่อนที่เรือ Olympic ที่เธอทำงานอยู่นั้นจะชนเข้ากับเรือ HMS Hawke เรือรบของอังกฤษที่สร้างความเสียหายให้กับเรือเป็นอย่างมาก แต่ก็นับว่าเป็นโชคดี ที่การเกิดอุบัติเหตุในครั้งนั้นไม่มีผู้เสียชีวิต ในข่าวรายงานว่าเรือไม่ได้มีความเสียหายอะไรมากมาย แต่ทางบริษัทจำเป็นต้องจ่ายเงินค่าซ่อมมหาศาลเลยทีเดียว

ภาพความเสียหายของเรือ Olympic

 

Sponsored Ad

 

    ในเวลาหลังอุบัติเหตุเรือ Olympic ไวโอเล็ตได้รับการชักชวนจากเพื่อน ๆ ของเธอให้มาทำงานบนเรือ RMS Titanic หลายคนคงเริ่มอ๋อกันบ้างแล้วเพราะมันถูกเอามาทำเป็นหนังนั่นเอง ซ้ำยังเป็นเรือที่มีความหรูหราและมีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก โดยหลังจากที่เธอเข้าทำงานได้เพียง 5 วัน ในวันที่ 10 เมษายน 1912 เรือไททานิกก็ชนเข้ากับภูเขาน้ำแข็ง จนทำให้เรือจมลงไปสู่ใต้มหาสมุทร และได้พรากชีวิตคนมากถึง 1,503 คน แต่เธอก็คือหนึ่งในผู้รอดชีวิตจากเหตุการณ์นั้นด้วย

ภาพวาดเรือ Titanic โดยชาวเยอรมัน

 

Sponsored Ad

 

    ซึ่งเหตุเกิดขึ้นขณะที่เธอกำลังนอนอยู่บนเตียง แต่เธอรู้สึกแปลกๆเหมือนรู้ว่าเรือกำลังจะจม เธอจึงรีบขึ้นไปยังบนดาดฟ้าของเรือ ก่อนช่วยผู้หญิงและเด็กๆหลายคนให้ลงเรือชูชีพอย่างปลอดภัย และเมื่อถึงตาเธอขึ้นเรือ เธอได้คว้าเด็กทารกรายหนึ่ง ที่พลัดหลงทางกับแม่ไปกับเธอด้วย แต่ด้วยสภาพอากาศที่หนาวเย็น เธอจึงซุกหนูน้อยไว้ในอ้อมกอดอยู่ตลอดเวลาเพื่อให้ความอบอุ่นแก่เขา ซึ่งเป็นเวลากว่า 8 ชั่วโมง ที่จะมีเรืออีกลำเข้ามาช่วย ก่อนที่หนูน้อยจะลับเข้าสู่อ้อมกอดของผู้เป็นแม่อย่างปลอดภัย

Sponsored Ad

ภาพวาดเรือ Titanic โดยชาวเยอรมัน

    หลังจากผ่านโศกนาฏกรรมประวัติศาสตร์สุดแสนจะเลวร้ายมาได้เป็นเวลานานกว่า 4 ปี ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1 ปี 1916 เธอจึงเปลี่ยนงาน ครั้งนี้เธอได้รับบรรจุเป็นพยาบาลที่ทำงานให้กับสภากาชาดอังกฤษ แต่สถานที่ทำงานของเธอ กลับหนีไม่พ้นบนเรือสำราญ โดยครั้งนี้เธอต้องทำงานในเรือที่ชื่อว่า Britannic ที่ใช้เป็นเรือพยาบาลที่มีไว้เพื่อรับส่งทหารต่างแดน ในคาบสมุทรเมดิเตอร์เรเนียน

    นับเป็นโชคร้ายอีกครั้ง หลังทำงานได้เพียง 5 ปี เรือ Britannic ทำภารกิจสำเร็จเพียง 5 ครั้งเท่านั้น โดยในระหว่างการเดินทางครั้งที่ 6 เรือได้ชนกับทุ่นระเบิดใต้น้ำ จนทำให้เรือเสียหายอย่างหนักและจมลงภายในเวลาเพียง 57 นาทีเท่านั้น แตกต่างจาก Titanic ที่ใช้เวลานาน 2.40 ชั่วโมงกว่าจะจมลงสู่ก้นทะเล

    ในตอนนั้น ไวโอเล็ต พยายามกระโดดลงน้ำ แต่ร่างของเธอถูกดูดเข้าไปใต้ท้องเรือ จนศีรษะของเธอเกิดกระแทกเข้าอย่างจัง จนกระโหลกศีรษะของเธอร้าวและต้องทนทุกข์อยู่กับอาการปวดศีรษะมานานหลายปี 

    แม้เธอจะเผชิญกับเหตุการณ์ระทึกขวัญบนผืนน้ำอยู่หลายครั้ง แต่นั่นก็ไม่ทำให้เธอเลิกทำงานบนเรือ ซึ่งหลังสงครามเธอออกจากงานเก่า เพื่อมาทำงานให้กับบริษัทเรือสำราญ Red Star Line และบริษัท Royal Mail Line

    ในเวลาต่อมาเธอได้เกษียณในวัย 63 ปี และเธอได้รับโทรศัพท์ปริศนา จากเด็กทารกที่เธอเคยช่วยชีวิตไว้ในกลางดึก ปลายสายถามว่าเธอคือ ไวโอเล็ต เจสซอป ที่เคยช่วยเด็กทารกบนเรือไททานิกหรือไม่ ไวโอเล็ต ตอบว่า “ใช่” ปลายสายพูดว่า “ผมคือเด็กทารกคนนั้นเอง” จากนั้นเขาก็หัวเราะและวางสายไป โดยเจ้าตัวก็งงเหมือนกัน และไม่แน่ใจด้วยว่าโทรศัพท์สายลึกลับเป็นเด็กทารกที่เธอเคยช่วยชีวิตจริงหรือไม่

เรือ Britannic ที่กำลังจมในเวลาอันสั้น 

.

 

   เรื่องนี้กลายเป็นเรื่องแปลกที่เป็นตำนาน ซึ่ง ไวโอเล็ต เจสซอป เธอได้ฉายาว่าเป็น "สุภาพสตรี ผู้ไม่มีวันจมน้ำ" ก่อนที่จะจากโลกไปในปี 1971 ด้วยวัย 84 ปี ด้วยโรคหัวใจล้มเหลว

ที่มา : brightside, thevintagenews

บทความแนะนำ More +

บทความที่คุณอาจสนใจ