หมอขอค้าน "พ่อ-แม่" บังคับจะให้ลูกเรียน โรงเรียน "เตรียมแพทย์" ตั้งแต่ม.1 รับห่วงสภาพจิตใจ

คอมเมนต์:

ไวไปไหม ให้ลูกเข้าโรงเรียน "เตรียมแพทย์" ตั้งแต่ ม.1 ?

    เป็นอีกประเด็นร้อนในโลกออนไลน์เลยทีเดียว เมื่อโรงเรียนมัธยมแห่งหนึ่ง ได้เปิดหลักสูตรเตรียมความพร้อมในการศึกษาต่อด้านแพทยศาสตร์ หรือเรียกง่ายๆว่า เป็นโรงเรียนหลักสูตร "เตรียมแพทย์" ตั้งแต่ระดับชั้น ม.1 ทำเอาให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก ถามโรงเรียนเด็กม.1รู้แล้วหรอว่าโตขึ้นอยากเป็นอะไร

(เป็นเพียงภาพประกอบเท่านั้น)

 

Sponsored Ad

 

    ซึ่งในเวลาต่อมา  นพ.ณัฎฐชัย รำเพย อดีตรองประธานสภานิสิต มหาวิทยาลัยนเรศวร ได้ออกมาฟาดโรงเรียนดังกล่าว พร้อมระบุว่า "ผมรู้สึกสะเทือนใจและเศร้าใจมากที่ประเทศเรามาถึงจุดนี้ จุดที่มีโรงเรียนรับเด็กเข้าหลักสูตรเตรียมเป็นแพทย์ตั้งแต่ ม.1 ด้วยเหตุผลต่อไปนี้ (ซึ่งเป็นเพียงความเห็นส่วนตัวของผมเท่านั้น)

    1. ข้อนี้สำคัญที่สุด เด็กวัย ม.1 จะมีอายุประมาณ 12-13 ปี เป็นช่วงที่เด็กจะต้องเรียนรู้ว่าสังคมและโลกภายนอกเป็นอย่างไร เพื่อสร้างตัวตนของตัวเอง การที่เอาเด็กในวัยที่กำลังจะสร้างตัวตนมายัดเยืยดภารกิจการเป็นแพทย์ในอนาคตให้ คือรูปแบบการล้างสมองที่เลวร้ายอย่างยิ่งที่ผู้ปกครองและโรงเรียนสร้างให้เด็ก สำหรับข้อนี้ ผมอยากให้พ่อแม่คิดดีดี ถ้าคุณรักลูกจริง ๆ คุณต้องส่งเสริมให้ลูกเรียนรู้หลาย ๆ อย่างเพื่อหาตัวตน

 

Sponsored Ad

 

    2. หากมีการปลูกฝังความอยากเป็นแพทย์ให้เด็กเป็นเวลา 6 ปี (ม.1-ม.6) วันที่เด็กสอบเข้าแล้วไม่ได้เป็นแพทย์ขึ้นมา สภาพจิตใจของเด็กจะเป็นอย่างไร? …เสื้อกาวน์เตรียมแพทย์ที่พวกคุณมอบให้เด็ก ๆ เพื่อสร้างแรงบันดาลใจจะกลายเป็นตราบาปที่ตอกย่ำความล้มเหลวหรือไม่? …ผมสนับสนุนให้เลี้ยงลูกให้มีความสุข รักเขาและยอมรับเขาตามสิ่งที่เขาเป็นในทุกๆแบบน่าจะดีกว่านะครับ ข้อนี้เลวร้ายมากนะ เด็ก “อาจ” มีปัญหาทางจิตเวชได้เลย

(เป็นเพียงภาพประกอบเท่านั้น)

 

Sponsored Ad

 

    3. ข้อนี้ก็สำคัญ ถ้าเกิดว่าระหว่างเรียนเด็กค้นพบว่าตัวเองไม่อยากเป็นแพทย์จะทำอย่างไร? ในเมื่อตัวเองอยู่ท่ามกลางสังคมที่พร่ำบอกว่าต้องเป็นแพทย์ท่ามกลางเพื่อน ๆ ที่อยากเป็ยแพทย์ เด็กคนหนั้นจะกลายเป็นแกะดำทันทีและคงทรมานมาก ๆ (โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าพ่อแม่ก็ร่วมบังคับให้เด็กเป็นแพทย์ด้วย)

    4. สังคมไทยยังอยู่ในค่านิยมผิดๆ เกี่ยวกับการยกย่องว่าเด็กนักเรียนที่เก่งคือเด็กที่จบมาเป็นแพทย์มากพอแล้ว เราไม่ควรส่งเสริมค่านิยมโบราณนี้ แต่ควรส่งเสริมให้ทุกวิชาชีพมีความน่าชื่นชมในแบบของตัวเอง

 

Sponsored Ad

 

    5. ข้อนี้อาจไม่ชัดเพราะไม่มีข้อมูล แต่การที่เด็กได้เรียนรู้เฉพาะคำว่า “แพทย์” อาจทำให้เด็กโลกแคบลงมาก ไม่ได้มีปฏิสัมพันธ์กับเพื่อน ๆ ที่ฝันอยากทำอาชีพอื่นนอกสายสุขภาพเลย ผมไม่แน่ใจว่าถ้าหากเด็กที่ถูกจำกัดให้โลกแคบขนาดนั้นสอบเป็นหมอได้จริง จะมีทักษะทางสังคมมากพอที่จะเป็นหมอที่ดีได้หรือไม่

    สุดท้ายนี้ผมภาวนาว่า ทั้งหมดนี้ไม่ใช่เรื่องจริง โรงเรียนนี้ไม่มีจริง แต่แค่มีใคร prank ทำเวปไซต์กับเพจตลกๆ ขึ้นมาก็เท่านั้น แล้วผมเช็คดีไม่พอเลยรู้ไม่ทันจนออกมาแสดงความเห็นยาวเยียด เพราะหากโรงเรียนนี้มีจริงๆ มันคือจุดที่เลวร้ายมาก ๆ ของระบบการศึกษาไทยสำหรับผม

 

Sponsored Ad

 

(เป็นเพียงภาพประกอบเท่านั้น)

    ขณะที่อีกด้านหนึ่ง ทางโรงเรียนที่ถูกอ้างถึง ได้ออกมาโต้กลับ พร้อมชี้แจงประเด็นดังกล่าว ผ่านเพจเฟซบุ๊ก Triamwitpattana School : Pre-Medical School ระบุว่า..ทำไม...ถึงต้องมีโรงเรียนเตรียมแพทย์ ในประเทศไทย

    โรงเรียนแห่งนี้ เป็นโรงเรียนที่มุ่งเน้นเตรียมนักเรียนสู่คณะแพทยศาสตร์และกลุ่มสาขาวิทยาศาสตร์สุขภาพโดยเฉพาะ แห่งแรก และมีเพียงแห่งเดียวในประเทศไทย ซึ่งถือว่าเป็นโรงเรียนทางเลือกใหม่ สำหรับนักเรียนที่มีเป้าหมายที่ชัดเจน และต้องการเสริม พัฒนา ต่อยอด ในสิ่งที่ตนเองสนใจ เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพอย่างสูงสุด และมีความสุข (โดยไม่จำเป็นแค่ต้องเรียนพิเศษอีกต่อไป เพียงเพราะต้องการสอบไล่ในระดับชั้นเรียนปกติ ให้ผ่านพ้นไป ให้ได้วุฒิตามที่หลักสูตรกำหนด แล้วรอสอบเข้าคณะที่ต้องการด้วยสูตรลัดแบบกะทันหัน หรือเสียเวลากับบางอย่างที่ไม่จำเป็น)

 

Sponsored Ad

 

    เพราะการที่จะเดินสู่เป้าหมายได้อย่างชาญฉลาด สำหรับคนฉลาดและรุ่นใหม่ คือ การรู้เส้นทางและวิธีการที่ถูกต้อง มากกว่าการติวข้อสอบเพียงอย่างเดียว (ตามแนวคิดและพฤติกรรมแบบเดิม ๆ) เพื่อให้สามารถใช้เวลาอย่างมีประสิทธิภาพ คุ้มค่า อย่างมีเป้าหมาย ควบคู่ไปกับการเรียนในชั้นเรียนปกติได้อย่างลงตัว และสมบูรณ์แบบ

    ในโลกปัจจุบันนี้ เด็กรุ่นใหม่อาจจะมีวิวัฒนาการทางความคิดที่รวดเร็วกว่าคนในอดีต คือ การที่นักเรียนสามารถเรียนรู้ รับข้อมูลข่าวสารได้อย่างหลากหลายรวดเร็วจากทุกช่องทาง รวมถึงการเข้าถึงประสบการณ์ตรงในหลายรูปแบบกิจกรรม จึงไม่แปลกที่เด็กรุ่นใหม่จะมีความคิดความอ่านที่รวดเร็ว มีเป้าหมายที่ชัดเจน แต่ "มักจะ" ขาดการสนับสนุน การเปิดใจยอมรับ และต่อยอดจากผู้ใหญ่บางกลุ่มในสังคมเท่าที่ควร

Sponsored Ad

จึงอาจเกิดกระแสสังคมว่า โรงเรียนเตรียมแพทย์ มีไว้ทำไม เพื่ออะไร ??????

    รวมถึงปัญหาของเด็กเก่งที่อยากเป็นหมอ สอบเข้าได้เพียงเพราะความเก่งในการทำข้อสอบ (ไม่ว่าด้วยวิธีการใดก็ตาม) แต่สุดท้ายกลับพบว่ามันไม่ใช่ในสิ่งที่คิด ก็มักจะเกิดปัญหาการลาออก รีไทร์ ซิ่ว หรือเปลี่ยนเส้นทางใหม่ในภายหลัง ดั่งที่เคยเกิดในสังคมไทยตลอดมา ซึ่งอาจจะทำให้เสียเวลาในระดับมหาวิทยาลัย ซึ่งอาจจะ "สายเกินไปแล้ว"

    การเป็นคนดี นักเรียนที่ดี จะก้าวไปสู่การเป็นนักศึกษาแพทย์ที่ดี และวิชาอาชีพแพทย์ที่ดีในอนาคตได้ หากมีการส่งเสริมในเรื่องของคุณลักษณะของความเป็นคนดี ใฝ่รู้ใฝ่เรียน มีเป้าหมายที่ชัดเจนตลอดเส้นทางที่เลือกเดิน

    เพราะเชื่อหรือไม่ครับ แพทย์บางท่านก็อาจจะไม่ใช่แพทย์ที่ดีทุกคน หากไม่ได้รับการปลูกฝังที่ดีตั้งแต่แรก อาจจะเป็นแพทย์ที่เพียงแค่บังเอิญ "สอบติด" ก็เป็นได้ เพราะสิ่งที่สำคัญคือ คุณลักษณะ ทัศนคติเชิงบวก คุณธรรม จริยธรรม เป็นสิ่งที่ควรปลูกฝังตั้งแต่แรกเริ่ม ยิ่งมีเป้าหมายที่ชัดเจนว่าอยากเป็นแพทย์ สิ่งแรกที่ควรคิดคือ

    เราอยากเป็นแพทย์เพราะอะไร ต้องการช่วยเหลือผู้อื่นอย่าง "มืออาชีพ" ใช่หรือไม่ หรือแค่ต้องการมี "อาชีพแพทย์"

(เป็นเพียงภาพประกอบเท่านั้น)

    จากนั้นจึงควรคิดที่จะค้นหาเส้นทางแล้วเดินตามเป้าหมาย เพราะทุกคนรู้ดีว่า อาชีพนี้เป็นอาชีพที่ต้องเสียสละ ทำงานหนักมากกกก เพื่อผู้อื่น เพื่อส่วนรวม

    เป็นที่ทราบกันดีว่า...ประเทศไทยยังขาดแคลนบุคลากรทางการแพทย์อย่างหนัก พิสูจน์ให้เห็นได้ในยามที่เกิดวิกฤติในตอนนี้ของประเทศ และอีกหลายเหตุการณ์ทั่วโลก แล้วทำไม?เราจึงไม่ควรสนับสนุนเยาวชนที่สนใจในด้านนี้ให้มากขึ้น  (อ่านเนื้อหาฉบับเต็มกดตรงนี้)

ความเห็นจากชาวเน็ต 


.

.

.

ที่มา : Natthachai Ramphoei, Triamwitpattana School : Pre-Medical School

บทความแนะนำ More +

บทความที่คุณอาจสนใจ