จากประเด็นของ "โครงการตู้กับข้าวปันสุข" ซึ่งเป็นโครงการสำหรับเป็นที่พึ่งแก่ผู้ยากไร้โดยการนำอาหารมาใส่ในตู้กับข้าวที่ตั้งไว้ตามจุดต่างๆ โดยได้ไอเดียมาจาก โครงการ Free Pantry ของต่างประเทศ  เพื่อช่วยเหลือและแบ่งปันคนเดือดร้อน

        ซึ่งตอนนี้หลายจังหวัดได้นำไอเดียดังกล่าวไปใช้หลายแห่ง จนมีเสียงชื่นชมในโลกโซเชียลเป็นจำนวนมาก แต่ทว่ากลับพบกลุ่มคนบางพวกที่เข้ามาขนของออกจากตู้ไปจนหมดในหลายพื้นที่ จนทำให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ตามมา

        ล่าสุดเพจเฟซบุ๊ก พระเมธีวชิโรดม - ว.วชิรเมธี ได้เผยแพร่บทความเพื่อให้กำลังใจแก่ประชาชน ที่ริเริ่มตั้ง “ตู้ปันสุข” ทั่วประเทศไทย แม้ว่าจะมีคนเห็นแก่ตัวบางคน หยิบของมากเกินไป แต่ก็ไม่ควรล้มเลิกโครงการดีๆ เช่นนี้ โดยท่านได้เขียนข้อความให้กำลังใจ ดังต่อไปนี้

        "การตั้งตู้ 'ปันสุข' ตามชุมชน เป็นแนวคิดและพฤติกรรมที่ดี ควรค่าแก่การชื่นชมและสนับสนุน แม้ว่าอาจจะมีคนละโมบ (บางคน) ไม่ทำตามกติกา เห็นแก่ข้าวของมากกว่าคนอื่น จึงหยิบไปเกินพอดี แต่คนทำดีก็ไม่ควรท้อใจ ขอให้ทำต่อไป ต่อไป และต่อไป อย่าถอดใจกันง่ายๆ เมื่อผู้คนมีความเข้าใจมากขึ้น พฤติกรรมของผู้รับก็คงจะเปลี่ยนแปลงไป ในทิศทางที่พึงประสงค์มากขึ้นตามลำดับ

        ผู้เขียน (ว.วชิรเมธี) ขอมอบกำลังใจ แก่ผู้ริเริ่มและผู้มีส่วนร่วม “ตู้ปันสุข” ทุกคน ให้ทำต่อไป อย่าได้ท้อถอย โดยขอมอบ “กวีนิพนธ์” ดังต่อไปนี้มาเป็นกำลังใจให้ทุกคน ที่กำลังเบิกบานในการรับใช้เพื่อนมนุษย์ ผ่านโครงการ “ตู้ปันสุข” “กำลังใจให้คนดี” 

        หัวใจของการทำดี ก็คือ เพื่อให้สังคมดีงามและน่าอยู่ขึ้น ไม่ใช่เพื่อให้ตัวคนทำดีเป็นที่จดจำรำลึกถึงของสังคม การทำดีไม่ได้โรแมนติกเสมอไป อาจจะมีทั้งคนเห็นด้วย และคนเห็นต่าง อาจจะมีทั้งคำชมและคำด่า อาจจะมีทั้งคนรักและคนริษยา อาจจะมีทั้งคราบน้ำตาและรอยยิ้ม อาจจะมีทั้งคนเข้าใจถูกและคนเข้าใจผิด อาจจะมีทั้งก้อนหินและช่อดอกไม้ อาจจะมีทั้งความสุขและความทุกข์

        แต่ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม คนทำดีก็ไม่ควรหมดศรัทธาในความดี ขอให้ถือเสียว่า “มารไม่มี บารมีไม่เกิด” และอันที่จริงอุปสรรคระหว่างการทำดี ก็มีส่วนอย่างมีนัยสำคัญ ในการการขัดเกลา เลือกสรร กลั่นกรองคนดี ให้เข้าถึง “ธาตุแท้ของการทำดี” จริงๆ เพราะหากไม่รักในการทำดีจริงๆ จากหัวใจแล้ว เมื่อพบอุปสรรคขวากหนามแม้เพียงนิดหน่อย ถูกถากถาง ถูกค่อนแคะ ถูกแซะ ถูกวิพากษ์วิจารณ์ ใครต่อใครหลายคนก็มักจะเริดร้างห่างเหิน หรือยอมถอดใจหันหลังให้กับการทำดีอย่างง่ายดาย

.

        อุปสรรคระหว่างการทำดี คือเครื่องมือคัดคนดีให้เป็นคนทำดีที่มีคุณภาพ มีความเข้มแข็งทั้งกายและใจ แกล้วกล้าอาจหาญที่จะหยัดยืนทำดีต่อไป ซึ่งหากสอบผ่าน ถนนแห่งการทำความดี (กุศลกรรมบถ) ก็จะราบรื่น และเต็มไปด้วยความสะดวกและสนุกที่จะทำดี และหากพัฒนามาถึงขั้นนี้ ยิ่งทำดี ก็จะยิ่งมีแนวร่วม มากไปด้วยกัลยาณมิตร เพียงแค่คิดจะทำดีก็จะมีแต่คนคอยช่วยเหลือ

โพสต์ต้นฉบับ

ที่มา : เพจเฟซบุ๊ก พระเมธีวชิโรดม - ว.วชิรเมธี