เทสโก้ จ่อขายกิจการในไทยและมาเลเซีย แม้กำไรดี และอัตราเติบโตสูง เผยตัดสินใจหลังจากมีลูกค้านิรนาม ติดต่อขอซื้อกิจการ คาดเทสโก้จะขายเพื่อนำเงินไปประคองธุรกิจในอังกฤษ นักวิเคราะห์ฟันธง ดีลนี้ราคามหาศาล

    สำนักข่าว เดอะการ์เดี้ยน รายงานว่า เทสโก้ (Tesco) บริษัทธุรกิจค้าปลีกรายใหญ่ที่สุดในสหราชอาณาจักร เตรียมขายกิจการในไทยและมาเลเซีย ซึ่งเป็นตลาดที่ใหญ่ที่สุดของเทสโก้ในระดับนานาชาติ โดยการตัดสินใจดังกล่าวมีขึ้น หลังจากมีผู้ซื้อรายหนึ่งให้ความสนใจซื้อกิจการไปบริหารต่อ แต่ไม่มีการเปิดเผยชื่อว่าเป็นใครหรือกลุ่มบริษัทใด

    เทสโก้ เปิดกิจการธุรกิจซูเปอร์มาร์เก็ตในประเทศไทย ภายใต้ชื่อ เทสโก้ โลตัส (Tesco Lotus) ปัจจุบันมีสาขาอยู่ทั้งหมด 1,967 แห่ง ทั่วประเทศไทย อีก 74 สาขา ในมาเลเซีย เทสโก้ และมีการจ้างพนักงานมากกว่า 60,000 คน ในช่วงปีที่ผ่านมาจนถึงเดือนกุมภาพันธ์ เทสโก้ โลตัส สร้างรายได้ 4.9 พันล้านปอนด์ หรือกว่า 195 ล้านบาท ทำกำไรได้ 286 ล้านปอนด์ หรือกว่า 1.1 หมื่นล้านบาท นับเป็นหนึ่งใน 5 ของกำไรที่ได้จากทั่วโลก

    ในช่วงเดือนมิถุนายน 2562 เดฟ ลูอิส ประธานผู้บริหารของเทสโก้ เปิดเผยว่า เทสโก้มีแผนที่จะเปิดร้านสะดวกซื้อ 750 แห่งในไทย และธุรกิจของเทสโก้ในเอเชีย ยังมีอัตรากำไรขั้นต้นประมาณ 6 เปอร์เซ็นต์ มากกว่าตลาดในสหราชอาณาจักร ไอร์แลนด์ และยุโรป ซึ่งมีกำไรขั้นต้น 3 เปอร์เซ็นต์

เดฟ ลูอิส ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เทสโก้

    ไคลฟ์ แบล็ก นักวิเคราะห์จาก Shore Capital ให้ความเห็นว่า กิจการของเทสโก้ในเอเชียนั้น เปรียบเสมือนถ้วยรางวัล เนื่องจากประเทศไทยคือตลาดชั้นนำของเทสโก้ และเป็นประเทศที่เทสโก้มีศักยภาพด้านการเติบโตสูง อันเนื่องมาจากการขยายตัวของเมือง ดังนั้นเทสโก้ไม่จำเป็นต้องขายกิจการก็ได้ แต่ถ้าหากเทสโก้จะขาย มันก็จะต้องเป็นราคาที่สูงลิบลิ่ว มูลค่าระดับมหาศาล

    ปัจจุบัน ตลาดค้าปลีกที่สหราชอาณาจักร มีการแข่งขันที่สูงมาก บวกกับความนิยมการซื้อสินค้าออนไลน์ที่เพิ่มมากขึ้น ปัจจัยเหล่านี้ทำให้เทสโก้ต้องปรับลดค่าใช้จ่ายลง รวมทั้งประกาศโละพนักงานครั้งใหญ่กว่า 4,500 อัตรา ใน Tesco Metro ก่อนหน้านี้เทสโก้ได้ขายกิจการในสหรัฐอเมริกา ตุรกี และญี่ปุ่นไปแล้ว คาดว่าเม็ดเงินจากการขายกิจการในไทยและมาเลเซีย จะช่วยให้เทสโก้กลับมาประคับประคองธุรกิจในสหราชอาณาจักรให้ยังคงมีกำไรอยู่ได้ต่อไป

    ขณะนี้ทางบริษัท เทสโก้ อยู่ในระหว่างการพิจารณา ซึ่งสุดท้ายแล้วจะขาย หรือไม่ขายก็คงต้องรอดูกันต่อไป ว่าหากพิจารณาขายไปแล้ว ใครจะเป็นคนซื้อและทำกิจการนี้ต่อไปในประเทศไทย  

หลังจากเรื่องราวได้ถูกเผยแพร่ออกไป ก็ได้มีชาวเน็ตเข้ามาแสดงความเห็นกันจำนวนมาก ถึงลูกค้าระดับบิ๊กดีลสนใจซื้อ

.

.

.

ใครจะมารับช่วงต่อ งานนี้ก็ต้องดูกันต่อไป..

ข้อมูลและภาพจาก kapook