พระอารมณ์ขัน "กรมสมเด็จพระเทพฯ" ทรงนำเข็มดูดหมึกจากปากกาหมด-ร้องเพลงถวายพระพร

คอมเมนต์:

"กรมสมเด็จพระเทพฯ" ทรงเปิดงานภาพถ่ายฝีพระหัตถ์

        สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จฯ ไปทรงเปิดงานนิทรรศการภาพถ่ายฝีพระหัตถ์ ประจำปี 2562 หัวข้อ "มหัศจรรย์พรรณภาพ" ณ หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร เพื่อเปิดโอกาสให้ประชาชนทั่วไปมีโอกาสร่วมตามรอยเสด็จ 

        และชื่นชมพระอัจฉริยภาพด้านการถ่ายภาพของพระองค์ ซึ่งทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานภาพถ่ายฝีพระหัตถ์ที่ทรงบันทึกไว้ระหว่างการเสด็จพระราชดำเนินไปยังสถานที่ต่าง ๆ ทั้งในและต่างประเทศ ในช่วงปี 2561-2562 ประกอบไปด้วยภาพแขวนผนัง 173 ภาพ, ภาพอาหาร 216 ภาพ และอาร์ตวอลล์ 12 ภาพ

 

Sponsored Ad

 

        โอกาสนี้ทรงบรรยายเรื่องนิทรรศการภาพถ่ายฝีพระหัตถ์ ความว่า "มหัศจรรย์พรรณภาพ หมายถึง ภาพต่าง ๆ ที่น่าพิศวง ความเป็นมาของชื่อคือ 2 เดือนหลังของ พ.ศ. 2562 ข้าพเจ้ามีปัญหาเรื่องสุขภาพ ทั้งลำไส้และหัวใจ ยังมีโรคอะไรเดิม ๆ อีก นอกจากการรักษาด้วยยาและวิธีการอื่นของหมอแล้ว หมอยังแนะนำการปรับพฤติกรรม เช่น การนอน ต้องนอนมากขึ้น การรับประทานต้องหลีกเลี่ยงของแสลง และการออกกำลังกาย หมอบอกว่าสำคัญมาก ข้าพเจ้าตอบว่า ชอบเดินรอบบ้าน ถ้าฝนตกหรือแดดร้อน ก็เดินบนห้องสมุด หมอบอกว่า อยากเล่นกีฬาก็ได้ ข้าพเจ้าว่า เดินไปมาดีแล้ว เป็นจังหวะสม่ำเสมอตามอัตภาพ ไม่เหมือนกีฬาอื่นที่กระตุกหัวใจ กระแทกแขนขา หมอว่าชอบแบบนั้นก็แล้วไป"

 

Sponsored Ad

 

        สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี รับสั่งอีกว่า "ตั้งแต่สมัยเด็ก ๆ ได้ยินคำว่าเดินจงกรมจากพระ ฟังอยู่ก็เหมือนว่าคล้าย ๆ การทำสมาธิ เรื่องของการทำจงกรมเป็นอะไรที่ซับซ้อน ฟังไม่เข้าใจ จึงไปถามพระ เพราะสมัยนั้นรู้สึกว่าทำไมต้องเดิน เสียเวลา เราควรจะวิ่งจงกรมได้ระยะทางดีกว่า ทำไมเราถึงไม่วิ่งจงกรม ท่านก็อธิบายเยอะแต่จำไม่ได้ ที่จำได้คือท่านบอกว่า วิ่งจงกรมมันเร็วเกินไป ปัจจุบันก็เห็นด้วยกับที่ท่านว่า เพราะวิ่งอาจจะเร็วเกินไป การเดินทำให้ได้ดูนั่นดูนี่ และได้มีเวลาถ่ายภาพมาให้พวกท่านได้เห็น"

 

Sponsored Ad

 

        จากนั้นทรงยกตัวอย่างภาพถ่ายฝีพระหัตถ์ อาทิ ภาพจุดเทียน และร้องเพลงถวายพระพร พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เนื่องในวันพ่อแห่งชาติ รับสั่งว่า "งานนี้คืองานวันที่ 5 ธันวาคม 2561 เราก็จะมีการจุดเทียน ก็จะเถียงกันเล็กน้อยว่า จุดเทียนนี่จะจุดกันกี่เล่ม ปีที่แล้ววจำไม่ได้ว่ากี่เล่ม แต่ปีนี้ตกลงกันว่า 92 เล่ม ก็น้อยกว่าปีที่แล้ว ซึ่งในปีที่แล้ว นอกจากจะจุดเทียนแล้ว ยังมีคาราโอเกะ ร้องเพลงถวาย มีคนเขาบอกว่าเห็นท่านมาฟังเพลงด้วย เราก็จุดเทียน ปีหน้าก็จะจุดถวายอีก ต้องเพิ่มจำนวนเทียนอีกจนกว่าจะจุดไม่ไหว"

 

Sponsored Ad

 

        ภาพ "สุสานปากกา สวนปทุม ปทุมธานี" ทรงเล่าว่า "เป็นปากกาที่เขียนหมดแล้ว แต่ใส่ตู้เอาไว้ มีส่วนหนี่งใส่กรอบ และศิลปินแห่งชาติทำแบ็กกราวนด์ให้ ซึ่งศิลปินแห่งชาติท่านนั้นได้ล่วงลับไปแล้ว นอกจากนี้ยังมีที่เก็บไว้อีก 2 หรือ 3 เท่ากว่าที่เห็น เคยกลุ้มใจเสียดาย บางด้ามเขียน 3-5 วัน ก็หมดแล้ว และนำมาใช้ใหม่ไม่ได้ ทดลองนำเข็มฉีดยาสูบน้ำหมึก พยายามทิ่มเข้าไปในหลอดที่หมด แต่ไม่สำเร็จ ก็อุตส่าห์ไปดูงานทำปากกาลูกลื่น ได้เห็นว่าใช้เทคโนโลยีต่าง ๆ เยอะแยะที่เราทำไม่ได้แน่ จริง ๆ แล้วการทำปากกาลูกลื่นมีเทคโนโลยีที่ซับซ้อนกว่าที่เราคิดมาก ส่วนรูปที่ศิลปินแห่งชาติทำให้ ถือเป็นงานศิลปะ ตั้งชื่อว่า "ความขยัน" คือขยันเขียนเสียจนหมึกหมด ในส่วนที่เป็นความขยันนี้ ก็มีด้ามหนึ่งเป็นของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 แต่ด้ามไหนจำไม่ได้แล้ว" นอกจากนี้ยังทรงบรรยายภาพถ่ายฝีพระหัตถ์ภาพอื่น ๆ อีก

 

Sponsored Ad

 

        จากนั้นเสด็จฯ ไปยังห้องจัดนิทรรศการ ทรงตัดแถบแพรเปิดนิทรรศการภาพถ่ายฝีพระหัตถ์ในสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ประจำปี 2562 พร้อมทอดพระเนตรนิทรรศการ โดยมีช่วงหนึ่งที่สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงแย้มพระสรวล และทรงฉายพระบรมฉายาลักษณ์คู่กับพระบรมฉายาลักษณ์ของพระองค์ พระอารมณ์ขันของพระองค์สร้างความปีติแก่ผู้พบเห็นอย่างมาก

 

Sponsored Ad

 

        สำหรับนิทรรศการภาพถ่ายฝีพระหัตถ์ในสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ประจำปี 2562 หัวข้อ "มหัศจรรย์พรรณภาพ" จัดแสดง ณ ชั้น 9 หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร ตั้งแต่วันที่ 10 ธันวาคม - 16 กุมภาพันธ์ 2563 (หยุดทุกวันจันทร์) เวลา 10.00-21.00 น. ประชาชนสามารถเข้าชมได้ฟรี โดยจัดจำหน่ายหนังสือภาพถ่ายฝีพระหัตถ์ในราคาเล่มละ 900 บาท ณ ห้องสมาคมถ่ายภาพแห่งประเทศไทยฯ และศูนย์หนังสือแห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ทั้งนี้ รายได้ทั้งหมดนำขึ้นทูลเกล้าฯ ถวายโดยเสด็จพระราชกุศลตามพระราชอัธยาศัย

ขอบคุณข้อมูลและภาพจาก โบราณนานมา, สปริงนิวส์, เฟซบุ๊ก มูลนิธิชัยพัฒนา