“เมื่อก่อนเป็นผู้ชาย.. เดี๋ยวนี้เป็นอิสตรีแล้วค่ะ” นี่เป็นคำพูดของคุณ สุพัฒน์ ศรีนวล หรือที่รู้จักกันในชื่อ “อรชร เชิญยิ้ม” ที่ปัจจุบันเธอเป็นตลกหญิงข้ามเพศ ที่ทำงานหาเลี้ยงครอบครัว...

    ชีวิตจริงยิ่งกว่าละคร แม้ว่าเคยมีภรรยาและลูกมาแล้ว แต่เธอก็ได้ออกมายอมรับผ่านสื่อว่า ปัจจุบันนั้นเธอเป็นสาวประเพศสอง “ชีวิตไม่ง่าย กว่าจะได้เป็นตัวเอง” แล้วครอบครัวรับได้หรือไม่... เราไปอ่านกันเลยค่ะ

    คุณอรชร เดิมทีเธอนั้นเป็นคนจังหวัดพิจิตร มีพี่น้องทั้งหมด 5 คน ทุกคนได้เรียนหนังสือทั้งหมด แต่เธอนั้นจบได้แค่ ป.6 เพราะครอบครัวมีฐานะที่ยากจน เธอเลยตัดสินใจออกจากโรงเรียนไปหางานทำ เพื่อให้น้องสาวของตนได้เรียนหนังสือ 

    ช่วงนั้นต้องทำงานรับจ้าง ทำอาชีพหลายอย่าง มีทั้งเป็นลูกจ้างร้านเสริมสวย บางครั้งก็ต้องไปแบกไปหามปุ๋ย ไปหว่านข้าว จนพ่อชวนไปตีกลองยาวรอบอำเภอ ได้เงินมาแค่ 150 บาท พอมีสมัครเล่นลิเก ได้ค่าตัวแค่ 50 บาท ก็ไปทำอีก จนได้ไปอยู่กับคณะของน้านงค์ เชิญยิ้ม

    เธอยังเล่าให้ฟังว่า “ตอนนั้นได้เป็นพระเอก ก็มีความรักกับผู้หญิง ผู้หญิงก็อยากให้ไปขอ แต่ตอนนั้นก็ไม่มีเงิน ก็เลยไม่ได้แต่ง เขาก็เลยไปแต่งกับอีกคนแทน ก็ทำให้อกหัก ตอนนั้นรู้สึกแค่ไม่อยากอยู่แล้ว แต่โชคดีที่พ่อแม่เห็นก็ช่วยได้ทัน”

    หลังจากเหตุการณ์วันนั้นทำให้เธอต้องหนีออกจากบ้าน ไปอยู่กับ น้ากล้วย เชิญยิ้ม และได้ไปพบรักอีกครั้ง จนได้แต่งงานและมีลูกด้วยกัน พอเป็นฝั่งเป็นฝาก็มีความสุขดี จนช่วงนึงไม่มีเวลาให้กัน ก็เลยตัดสินใจแยกทางและรับลูกมาเลี้ยงเอง 

    จนวันนึงได้เล่นหนัง เล่นละคร เล่นตลก เล่นลิเก สลบวนเวียนกันไป ชีวิตก็เหมือนมีความสุขดีที่มีงานมีเงิน แต่มองย้อนกลับไปคนที่บ้านไม่ว่าจะพ่อ แม่ พี่ น้อง หรือคนอื่น ๆ ก็ยังใช้ลำบากอยู่เลย เลยเอาเงินตรงนั้นส่งกลับไปให้ที่บ้านใช้จ่าย เพื่อให้พวกเขามีชีวิตที่ดีขึ้น

    เธอบอกว่า พอได้งานก็มักจะแต่งเป็นผู้หญิง พอเธอเป็นแบบนี้ มันมีช่องทางทำมาหากิน มันก็เลยเป็นจุดเปลี่ยนของชีวิต ตอนนี้เลยกลายเป็นผู้หญิง 100% แล้ว และปัจจุบันลูกสาวเรียนอยู่สารพัดช่าง กำลังจะขึ้นปี 3 แล้ว เมื่อก่อนลูกก็จะมีคำถามว่า “ทำไมพ่อรับบทเป็นกะเทย.. หนูอายมาก”

    เธอก็ได้บอกว่า “เราต้องทำงาน เราต้องหาเงิน ทุกบาททุกสตางค์ต้องดูแลครอบครัว ไม่ว่าจะเป็นอะไรก็ช่าง อาชีพนี้ทำให้ได้เงินมา ถ้าไม่ได้ทำงานเราก็ไปไม่รอดแน่ และทุกวันนี้ลูกสาวก็รับได้แล้ว” ลูกก็ยังบอกอีกว่า “ไม่อายใครแล้ว ไม่ว่าจะเป็นอะไร ยังไงพ่อก็คือพ่อเสมอ”

    ที่ผ่านมาก็โดนกระแสสังคมค่อนข้างหนัก โดนพูดจาทำร้ายจิตใจ หักหามน้ำใจสารพัด แต่เธอก็บอกว่า ไม่ได้ซีเรียสอะไร ทำได้แค่ปล่อยไป ทุกวันนี้เลยเอาจุดด้อยของตนเอง มาปรับให้เป็นจุดเด่น เพราะทุกวันนี้เราหากินด้วยหน้าตาของเราแบบนี้ 

.

ชมคลิป

คลิปเปิดไม่ออก >>> กดตรงนี้ คลิก <<<

ที่มา : The Opener