ลูกชาย "ขอพักการเรียน" เพื่อเป็นช่าง ผู้คนไม่เข้าใจ บอกน่าไม่อายปล่อยลูกไปเป็นช่างได้ไง
คอมเมนต์:
หากจู่ๆ ลูกของคุณมาบอกคุณว่า “ผมอยากพักการเรียน เพราะผมไม่ชอบเรียน” พ่อแม่อย่างเราจะสนับสนุนความคิดนี้ของลูกไหม? เรื่องราวนี้เกิดขึ้นจริงในชีวิตของหงซวี่เหลี่ยง เมื่อลูกชายของเขาไม่ชอบเรียนหนังสือ ขอพักการเรียนออกมาทำงานช่างไฟช่างน้ำประปา
สื่อต่างประเทศเปิดเผยว่า เรื่องราวของอดีตผู้อำนวยการโรงเรียนและครูผู้สอนที่ปลดเกษียณแล้วอย่าง หงซวี่เหลี่ยง หรือ อาเหลี่ยง ซึ่งมีลูกชายที่ไม่ชอบเรียนหนังสือ หลังเรียนมัธยมต้นจบก็หันไปเรียนสายอาชีพ ภายใน 3 ปีก็สามารถเรียนจบได้รับใบประกาศนียบัตรวิชาชีพ 5 ใบ หลังเรียนจบก็สามารถออกหางานได้ คุณพ่อก็แอบเป็นห่วงลูกชายจะสู้คนอื่นไม่ได้ จึงแนะนำให้ลูกหาเวลาว่างไปสอบเข้ามหาวิทยาลัยเพิ่มเติม
Sponsored Ad
(แม้ว่าจะพ้ายแพ้ แต่ก็จงบากบั่นก้าวไปข้างหน้า)
ลูกชายก็น้อมรับ ไปเรียนพิเศษ หลังเลิกเรียนก็นั่งรถจากหนานโถวไปถึงไถจงเรียนพิเศษ กว่าจะกลับถึงบ้านด็ 4 ทุ่มกว่าแล้ว เป็นแบบนี้ประจำตลอด 1 ปีจนในที่สุดลูกชายก็สามารถสอบเข้ามหาวิทยาลัยเกาสงได้
Sponsored Ad
นั้นเป็นสิ่งที่ทั้งครอบครัวรู้สึกดีใจเป็นอย่างมาก นึกว่าเขาจะได้เข้าเรียน ใช้ชีวิตในมหาวิทยาลัยเหมือนเด็กคนอื่นๆ แต่สิ่งที่ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น หลังจากที่ลูกชายเข้าเรียนมหาวิทยาลัยได้ไม่นาน ก็โทรกลับบ้านร้องห่มร้องไห้ใหญ่ บอกว่า “ผมไม่เหมาะกับชีวิตในมหาวิทยาลัย ผมจะพักการเรียน” ทำเอาอาเหลี่ยงและภรรยาตกใจและกังวลใจเป็นอย่างมาก ภรรยาของอาเหลี่ยงไม่ยอมให้ลูกพักการเรียน เพราะไม่อยากให้เขาต้องเสียโอกาสในการเรียนครั้งนี้ไป แต่สำหรับอาเหลี่ยงกลับคิดต่าง เขาบอกว่าชีวิตคนเรามีเส้นทางเดินที่ไม่เหมือนกัน และเขาคิดว่าแค่ 2 ปีคงไม่ใช่ระยะทางที่ยาวไกลมากหรอกนะ
Sponsored Ad
หลังจากที่ลูกชายของเขาตัดสินใจพักการเรียน ก็ไม่ได้นอนขี้เกียจอยู่บนเตียง แต่เขาได้ไปเรียนวิชาเพิ่มเติม เป็นวิชาการช่าง อาชีพช่างเป็นงานที่หนักและมีหลายต่อหลายคนที่ทนต่อความลำบากไม่ได้ ยอมแพ้และเลิกเรียนไป แต่สำหรับลูกชายของอาเหลี่ยงไม่เหมือนกัน เขารู้สึกชอบงานด้านนี้มาก ใจจดใจจ่อทุกครั้งที่เข้าห้องเรียน จนในที่สุดลูกชายของเขาก็สามารถเรียนจบและได้รับใบอนุญาตประกอบอาชีพ คนเป็นพ่ออย่างอาเหลี่ยงก็รู้สึกภาคภูมิใจในตัวลูกเป็นอย่างมาก อาเหลี่ยงยังบอกอีกว่า “ผมคิดว่า ลูกชายคงจะรู้ว่าตนเองต้องการอยากจะทำอะไรในชีวิต”
Sponsored Ad
ในตอนนั้นพอดีกับที่ถึงเวลาต้องไปเกณฑ์ทหาร หลังจากที่ออกจากค่ายทหารแล้ว ลูกชายของอาเหลี่ยงก็สมัครเรียนภาคค่ำ ตอนเช้าก็ไปทำงาน เขาทุ่มเทสอบติดมหาวิทยาลัยชื่อดังในไถจง ก่อนออกจากบ้านไปเรียน ลูกชายก็หันมาบอกกับอาเหลี่ยงว่า “พ่อครับ ลูกชายของพ่อจะไปลุยในทะเลทราบแล้วนะ” ในตอนนั้นเขารู้ดีว่า ลูกชายมีเป้าหมายในชีวิตและเขาก็มีความเชื่อมั่นในตนเองเป็นอย่างมาก
Sponsored Ad
สำหรับลูกชายอาชีพการเป็นช่างนั้นมีคุณค่ามาก ไม่ว่าลูกจะเลือกทางเดินไหน พ่อแม่ก็จะอยู่บ้านคอยอ้าแขนต้อนรับลูกกลับมาเสมอ
ตลอดเวลาที่ลูกชายของเขาพักการเรียนแล้วไปเรียนช่าง ก็โดนผู้คนวิจารณ์และตำหนิเสมอว่า
“ผอ. ทำไมถึงปล่อยให้ลูกพักการเรียนแบบนี้”
“ทำไมไม่ให้ลูกชายเรียนมหาวิทยาลัยดีดี”
“ทำไมตนเองเป็นถึงผอ. โรงเรียน กลับปล่อยให้ลูกไปเรียนสายอาชีพ”
“ผอ. ไม่รู้สึกขายหน้าเหรอ?”
อาเหลี่ยงได้แต่ยิ้มๆ และตอบกลับไปว่า “ผมเป็นผู้ให้การศึกษาในโรงเรียน หากแม้แต่ผมยังไม่มีความเชื่อมั่นว่าเด็กทุกคนมีความเชี่ยวชาญเฉพาะตัว แล้วผมจะไปสอนเด็กนักเรียนให้บรรลุได้อย่างไร”
Sponsored Ad
ในช่วงเวลานั้นผอ.อาเหลี่ยงได้รับความกดดันอย่างมากจากผู้ปกครองหลายคน แต่โชคดีที่เขาเชื่อใจลูกชาย และไม่เลือกที่จะบังคับลูก แต่นั่นก็ไม่ง่ายเลยที่พ่อคนหนึ่งจะทำได้ ต้องอาศัยความเชื่อมั่นในตัวลูกสูงมาก นี่เป็นเรื่องราวสอนใจผู้ปกครองหลายท่านในการเลี้ยงดูลูก
ที่มา : itislooker | เรียบเรียงโดย หมื่นพันเหตุผล