เปิดการเลี้ยงลูกตระกูลดัง "ใบหยก" เผยพ่อเป็นคนติดดิน ไม่เคยสปอยล์ลูก

คอมเมนต์:

นับว่าเป็นอีกครอบครัวที่แสดงให้เห็นว่าพลังของครอบครัวมีความสำคัญมากจริงๆ

        เรียกได้ว่า "ครอบครัวใบหยก" เป็นอีกหนึ่งครอบครัวที่จัดอยู่ในกลุ่มมหาเศรษฐีระดับต้นๆ 

        แต่ในเรื่องของการใช้ชีวิตนั้น กลับไม่ได้โก้หรู เหมือนอย่างที่ทุกคนคิดกัน

 

Sponsored Ad

 

        "คุณเบียร์" ลูกชายคนโตและคนเดียวของครอบครัวเล่าอย่างอารมณ์ดีว่า "ตอนที่ตึกใบหยกเปิดใหม่ๆ เพื่อนผมชอบแซวผมว่า อยู่บ้านสูงสุดในประเทศไทย แล้วเราก็ต้องคอยตอบทุกคนว่า บ้านเราไม่ได้อยู่ที่นั่น บ้านเราอยู่บนดิน" 

 

Sponsored Ad

 

(ขอบคุณภาพประกอบจาก posttoday)

        "คุณบุ๋ม" เล่าว่า "และสำหรับเรื่องธุรกิจ คุณพ่อก็ไม่เคยถามว่าต้องใช้เงินเท่าไร เพราะท่านอยากให้ลูกๆ เรียนรู้"

(ขอบคุณภาพประกอบจาก posttoday)

 

Sponsored Ad

 

        "ท่านไม่ดุเลยค่ะ จะดุแต่เรื่องที่ควรดุ เช่นกลับบ้านดึกหรือซื้อของแพง แต่เรื่องซื้อของแพงเขาก็บ่นไปอย่างนั้นแหละ แต่เรื่องเวลาไม่ได้เลย ลูกทุกคนต้องมีเวลาให้ที่บ้าน"

(ขอบคุณภาพประกอบจาก posttoday)

 

Sponsored Ad

 

        "คุณบุ๊ค" เล่าเสริมว่า "บุ๊คเคยอยากทำเสื้อผ้ากับเพื่อน ก็บอกท่านว่าอยากทำ ท่านบอกเอาเลย ลงทุนเท่าไรให้มาบอกพ่อ แค่นี้ ไม่ต้องอธิบายอะไรมากเลย"

(ขอบคุณภาพประกอบจาก วิกิพีเดีย)

 

Sponsored Ad

 

        "เรื่องการใช้เงิน คุณพ่อกำชับลูกเสมอว่าอย่าใช้ของแพง ซึ่งตอนนั้นบุ๊คใช้กระเป๋ายี่ห้อหนึ่งแล้วคุณพ่อเดินผ่านร้านที่เกาหลี ทีนี้สปอตไลท์ส่องให้เห็นป้ายราคา คุณพ่อก็ยืนจ้องเขม็ง เห็นเป็นรุ่นเดียวกับที่บุ๊คใช้ ราคาหลายร้อยล้านวอน บุ๊คก็เลยต้องรีบบอกว่าคนละรุ่นกัน หรือนาฬิกาของเบียร์คุณพ่อก็สงสัยว่าต้องแพงแน่ เบียร์ก็เลยต้องแก้ตัวด้วยการเอานาฬิกาทุบกับโต๊ะ แล้วบอกว่า พ่อนี่มันของปลอม จนท่านไม่รู้ว่าจะพูดอะไร"

        "บุ๋มเคยซื้อผ้าพันคอยี่ห้อหนึ่ง แล้วคุณพ่อเดินมาตอนกำลังจะซื้อพอดี ท่านก็ถามว่าเท่าไร บุ๋มไม่รู้จะตอบว่ายังไง ก็เลยบอกไปตามตรง ปรากฏว่าท่านทำตาโต บอกว่าต า ยๆๆๆ ผ้าพันคอแพงมาก คือคุณพ่อไม่สปอยล์พวกเราเลย แต่จะสนใจเรื่องความปลอดภัย ถ้าไปนอนค้างบ้านเพื่อน ท่านจะเป็นห่วงเรื่องความสะดวกสบายของลูกมากกว่า"

 

Sponsored Ad

 

ดูโพสต์นี้บน Instagram

ชักภาพก่อนแยกย้ายกลับบ้าน ❤️❤️

โพสต์ที่แชร์โดย Bung Baiyoke (@bungbaiyoke) เมื่อ

        สำหรับเป้าหมายของครอบครัว "ใบหยก" นี้ มีคุณเบียร์เป็นหัวเรือใหญ่ ก็ยังจะเป็นอย่างที่คุณพ่อของเขาดำเนินมา เพราะเขาลั่นวาจาว่าจะขอเป็นคนรักษาธุรกิจเหล่านี้ตามรอยพ่อให้ได้ "อนาคตผมอยากรักษาทุกอย่างเอาไว้ ให้เหมือนกับที่คุณพ่อเคยรับช่วงต่อจากคุณปู่ (เล็งเลิศ ใบหยก) เคยสร้างไว้"

        "คุณย่าเล่าให้ฟังว่าคุณปู่มาเมืองไทยแบบเสื่อผืนหมอนใบ แล้วก็กล้วยหนึ่งหวี พอประเทศจีนเกิดสงครามท่านเลยอพยพมา คุณปู่เป็นคนแรกที่เชื่อมความสัมพันธ์ไทย-จีน คุณชัย ราชวัตรเคยเขียนการ์ตูนให้คุณปู่เป็นสะพานโดยมีม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมชเดินข้ามไปจีน  ซึ่งก็โชคดีที่ครอบครัวเราไม่เคยทะเลาะกันเหมือนครอบครัวอื่น สมมติคุณพ่อคุณแม่ไม่อยู่แล้วเนี่ย คนอาจจะคิดว่าขายธุรกิจแล้วก็แบ่งเงินกันน่าจะง่ายที่สุด แต่เราไม่มีวันทำอย่างนั้น"

Sponsored Ad

        "บ้านเราไม่เคยมีปัญหาเรื่องเงิน ใครได้มาก ใครได้น้อย ไม่มีเลย อย่างสมมติบุ๊คอยากได้ของชิ้นนี้จังเลย แต่ไม่มีเงิน ถ้าพี่ๆซื้อได้ก็จะซื้อให้ หรืออย่างวันนี้ตื่นขึ้นมาอากาศดีถึงจะเป็นวันธรรมดา แต่ถ้าเราอยากไปกินโน่นกินนี่ ก็จะโทรนัดกันรวมตัวผู้หญิงของบ้าน ไปกันเลย ใช้ชีวิตแบบชิลๆไม่ซีเรียส" คุณบุ๊คกล่าว

        ทั้งนี้ "คุณบุ้ง" พี่สาวคนรองช่วยเสริมว่า "เวลามีใครมารังแก เราจะช่วยกันหมดเลยนะคะ เป็นแบบนี้มาตั้งแต่เด็กแล้ว ถึงไม่ใช่เรื่องตัวเองก็ต้องเป็นเรื่องของตัวเอง เราช่วยลุยกันหมดเป็นสไตล์ถึงไหนถึงกัน"

        เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งครอบครัวอภิมหาเศรษฐีที่แสดงให้เราได้เห็นว่าพลังแห่งรากฐานครอบครัวมีความสำคัญมากจริงๆ 

ขอบคุณข้อมูลและภาพจาก hellomagazine, posttoday, วิกิพีเดีย

บทความที่คุณอาจสนใจ