"บัวขาว บัญชาเมฆ" หลีกความวุ่นวาย กลับบ้านมาดำนา ขุดดินสร้างคันนา บนที่ดินกว่า 100 ไร่
คอมเมนต์:
สำหรับ “บัวขาว บัญชาเมฆ” เจ้าของฉายา “กำปั้นขวัญใจมหาชนชาวไทย” เป็นนักมวยระดับอินเตอร์ที่มีชื่อเสียง แถมยังค่ายมวยชื่อดังเป็นของตัวเอง ที่ล่าสุดเขาได้กลับมาดำนาข้าว ขุดดินสร้างคันนา พร้อมลงมือทำด้วยตัวเองทั้งหมด ที่หมู่บ้านบัวขาว จ.เชียงใหม่ บัวขาว” ได้โพสต์ภาพขณะที่ตนเองกำลังลงมือขุดดินเพื่อเตรียมคันนา
ร้อยตรี สมบัติ บัญชาเมฆ หรือ “บัวขาว บัญชาเมฆ” ยอดนักมวยไทยวัย 38 ปี เจ้าของฉายา “ดำด็อทคอม” บนสังเวียนผืนผ้าใบ หรือ ค่ายซ้อมกันจนชินตา แต่คนส่วนใหญ่คงไม่เคยเห็นวิถีชีวิตของยอดนักมวยไทยระดับโลกผู้นี้อย่างแน่นอน
Sponsored Ad
บัวขาว บัญชาเมฆ
และพร้อมที่จะเอาน้ำเข้านาเพื่อเตรียมลงกล้าข้าว และแม้ว่าอากาศนั้นจะร้อนขนาดไหน แต่จิตใจก็พร้อมที่จะสู้เต็มร้อย เรียกว่ายังไงก็รักอาชีพบ้านเกิด ไม่ลืมตัวเอง ไม่หลงแสงสี โดยพื้นที่ตรงนี้มีพื้นที่กว่า 100 ไร่ เพราะไม่เพียงแต่ทำนาแล้ว บัวขาว บัญชาเมฆ ยังได้สร้างในส่วนของ รีสอร์ทที่พักผ่อนได้สร้างเสร็จสมบูรณ์พร้อมให้ผู้สนใจได้เข้ามาใช้บริการ
Sponsored Ad
ซึ่งมีทั้งท้องนา ไร่สวน เรียกว่าใช้ชีวิตท่ามกลางธรรมชาติสุด ๆ ภายใน บัวขาว วิลเลจ อันเป็นที่ตั้งของค่ายบัญชาเมฆ ยังมีบริการให้แฟน ๆ ที่สนใจในกีฬาหมัดมวย สามารถเดินทางเข้ามาฝึกซ้อมมวย และพบเจอกับ “ดำดอทคอม” บัวขาว บัญชาเมฆ กำปั้นขวัญใจมหาชนได้แบบตัวเป็น ๆ
นอกจากนี้ทางทางรีสอร์ท ยังได้มีการให้บริการผู้เข้าพักได้อาศัยแบบวิถีชนบท ได้เรียนรู้วัฒนธรรมท้องถิ่น เรียนรู้ และศึกษาเกี่ยวกับชีวิตความเป็นอยู่ แบบพอเพียง ตั้งแต่ขั้นตอนการทำไร่ ทำนา และเลี้ยงสัตว์ ซึ่งสามารถนำผักและไข่ที่ได้จากในฟาร์มมาทำอาหารทานได้เอง
Sponsored Ad
นอกจากนี้ สถานที่ฝึกซ้อมมวยแห่งใหม่ ในเนื้อที่กว่า 100 ไร่ ตั้งอยู่ที่อำเภอเเม่แตง จังหวัดเชียงใหม่ ห่างจากท่าอากาศยานนานาชาติเชียงใหม่ ประมาณ 50 กิโลเมตร
Sponsored Ad
ผลงานที่บัวขาวเคยได้สร้างชื่อเสียงให้กับประเทศนั้น มีหลายรางวัลเป็นอย่างมาก บัวขาว ป. ประมุข หรือชื่อจริง คือ “สมบัติ บัญชาเมฆ” เป็นนักมวยไทยวัย 27 ปี ที่มีชื่อเสียงและเป็นที่ยอมรับในวงการมวยในทวีปยุโรปและประเทศญี่ปุ่น โดยเฉพาะในสังเวียนมวย K-1 ที่เขาเคยเป็นแชมป์ในปี พ.ศ.2547 และ พ.ศ.2549
อย่างไรก็ตาม บัวขาวเกือบจะได้แชมป์ K-1 ถึง 3 สมัยติดกันมาแล้ว แต่มาสะดุดในปี พ.ศ.2548 บัวขาวแพ้คะแนน แอนดี้ ซอเยอร์ ในนัดชิงชนะเลิศอย่างน่ากังขา ทั้งนี้ มวย K-1 คือ มวยไทยที่ญี่ปุ่นนำไปแพร่ เมื่อปี พ.ศ. 2537 โดยอาจารย์คาซูโยชิ อิชี่ (Kazuyoshi Ishii) เจ้าสำนักเซโดไคคังคาราเต้ ในประเทศญี่ปุ่น
Sponsored Ad
โดยประยุกต์เอาศิลปะการต่อสู้แขนงต่าง ๆ มาต่อสู้กัน เขากลายเป็นที่รู้จักและโด่งดังอย่างมากในต่างประเทศ จึงไม่แปลกอะไร ที่ ณ เวลานี้บัวขาวถูกจัดเป็นหนึ่งในนักกีฬาอาชีพไทย ที่ทำรายรับสูงสุดคนหนึ่ง โดยมีรายได้ต่อปีเป็นตัวเลข 8 หลัก ซึ่งส่วนใหญ่มาจากการชกมวยที่ต่างประเทศ และปัจจุบันเขามีสถิติการชกทั้งหมด 407 ครั้ง ชนะ 357 ครั้ง แพ้ 45 และเสมอ 5 ครั้ง
Sponsored Ad
เรียกได้ว่าบัวขาว บัญชาเมฆ เป็นบุคลลากรคนหนึ่งของประเทศที่สามารถสร้างชื่อเสียงของไทยให้ทั่วโลกเป็นที่ยอมรับในนามของมวยไทยได้อย่างสำเร็จเลยค่ะ
.
.
ที่มา : บัวขาว วิลเลจ, สารพันคนท้อง