เจ้าหนี้ไม่ขายที่คืน "แม่เฒ่า 4 พี่น้อง" มีเวลาอีก 30 วัน เก็บของย้ายออกจากบ้าน หลังหลานเอาไปจำนอง

คอมเมนต์:

เจ้าหนี้ตกลงให้ "แม่เฒ่า 4 พี่น้อง" อยู่บ้านเก่าได้อีก 30 วัน ยัน ไม่ขายคืนที่คืนให้!

    จากเหตุการณ์ที่สร้างความสนใจไปทั่วสังคมไทย เมื่อ 4 ยายชรา โดนเจ้าหนี้ยึดบ้าน หลังหลานเอาโฉนดที่ดินไปค้ำประกันเงินกู้ จนกระทั่งได้มีผู้ใจบุญหลายคนยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือนั้น [อ่านข่าวก่อนหน้า : นายอำเภอรีบลงพื้นที่ช่วย "4 แม่เฒ่า" โดนยึดบ้าน เพราะหลานเอาที่ดินไปจำนอง เพื่อไปทำงานต่างประเทศ]

    ทางนายอำเภอศรีสำโรงยังได้กล่าวถึงเรื่องของ 4 แม่เฒ่าไว้ว่า กรณีนี้เป็นภาพที่สะท้อนใจเป็นอย่างมาก และตนไม่อยากให้ลูกหลานครอบครัวอื่นๆ ได้ทำกับปู่ย่าตายายแบบนี้อีก โดยหลังจากนี้จะหาทางช่วยถึงที่สุด

 

Sponsored Ad

 

 

    ความคืบหน้าล่าสุด นายลวง อนุเคราะห์ ลูกชายของคุณยาย โปรย อนุเคราะห์ พร้อมด้วยนายกิตตินพ สุวรรณโรจน์ ทนายความ ได้เดินทางไปยังศาลจังหวัดสุโขทัย เพื่อยื่นคำร้องต่อศาล ขอขยายระยะเวลาให้ยายทั้ง 4 คน และครอบครัวได้พักอาศัยอยู่ในบ้านต่อไปอีก 60 วัน

 

Sponsored Ad

 

    ทางด้าน นายกิตตินพ สุวรรณโรจน์ ทนายความที่ดูแลเรื่อง ได้เปิดเผยผลการไกล่เกลี่ยของศาลจังหวัดสุโขทัย ว่า ศาลได้พูดคุยกันทั้งสองฝ่าย โดยโจทก์ยินดีที่จะให้จำเลยขยายระยะเวลาออกไปได้ 30 วัน เพื่อที่จะได้ขนย้ายทรัพย์สินออกจากที่พิพาท 

    ซึ่งจะครบกำหนดในเวลา 09.00 น. ของวันที่ 16 ก.ค. 64 นี้ โดยจำเลยมีหน้าที่จะต้องมาแถลงให้ศาลทราบเมื่อถึงเวลานั้นว่า ได้ขนย้ายทรัพย์สินออกจากที่พิพาทเรียบร้อยแล้ว

นายกิตตินพ สุวรรณโรจน์ ทนายความที่ดูแลเรื่อง

 

Sponsored Ad

 

    อีกทั้งโจทก์ยังได้แจ้งว่า ไม่ประสงค์จะขายทรัพย์ ซึ่งลูกหนี้ก็ได้เข้าใจในเรื่องนี้ ก็ต้องหาพื้นที่ใหม่ที่จะต้องออกไปอยู่

    นอกจากนี้ยังได้มีการเปิดเผยว่า นายลวง อนุเคราะห์ หลานชายของคุณยายทั้ง 4 ท่าน มียอดเงินบริจาคจากผู้ใจบุญทั่วประเทศช่วยเหลือเข้ามาเป็นจำนวนเงิน 1,511,939.75 บาท แล้ว 

    โดยนายลวงกล่าวว่า ดีใจที่ศาลขยายเวลาให้ 30 วัน แต่ทางเราก็ต้องหาทางขยับขยายที่ ถ้าเจ้าหนี้ไม่ยอมขายคืนให้เราต้องไปหาที่อยู่ใหม่สร้างบ้านหลังเล็กๆ ให้คนแก่ได้อยู่อาศัยกัน

 

Sponsored Ad

 

    "ผมขอขอบคุณคนไทยทุกคน ที่ได้ช่วยเหลือในการบริจาคเงิน ขอบคุณที่ให้ความอนุเคราะห์ให้ความสงสารคนแก่ในครั้งนี้" นายลวงกล่าวเปิดใจ

    สำหรับ คุณยายตะล่อม 1 ใน 4 แม่เฒ่า กล่าวว่า ยายดีใจที่ศาลขยายเวลาให้ แต่ก็อยากได้ที่อยู่อาศัยคืนมา ตัวเองก็ยกมือไหว้เจ้าหนี้ขอเขาคืน แต่เขาก็เฉยๆ

 

Sponsored Ad

 

    นายปรีชา สุทนต์ นายอำเภอศรีสำโรง เปิดเผยในเวลาต่อมาว่า การหาที่อยู่ให้ใหม่ก็จะเกิดขึ้นในจำนวนเงินที่ได้รับมา 1 ล้านเศษ ก็จะพอดำเนินการได้ ซึ่งเงินที่ได้รับบริจาคมา จะมีการดำเนินการตามกฎหมายตาม พรบ.ควบคุมการเรี่ยไร ซึ่งจะมีการตั้งคณะกรรมการเข้ามาดูแลในการใช้จ่าย 

    โดยเงินจำนวนนี้ไม่สามารถเบิกจ่ายเองได้ การใช้เงินต้องเป็นไปตามวัตถุประสงค์ของผู้บริจาค ซึ่งได้บอกผู้เกี่ยวข้องอย่างชัดเจน ขอให้ผู้บริจาคสบายใจ ทางเราจะมีการตั้งคณะกรรมการเข้ามาดูแลจำนวน 5 ท่าน และการเบิกจ่ายต้องมีลายเซ็นของกรรมการอย่างน้อย 3 ท่าน

ที่มา : sanook

บทความแนะนำ More +

บทความที่คุณอาจสนใจ