สาวสุดช้ำ เล่าประสบการณ์ชีวิต แฟนที่คบมา 5 ปี แอบคบซ้อน ซ้ำเพื่อนๆในที่ทำงานรู้เห็นเป็นใจกันหมด

คอมเมนต์:

ขอเป็นกำลังใจให้ค่ะ คนในบริษัทคงทำใจลำบาก พูดไม่ออกไปตามๆกัน

    การมีความรักดีๆถือเป็นสิ่งที่ว่ายากแล้ว แต่การรักษาความสัมพันธ์ของเราไว้ ถือว่าเป็นเรื่องที่ยากกว่าร้อยเท่าพันเท่าเลยทีเดียว เหมือนกับสาวสมาชิกพันทิปหมายเลข  6139187 ได้โพสต์เล่าประสบการณ์ ที่ตนปฏิบัติต่อแฟนดีทุกอย่าง แต่สุดท้ายก็ถูกนอกใจ ซ้ำร้ายเพื่อนๆ ที่ทำงานของฝ่ายชาย ไม่มีใครกล้าปริปากบอกเธอสักคน

(เป็นเพียงภาพประกอบเท่านั้น)

 

Sponsored Ad

 

    โดยสาวเจ้าของเรื่อง ได้เล่าว่า แฟนของเธอแอบคบซ้อนในที่ทำงาน ซึ่งเพื่อนๆที่ทำงานไม่มีใครบอกเธอเลย โดยเธอได้เล่าประสบการณ์นี้โดยระบุว่า... แชร์ประสบการณ์แฟนคบซ้อนในที่ทำงานบริษัทสินเชื่อรถและสังคมรู้เห็นเป็นใจค่ะ

     เราอยากแชร์ประสบการณ์ ระบายเผื่อใครเจอเหตุการณ์ทำนองเดียวกันนะคะ เรามีแฟนที่คบกันมา 5 ปี เริ่มคบกันตั้งแต่แฟนอยู่ห้องเช่าเล็กๆ สภาพแวดล้อมไม่ค่อยโอเค (ห้องเช่าเก่าคนแถวนั้นมีโจรและคนติดยาเยอะในห้องมีเห็บสุนัขและแค่พลิกตัวไปก็สามารถไหลเข้าห้องน้ำได้เลย) ตัวแฟนเองเรียนจบวุฒิ ม. 6 แต่เป็นคนทำงานเก่งพูดเก่ง (และเที่ยวเก่ง) ทำงานในสายขายประกันรถ รู้จักกันมาจากการเป็นเพื่อนของเพื่อน ด้วยความที่รู้สึกว่าไม่ได้มีอะไรน่าอายจึงบอกพื้นฐานครอบครัวแฟนให้พ่อแม่เรารู้ ไม่เชิงว่าท่านรับได้แต่เพราะลูกรักเลยต้องรับได้ (ตอนนั้นเรากำลังหลง) 

 

Sponsored Ad

 

    ครอบครัวเรามีลูกคนเดียว เป็นชนชั้นกลาง เราเรียนจบมหาวิทยาลัยรัฐและมีแพลนเรียนต่อ เราทำงานในสายการแพทย์ พื้นฐานครอบครัวและความคิดต่างกันหลายอย่างคบกันมามีเรื่องทะเลาะเพราะการออกไปกินเหล้าและทำตัวเฟรนลี่เกินไปค่อนข้างบ่อย เรามีกฏการไม่เช็คมือถือกันเพื่อความเป็นส่วนตัว แต่ตกลงกันว่าถ้ามีเรื่องไม่สบายใจหรือเสี่ยงต่อการนอกใจจะขอดู แต่ก็ไม่มีเรื่องอะไรเพราะแฟนทำตัวเหมือนรักและซื่อสัตว์ต่อกันมาก คบมาได้ระยะนึงแฟนอยากย้ายไปอยู่บ้านเช่าที่มีพื้นที่จะได้อยู่กับพ่อแม่พี่ชาย เพราะตอนนี้อยู่ห้องเช่า แฟนนอนกับแม่ พี่ชายนอนอีกห้อง พ่อนอนในรถรับส่งนักเรียน ซึ่งเราก็เห็นด้วย เพราะไม่อยากให้พ่อแฟนต้องลำบาก ท่านอาจจะบ่นไปหน่อยแต่ท่านดีกับเรามาก 

 

Sponsored Ad

 

    ตอนนั้นบ้านเช่ามีคนมาสนใจเยอะต้องรีบมัดจำแฟนไม่มีเงินมัดจำเราจึงออกให้ก่อน 3 เดือนโดยผ่อนจ่ายไม่มีดอกเบี้ย มีพูดเล่นว่าให้เลี้ยงข้าว เราช่วยย้ายบ้านทำงานบ้านทุกอย่าง ซื้อที่นอนผ้าปูต่างๆซื้อของเข้าบ้านตั้งใจทำเหมือนบ้านตัวเองเลย ส่วนในครอบครัวแฟนเราก็รักเหมือนครอบครัวเรา มีของขวัญฝากพ่อแม่แฟนทุกเทศกาล แม่แฟนมีหนี้เรื่องการพนัน หากตอนเดือดร้อนขอให้ช่วยเราช่วยเสมอ ถ้าไม่ใช่เงินก้อนใหญ่เราไม่เคยเอาไปบอกแฟน (แฟนเป็นคนใช้หนี้แทนแม่ตอนนี้ค่ะ) พยายามขอว่าแม่เลิกเถอะสงสาร....นะ แต่พอมีเจ้าหนี้นอกระบบมาทวงเงินแม่จะโทรให้เราได้ยินตลอดก็อดช่วยไม่ได้กลัวเป็นอันตราย

 

Sponsored Ad

 

      ในระหว่างที่ย้ายมาบ้านเช่าแฟนลาออกจากงานเพราะมีปัญหากับหัวหน้า เราช่วยในการขับรถตะเวนหางาน ไปนั่งรอสมัครงาน ตอนนั้นมีอะไรก็แบ่งกันไม่เคยบ่นเรื่องความลำบาก (ใครที่คิดว่าการกัดก้อนเกลือกินจะทำให้รักมั่นคงลองพิจารณาคนที่จะร่วมทุกข์ด้วยดีๆนะคะ) จนสุดท้ายแฟนได้งานในบริษัทสินเชื่อรถแห่งนึงที่พึ่งแยกตัวเป็น 2 บริษัท ตอนนี้ค่อนข้างดังค่ะ มีการทำโฆษณาการแยกตัวออกมาอย่างจัดเจน แฟนทำตำแหน่งขายสินเชื่อรถ มาทำที่นี่รายได้ค่อนข้างดีมากบางเดือนได้เหยียบแสน แฟนเป็นท็อปเซล เรายินดีกับความสำเร็จนะคะ เคยพูดกับแฟนว่าได้ดีแล้วไม่ใช่ทิ้งกันนะเนื่องจากที่นี่ค่อนข้างมีการคบกันในที่ทำงานหลายคู่มาก แต่ที่ไม่โอเคคือหลายคนที่เรารู้จักมีสามีภรรยาอยู่แล้วแต่มาแอบคนกันที่นี่หรือบางคนถึงขนาดเลิกกับบ้านใหญ่มาคบบ้านเล็กเปิดเผย แต่แฟนยืนยันว่าเค้าไม่มีแน่นอน จนมีคนสมัครงานใหม่เข้ามาเป็นผู้หญิง จริงๆอายุมากกว่าแฟนเรา 2-3 ปีนะคะ ขอเรียกว่าคุณดีดี้แล้วกัน ตัวเล็กหน้าตาดี ทางหัวหน้าให้แฟนเราเป็นคนเทรนจนเค้าสนิทกันมาก 

 

Sponsored Ad

 

(เป็นเพียงภาพประกอบเท่านั้น)

    ตอนแรกคุณดี้มีแฟนเป็นทอมคบกันมานาน เราก็ไม่ได้คิดอะไรที่สนิทกัน จนหลังๆแฟนลงรูปดี้บ่อย แท็กหากันบ่อย กดส่งหัวใจให้กัน กับเราไม่มีนะคะไม่ลงอะไรทั้งนั้น พอเราถามก็บอกคิดมากมันชอบทอม บลาๆๆ ความสงสัยมันเพิ่มเรื่อยๆเพราะแฟนไปไหนมาไหนกับดี้บ่อย พิมพ์ชื่อในโทรศัพท์ประมาณ ดีดี้บัดดี้เกิร์ล งานบริษัทไม่ให้เราไป หรือไปกินข้าวที่บ้านหัวหน้าเพื่อนคนอื่นๆพาแฟนไปอวยพรแต่แฟนเราไม่ให้ไป คุณดี้ก็ไปนะคะ ส่วนเราแฟนให้รอที่ห้างแล้วลืมมารับจนห้างปิดเราเลยนั่งรถกลับเอง ช่วงนั้นทะเลาะกันเรื่องนี้จนแฟนบอกอยากใช้ชีวิตคนเดียว แต่โชคร้ายเราเกิดอุบัติเหตุต้องผ่าตัดวันสิ้นปี ซึ่งอุบัติเหตุเป็นรถมอเตอร์ไซด์แฟน แฟนจึงต้องมาดูแลเราที่พักพื้นและมีบางส่วนในร่างกายที่ขาดหายไปตลอดชีวิต ช่วงนั้นเราทำใจไม่ได้ แฟนมารับปากกับพ่อแม่เราว่าจะดูแลและไม่มีเรื่องผู้หญิงแน่นอน แม่เราไม่ว่าแฟนสักคำเพียงแต่บอกว่าเสียเลือดเนื้อขนาดนี้อย่าทิ้งอย่าทำร้ายกันนะลูก

 

Sponsored Ad

 

(เป็นเพียงภาพประกอบเท่านั้น)

     เราผ่าตัดได้ 2 อาทิตย์แฟนก็ออกเที่ยวอีกครั้ง แต่จะกลับมานอนที่บ้านเราค่อนข้างบ่อย แต่ก็ยังมีเรื่องคุณดี้ตลอด ไม่ว่ากิจกรรมอะไรที่บริษัทจะอยู่ด้วยกันเสมอ สนิทสนมกันเกินไป มีรูปคลิปที่ถ่ายติดมากมายเราขอให้ห่างๆกันหน่อย แฟนรับปากแต่ก็ไม่ห่าง จนเราเจอตุ้มหูดี้ในกระเป๋าแฟน เราขอเคลียร์แฟนก็ปลอมไลน์เป็นดี้มาคุย (ใช้มือถือสองเครื่องสร้างสถานการณ์) เราจับได้เลยโทรหาคุณดี้ คุณดี้บอกว่า "จำไม่ได้น่าจะเมาแล้วลืมไว้ถ้าถามเร็วกว่านี้น่าจะจำได้ มาถามตอนนี้จำไม่ได้แล้ว วันนั้นที่มีงานบริษัทก็กลับกับแฟน" แต่ถามเรากลับว่า แฟนเรามานอนที่บ้านเราบ่อยไหม วันนี้ยังไปอยู่ไหม 

Sponsored Ad

    ซึ่งเราก็แปลกใจแต่เค้ายืนยันว่ามีแฟนแล้วและเป็นแค่เพื่อนกัน เรารู้สึกไม่สบายใจเลยไปขออนุญาตสอบถามแฟนคุณดี้ บอกว่ามีเรื่องไม่สบายใจต้องขอโทษที่รบกวน ทางแฟนคุณดี้ยินดีที่จะพูดคุยและบอกความจริงว่าจริงๆเลิกกันไปแล้วเนื่องจากเค้ามีความสงสัยว่าคุณดี้แอบคบกับแฟนเรา แต่เค้าไม่สามารถติดต่อเราได้ จับได้เพราะโทรหากันทุกคืนและแลกของกันใช้ มีการไปรับไปส่งกัน และแฟนเก่าคุณดี้ถามว่าจะเลือกใคร คุณดี้บอกว่าเลือกแฟนเราส่วนวันงานที่เจอตุ้มหู แฟนคุณดี้ไม่ได้ไปรับ เลิกกันก่อนหน้านั้น

(เป็นเพียงภาพประกอบเท่านั้น)

     ตอนเช้าเราจึงโทรหาคุณดี้อีกรอบและมีการรวมสายคุยกัน เรา แฟนเรา คุณดี้ ทั้งสองคนยืนยันว่าเป็นแค่เพื่อนกันไม่ได้มีอะไรเกินเลยส่วนที่เลิกกับแฟนเก่าไปเนื่องจากมีปัญหาเรื่องเงินแฟนเก่าชอบใส่ร้ายต่างๆนานา เขาบอกว่าเดี๋ยวเขาจะเลิกยุ่งกับแฟนเราแต่เราเป็นต้นเหตุที่ทำให้เขาต้องเสียเพื่อน ซึ่งตอนนั้นทั้งดี้และแฟนเราไม่ค่อยพอใจ ตัวเราเองก็ยังไม่มีหลักฐานมากไปกว่านี้ เราแอบเก็บมาคิดว่าเราคิดมากไปหรือเปล่าเลยอาจจะทำให้คนที่เป็นเพื่อนกันมีปัญหากัน แต่ก็ขอว่าในการทำงานเราไม่ยุ่งแต่อย่าทำอะไรที่มันเป็นการล้ำเส้นหรือสนิทกันจนเกินเลย เราพยายามสอบถามกลุ่มเพื่อนที่ไปทำงานที่นั่น ต้องบอกก่อนนะคะว่าก่อนจะมาเป็นแฟนกันมีกลุ่มเพื่อนกลุ่มเดียวกันประมาณเกือบ 10 คนทุกคนมาทำงานที่นี่หมดเลยเแฟนเรามาทำงานแล้วดึงกันมาทำที่นี่หมด ส่วนเราทำสายแพทย์เหมือนเดิม เราเห็นว่าทุกคนก็เป็นเพื่อนกันมาก่อนเลยพยายามสอบถามแต่ไม่มีใครบอกอะไร ในขณะที่ไม่มีหลักฐานก็เลยพยายามเชื่อใจ เคยขอดูโทรศัพท์ ก็ไม่เจอแชทแต่เจอชื่อดี้ในรายการค้นหา แต่แฟนก็แก้ตัวไปได้ทุกครั้ง 

(เป็นเพียงภาพประกอบเท่านั้น)

     ความไม่สบายใจนี้ดำเนินอยู่มา 2 ปีกว่าเนื่องจากไม่ว่าจะเป็นงานบริษัทอะไรจะต้องเจอเขาสองคนอยู่ด้วยกันเสมอ เราก็เหมือนจะเป็นโรคจิตที่จะต้องไปนั่งดูรูปดูคลิปที่บริษัทลง แฟนเราซื้อรถ Harley  ตอนแรกจะให้เราเป็นคนออกให้เป็นชื่อเราแล้วเขาผ่อนต่อ แต่เราไม่สามารถทำได้เนื่องจากเราจะต้องซื้อบ้าน แฟนอ้างว่าไปเอาชื่อพี่ชายมาออกแต่วันที่ออกรถปิดบังเราไม่ให้เรารู้ เรามารู้เองทีหลังว่าออกรถแล้ว เพราะเคยตำหนิว่าจะรีบออกรถทำไม รถที่มีก็มีอยู่ตั้งหลายคันทำไมไม่ทำเครดิตให้ดีแล้วซื้อบ้านก่อน

     ไม่นานก็มีรูปผู้หญิงคนนี้ขึ้นถ่ายกับรถ ผู้หญิงคนนี้นำรูปแฟนเราตอนเด็กไปลงใน IG ส่วนตัวของตัวเอง ตั้งแคปชั่นว่าวันเด็กของคนชอบนอน และมีแคปชั่นที่ถ่ายกับรถอีกหลายอย่างที่สื่อเรื่องการคบกัน พอถามก็บอกว่าเป็นการแกล้งกันเล่นส่วนเรื่องรถ แฟนเราบอกว่าไม่ทราบเรื่องว่าเขามาถ่ายได้ยังไง จนล่าสุดวันวาเลนไทน์ที่ผ่านมาแฟนนำดอกไม้และการ์ดมาให้ แล้วบอกว่าวันที่ 15 กุมภาพันธ์จะต้องมีไปงานบริษัทเป็นงานเลี้ยงปีใหม่ย้อนหลังเราก็เลยขอว่าอย่าให้มีเรื่องผู้หญิงคนนี้อีกนะ แต่พอเป็นวันงานจริงมีทั้งคลิปที่เขาทะเลาะกันในงาน มีภาพจับมือ และอีกหลายภาพที่บ่งบอกว่าเป็นมากกว่าเพื่อน เราทนไม่ไหวเลยโวยวายกับแฟนแล้วไปหาแฟนที่บ้านในตอนเช้า 


    ตั้งแต่เกิดเรื่องมาแฟนเราไม่เคยยอมรับปฏิเสธมาตลอด แล้วมาอยู่บ้านเราตลอดมาคบมาทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ยังใช้ชีวิตอยู่บ้านเรากินข้าวนอนบ้านเราในบางวัน แต่จะมาดึกขึ้นเรื่อยๆจากปกติเมื่อก่อนเคยมา 2-3 ทุ่มหลังเลิกงาน ตอนนี้ประมาณ 5 ทุ่ม-เที่ยงคืนและออกจากบ้านเราตีห้า ความสงสัยทุกอย่างของเราไม่เคยได้รับการเปิดเผยเพราะไม่สามารถที่จะจับพิรุธอย่างอื่นได้ หรือมีหลักฐานชัดเจนอะไรเลย เพื่อนที่บริษัทที่รู้จักกันก็ไม่มีใครกล้าบอกเรา เราเคยตามไปดูที่ทำงานแต่ไม่เจอเค้าสองคนและไม่อยากให้เป็นเรื่องราวใหญ่โตเพราะตัวเราเองจะเสียหายก็เลยไม่ได้ไปอีก เราสอบถามกับแม่แฟน แม่แฟนยืนยันมาตลอด 2 ปีหลังนี้ว่า "ไม่มีอะไรผู้หญิงคนนี้ไม่เคยมาที่บ้านเลย แม่บอกว่าเป็นแค่เพื่อน ตัวแม่เองเกลียดมันจะตายที่ทำให้เรามีปัญหากับแฟน"

(เป็นเพียงภาพประกอบเท่านั้น)

     สุดท้ายในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา เราแจ้งกับหัวหน้างานแฟนเราและคุณดี้โดยตรงว่าเราไม่สบายใจในเรื่องความเกินเลยตรงนี้ แต่ทางหัวหน้างานก็ไม่มีการตอบรับใดๆเกิดขึ้นมา มีการโทรคุยกันหลายครั้งระหว่างเรากับคุณดี้โดยทุกครั้งเรามีคลิปเสียง คุณดี้ปฏิเสธมาตลอดว่าไม่ได้เป็นอะไรกัน ให้กลับไปคบกัน แต่ในบางทีก็มีหลุดออกมาว่า "อะไรที่เราคิดว่าเป็นของเราอาจจะเป็นของเขาก็ได้" แต่แฟนเราปฏิเสธหนักแน่น บางครั้งก็ด่าผู้หญิงคนนี้ด้วยซ้ำ เรามีแอบคิดว่าถ้ามันคือละครมันก็คือละครฉากใหญ่มากๆ ด้วยความไม่สบายใจเราตัดสินใจห่างจากแฟนออกมา แฟนเราพยายามง้อทั้งไลน์มาโทรมาส่งข้อความมา จนวันนึงคุณดี้นัดเราออกไปพบ บอกว่ารู้สึกไม่สบายใจที่ทำให้เป็นต้นเหตุของการทะเลาะกัน คุณดี้ชวนเราไปทำบุญซึ่งเป็นการทำบุญที่เรารู้สึกว่าคงไม่ได้บุญเพราะจิตใจเราไม่สงบเลย หลังจากนั้นไปนั่งคุยกัน คุณดี้ยืนยันตลอดว่าเป็นแค่เพื่อน แต่สอบถามเราว่าเรามีอะไรกับแฟนเราหรือเปล่าช่วงนี้ มีอะไรกันครั้งล่าสุดเมื่อไหร่มีบ่อยไหม แฟนทักมาง้อไหมขอดูข้อความหน่อย อ้างว่าจะเอาไปล้อแฟนเรา ขอถ่ายรูปคู่ด้วยหน่อย และมีการบอกว่าจริงๆแล้วดี้มีแฟนใหม่แล้วนะและดี้ก็เพิ่งมีอะไรกับแฟนดี้มา แฟนเป็นอัยการ ซึ่งเราค่อนข้างอึดอัดและลำบากใจในการพูดคุยหัวข้อเหล่านี้มากๆพยายามเลี่ยงที่จะไม่ตอบและเปลี่ยนเรื่องคุยหลายรอบแล้ว เขาบอกว่าที่มาก็เพื่อจะยืนยันให้เราสบายใจว่าเป็นแค่เพื่อนกันจริงๆอยากจะมาจ้องหน้าพูดคุยให้เราเชื่อใจ และชวนเราไปบ้านแฟนเราว่าไปคุยกัน 3 คนไหม แต่เราไม่ไป เขาจึงขอตัวกลับบอกว่าจะไปหาเพื่อน ในระหว่างที่เขาออกไปเราโทรหาแฟนเรา พูดเรื่องที่เราสงสัยในการสนทนา แฟนเรามีท่าทีหงุดหงิดแต่ก็ยืนยันว่าเราคิดไปเอง แต่ก็ต่อว่าเราว่าไปเจอกันทำไม

     หลังจากช่วงนี้แฟนเราก็มีพยายามกลับมาง้อมากินข้าวที่บ้าน มาเอากับข้าวที่บ้านเราไปกิน มีชวนเราไปนอนที่บ้านเขา ซึ่งเราไปในบางครั้งเพราะบางมีงานอยู่ใกล้แถวนั้น เขาบอกว่าอยากให้เราใจเย็นๆแล้วค่อยๆคิดเพื่อที่จะได้เริ่มกันใหม่ แต่วันนึงก็มีผู้หวังดีหรือเปล่าไม่รู้ ทักข้อความใน Facebook เรามาส่งรูปเขากับผู้หญิงคนนี้และอ้างตัวว่าเป็นแฟนผู้หญิงคนนี้อยากจะบอกเรื่องราวให้รู้ว่าเขาแอบคบกัน พอเราบอกแฟนเรา แฟนเราก็บอกว่ามีคนไม่หวังดีทักมาแกล้ง สักพักคุณดี้โทรมา กล่าวหาเราว่าเราสร้างสถานการณ์ทำไม หาว่าเราเป็นคนสร้าง Facebook ขึ้นมาเพื่อจะทำให้เขาเสียชื่อเสียง เราจึงอัดคลิปเสียงเขาไว้แล้วบอกว่า เดี๋ยวเราจะแจ้งความข้อหาหมิ่นประมาท เพราะเขาใช้คำพูดที่ค่อนข้างที่จะกล่าวหา และขู่ว่ามีพี่เขยเป็นตำรวจให้เราระวังเอาไว้ เคยขู่เราว่ามีปืนอย่ามาอะไรกับเค้ามากเพราะเค้าบ้าๆขึ้นมาอาจจะทำอะไรก็ได้ พอเราขู่จะแจ้งความกลับก็เงียบไปและบอกว่าขอโทษที่เข้าใจผิด


    ในระหว่างนี้เรากับแฟนห่างกันขึ้นเรื่อยๆ แฟนมาบ้านนานๆที ความสนิทใจมีไม่เหมือนเดิม วันไหนที่อารมณ์ดีก็ทักมาบอกรักวันไหนที่อารมณ์ไม่ดีก็บอกว่าเราไม่มีสิทธิ์พูดอะไรเพราะเราเป็นคนบอกว่าจะเลิก แต่ก็ไม่เห็นทำตัวเลิกกันตรงไหน ช่วงหลังมานี้แฟนมักบอกว่าถ้าเค้าหายไปเราต้องมีชีวิตดีๆนะ ด้วยความโง่เราเป็นห่วงนึกว่าแฟนเป็นโรคซึมเศร้าก็พยายามถามแม่เค้าว่าเป็นอะไรทางบ้านโอเคไหม

   ทางแม่แฟนบอกว่าเครียดเรื่องงานเรื่องเงิน เราก็พยายามคุยกับแฟน ไปหาแม่แฟนบ่อยก็ไม่มีใครบอกอะไร จนเราได้รู้ความจริงว่า จริงๆแล้วตอนนี้ คุณดี้ท้องกับแฟนเรา เค้าแอบคบซ้อนมาตั้งแต่สองปีก่อนที่เราสงสัย เริ่มตั้งแต่นั่งทำงานข้างกัน เพื่อนทุกคนหัวหน้าทุกคนรู้พ่อแม่แฟนเรารู้ ตอนนี้ซื้อบ้านซื้อรถอยู่ด้วยกัน รถฮาเล่ย์ที่ออกเป็นชื่อผู้หญิง เราเหมือนจะเป็นลมตอนรู้เรื่อง เรารีบขับรถไปหาแม่แฟนแต่แม่ให้คุยหน้าบ้านไม่ให้เข้าบ้านบอกกลัวคนอื่นรู้ (จริงๆคือมีหลักฐานการเข้ามาอยู่ของฝ่ายหญิงในบ้านน่าจะยังเก็บไม่ทันค่ะเราไปไม่ได้บอก)  ส่วนแฟนเราไปอยู่กับดี้ที่บ้านใหม่ แม่แฟนบอกไม่อยากได้ดี้เป็นสะใภ้และรู้ว่าเราช่วยเหลือมาตลอดรักเรามากเลยอยากให้เรารอ ให้แฟนเราเคลียร์ทางนั้นไปจะได้กลับมาคบกัน ? และบอกว่าขอเราอย่าเพิ่งบอกพ่อแม่เรากลัวพ่อแม่เราเอาเรื่อง? ซึ่งเราหมดศรัทธาและรู้ว่าความเห็นแก่ตัวช่างยิ่งใหญ่ เราบอกแม่แฟนว่าเค้ารักลูกเค้าพ่อแม่เราก็รักเราเหมือนกันทำไมทำกันแบบนี้ อยากได้ผู้หญิงคนนี้จริงๆหลอหรือใช้บ้านเราเป็นบันได ถ้าแม่รักหนูจริงแม่ต้องบอกความจริงเพื่อให้หนูไปมีชีวิตที่ดีไม่ใช่ใช้ผู้ชายคนเดียวกันกับคนอื่นมาหลายปี หรือเพราะหนูต้องซื้อบ้านเลยไม่มีเงินออกรถให้ ดี้ซัพพอร์ตได้มากกว่า แม่ไม่เคยโทรหาหนูนอกจากตอนเดือดร้อน แม่แฟนเลยบอกว่าไม่รู้สิใครเข้ามาทำดีเค้าก็รักหมดแหล่ะ แปลว่าถ้าใครให้เงินก็คงรักมาก

       สิ่งที่เราทำต่อจากนี้สรุปย่อๆให้นะคะ

       1. แฟนเราไม่ยอมรับว่าทำดี้ท้อง และไม่กล้ามาคุยกับครอบครัวเรา

       2. เราเลิกติดต่อกับแฟนและแม่แฟนเด็ดขาด เรียกว่าไม่เผาผี เพราะดี้ก็มาอยู่กันนานแล้ว มานอนในผ้าปูที่นอนที่เราซื้อบ้านที่เราช่วยทำสัญญา ใช้ของที่เราซื้อติดบ้านเอาไว้

       3. เราเลิกคบเพื่อนกลุ่มที่รู้เห็นเป็นใจ และคอยสนับสนุนเรื่องนี้

       4. เราโทรร้องเรียนและแจ้งเรื่องบริษัทที่แฟนทำงาน สินเชื่อรถชื่อดัง ตึกสำนักงานใหญ่อยู่แถวกลางเมืองใกล้รถไฟฟ้า เนื่องจากทราบมาว่ากฏบริษัทห้ามมีชู้สาวในที่ทำงาน แต่นี่ชู้กันจนท้อง ทางบริษัทบอกว่าต้องให้หัวหน้างานตัดสิน แต่เรื่องของเรื่องคือหัวหน้างานรับรู้ตลอดว่ามีการคบซ้อนและเราแจ้งไปแล้ว แถมสนิทกับฝ่ายหญิงรักกันเหมือนแม่ลูกช่วยกันปิดบัง ส่งเรื่องไปก็เงียบ บริษัทบอกว่าถ้าไม่ได้เป็นเรื่องใหญ่หรือกระทบกับงาน คือเราไม่ได้ไปโวยวายให้เป็นข่าวก็จะไม่มีผลอะไรค่ะ เพราะเอกชน อันนี้จริงๆเราทราบดี ถ้าฝ่าย HR ผ่านมาเห็นลองพิจารณานะคะ พนักงานที่มีเรื่องชู้สาวเป็นระดับหัวหน้าทั้งคู่ (GL) แฟนเก่าเรามีบอกว่าถ้ารู้ว่าใครเอาเรื่องมาบอกเราจะทำให้ออกงาน ส่วนผู้หญิงก็ต้องลางานเรื่องท้องกี่วันจนคนอื่นต้องทำงานแทน การทะเลาะเชิงสามีภรรยากันในที่ทำงาน เรามีคลิป มีรูป มีคลิปเสียงหมด เรามีหลักฐานทุกอย่างที่กล่าวมา บริษัทมีนโยบายในการให้พนักงานที่น่าสนใจเป็นตัวกลางสานความสัมพันธ์ในองค์กร แต่นี่พนักงานที่น่าสนใจของคุณสานความสัมพันธ์กันจนมีเด็กนะคะ

       5. เราจะไปตรวจโรคติดต่อแน่นอน

    ขอฝากถึงแฟนเก่านะคะ เราบอกแล้วว่าเราไม่ดีก็เลิกกันไปไม่ใช่นอกใจ จะมาโกหกทำไมในเมื่อถ้าเรารู้ว่าชอบคนอื่นอย่างไงก็เลิก และการมีสองบ้านที่ปกปิดเรามาอยู่กับเราแบบอยู่กินกัน เพิ่งมาหาเราวันอาทิตย์ที่ผ่านมาเองไม่ทราบว่าคุณดี้ทราบไหม  

ส่วนคุณดี้ศักดิ์ศรีคุณอยู่ที่ไหนถึงยอมมาโกหก อยู่อย่างอีกบ้านนึง เปย์เงินให้ผู้ชายขนาดนี้ ถ้าคุณอยากได้ก็บอกความจริงแล้วเอาไปเลยค่ะ เราไม่รู้จะเอาคนแบบนี้มาทำไม ผู้ชายก็เพิ่งแวะมาอยู่บ้านเราก่อนเรารู้ความจริง คุณดี้ไม่ขยะแขยงหลอคะ เรารังเกียจนะคะ

     สิ่งที่พวกคุณสองคน ครอบครัวคุณทำมันเลวมาก เพราะนอกจากทำชั่วแล้วยังเหยียบย่ำหัวใจพ่อแม่เรา เราผิดที่เลือกคนผิด ที้งที่บ้านเราดูแลดีมาตลอด คุณแฟนเคยสักผ้าหรือล้างจานบ้านเราไหม ตื่นมาเคยเก็บที่นอนไหม กลับมาจากงานมีข้าวกินอิ่มก่อนนอนคุณแม่ใส่แม้แต่ยาสีฟันให้ จำวันที่ทำเราเกิดอุบัติเหตุแล้วแม่เราเอาบัตรให้ไปปิดรถเพื่อไม่เสียดอกเบี้ย ไม่มีด่าไม่มีว่าสักคำ ส่วนแม่แฟนเราหมดคำพูด เกิดมาก็ไม่คิดว่าจะเจอกับตัวเองถ้าลูกผิดพ่อแม่ควรตักเตือนไม่ใช่มาบอกให้เรารอ อย่าเอาเรื่อง มาบอกให้เราคอยดู มาบอกว่าอยู่กับเรามาตั้งนานยังทำได้เดี๋ยวผู้หญิงคนใหม่ก็โดนเหมือนกัน เราเกลียดคุณดี้นะแต่เราว่าการที่แม่ต้องมาลุ้นให้เกิดเรื่องเลวทรามแบบนี้ขึ้นอีกมันไม่ใช่ความคิดคนปกติ ทำไมแม่ไม่บอกลูกว่าอย่าทำแบบนี้ไม่ใช่ช่วยกันปกปิด ทียืมเงินโทรมาเป็น 10 สายเลยนะคะ

     สุดท้ายนี้ ขอสาปส่งกรวดน้ำคว่ำขัน เวรกรรมมีจริงไหมไม่รู้ เราอาจจะโดนเวรกรรมจากที่ตั้งใจหรือไม่ตั้งใจเอาคืนก็ได้ แต่เราก็หวังว่าหากมีจริงก็ขอให้เวรกรรมทำหน้าที่ต่อไป  

     เป็นประสบกาณ์ที่แฟนไปแอบมีกิ๊กในที่ทำงาน แต่ที่ทำงานก็ไม่มีใครว่าอะไร ทั้งๆ ที่ก็รู้ว่ามีแฟนอยู่แล้ว แต่ก็เป็นเรื่องส่วนตัว ไม่มีใครอยากเข้าไปยุ่งเพราะจะมีปัญหาในการทำงานด้วยกันได้ ต้องเห็นใจเพื่อนร่วมงานด้วย 

ที่มา : สมาชิกพันทิปหมายเลข  6139187

บทความที่คุณอาจสนใจ