หนุ่มโอดชีวิตขัดสน แต่ละมื้อไม่มีกิน นึกว่าบ้านจน ก่อนรู้พ่อแม่หลอก มีบ้านรวม 35 ล้าน

คอมเมนต์:

"ผมกินได้แค่ซาลาเปากับบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปทุกวัน ทั้งๆ ที่พ่อแม่มีเงินเก็บเป็นล้านๆ!?" หนุ่มกล่าว

    แต่ละครอบครัวมีวิธีสอนลูกไม่เหมือนกัน บางครั้งก็ต้องใช้ไม้แข็งหรือไม้อ่อน แต่การเคร่งครัดเกินไป อาจสร้างความไม่พอใจและไม่เข้าใจแก่ลูก ๆ เช่นกัน ดังเช่นกรณีล่าสุดที่หนุ่มนักศึกษารายหนึ่งในไต้หวัน ได้ออกมาโพสต์ระบายสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อเขาเพิ่งจะรู้ความลับที่พ่อแม่ปิดบังไว้

    หนุ่มรายนี้ได้โพสต์ลงชุมชนออนไลน์ Dcard เล่าว่า นับตั้งแต่เขาเรียนมหาวิทยาลัย พ่อแม่จะให้เงินค่าใช้จ่ายแค่เดือนละ 4,000 ดอลลาร์ไต้หวัน (ราว 4,400 บาท) ซึ่งเขาต้องจ่ายทั้งค่าอาหาร 3 มื้อ ค่าซ่อมรถมอเตอร์ไซค์ ค่าแก๊ส และค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ในชีวิตประจำวัน นั่นทำให้เงินแทบไม่เหลือ

 

Sponsored Ad

 

    ก่อนหน้านี้เขาเคยไปทำงานพิเศษเพื่อจะหาเงินใช้เอง แต่เมื่อพ่อแม่รู้ก็รีบโทร. ไปลาออกกับเจ้านาย พร้อมสั่งให้เขาตั้งใจเรียน หยุดเสียเวลาไปกับการทำงานพิเศษ

    บางครั้งตอนที่เขาต้องอยู่ทำการบ้านจนกลับถึงบ้านดึก พ่อแม่ก็จะโกรธ คิดว่าเขาออกไปเที่ยวเล่น มันทำให้เขาถึงกับเดือด สวนกลับไปว่า "ได้เงินเดือนละ 4,000 ผมกินอะไรไม่ได้ด้วยซ้ำ แล้วจะไปเที่ยวเล่นได้ยังไง"

 

Sponsored Ad

 

    ชายหนุ่มเผยว่า เพราะไม่มีเงิน ทำให้เขากินได้แค่ซาลาเปากับบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปทุกวัน ตลอดช่วง 2 ปีที่ผ่านมาน้ำหนักของเขาลดลงไปกว่า 10 กิโลกรัมแล้ว แต่ก็ยังถูกพ่อแม่ว่า ถามว่าทำไมเขาถึงไม่กินอะไรเลย

    สิ่งที่เกิดขึ้นทำให้เขาคิดมาตลอดว่าพ่อแม่จน จึงตัดสินใจยื่นขอทุนเรียนไป จนกระทั่งไม่นานมานี้เองเขาถึงได้รู้ความจริงว่า ที่แท้สถานะทางการเงินของพ่อแม่ห่างไกลจากคำว่าขัดสนมาก ๆ รายได้ต่อปีของทั้งคู่อยู่ที่ 4.5 ล้านดอลลาร์ไต้หวัน (ราว 4.9 ล้านบาท) แถมยังมีอสังหาริมทรัพย์ 2 แห่ง ที่ตีเป็นมูลค่าตลาด 32 ล้านดอลลาร์ไต้หวัน (ราว 35 ล้านบาท) ยิ่งไปกว่านั้นคือพวกเขามีรถ 4 คัน โดยบางคันเป็นรถหรู รวมถึงมีมอเตอร์ไซค์ด้วย

 

Sponsored Ad

 

    แต่ทั้ง ๆ ที่เป็นแบบนี้พ่อแม่กลับตระหนี่กับลูกชายอย่างเขามาก นั่นทำให้เขาโกรธจัด "ผมไม่รู้จะพูดยังไงกับพ่อแม่ดี"

    ชายหนุ่มบ่นว่า พ่อแม่ไม่เพียงแต่จะแกล้งจนและเมินความทุกข์ยากของเขา แต่พวกท่านยังบอกให้เขาเข้าทำงานในอุตสาหกรรมเทคโนโลยีหลังเรียนจบ และจะต้องให้เงินพวกท่านอีกเดือนละ 30,000 ดอลลาร์ไต้หวัน (ราว 32,000 บาท) หลังจากนั้นทุกเดือน และนั่นทำให้เขายิ่งปวดตับ ชี้ว่าตอนนี้พ่อแม่ทำให้เขาลำบากมาก ทำไมเขาถึงควรให้เงินทั้งคู่อีก ใช่ว่าครอบครัวจะไม่มีเงินสักหน่อย ที่ลำบากอยู่ทุกวันนี้ก็เพราะขี้ตระหนี่เอง

 

Sponsored Ad

 

    ขณะที่ชาวเน็ตถึงกับตะลึงเมื่อได้อ่านเรื่องราวของหนุ่มนักศึกษารายนี้ โดยมีคอมเมนต์เช่น "ถ้าให้เงินค่าขนมนายไม่พอก็ไม่เท่าไหร่ แต่นายยังถูกห้ามไม่ให้ทำงานเนี่ยนะ และยังจะมาร้องขอเงินเดือนละ 30,000 อีก นี่มันพ่อแม่ประเภทไหน", "เดือนละ 4,000 มันไม่พอกินหรอกนะ แล้วนายจะเรียนให้หนักได้ยังไง", "คุณบอกพวกเขาหรือยัง ว่าในยุคนี้เงินแค่ 4,000 มันไม่พอให้ใช้ชีวิตรอดจริง ๆ"

    ทั้งนี้ ต่อมาชายหนุ่มเข้ามาอธิบายเพิ่มว่า เขาไม่เคยรู้สถานะทางการเงินของครอบครัวมาก่อน เพราะพ่อแม่มักจะขับรถที่ผลิตในประเทศ หรือขี่มอเตอร์ไซค์ออกจากบ้าน จากนั้นจึงค่อยไปเปลี่ยนเป็นรถนำเข้าที่ลานจอดรถใกล้ ๆ บ้าน เขาเชื่อจริง ๆ ว่าที่บ้านจน ไม่เคยรู้เลยว่าที่แท้พวกเขามีสถานะทางการเงินที่ดี อย่างไรก็ตาม โชคดีที่ตอนนี้แม่ของเพื่อนได้รู้ถึงสถานการณ์ของเขา ก็เลยยินดีจ้างให้เขาไปเป็นติวเตอร์ ช่วยติวหนังสือให้ลูกชายคนเล็ก โดยนอกจากจะมีค่าจ้างให้ยังจะมีอาหารมื้อเย็นให้ด้วย

ที่มา : Mirror Media

บทความแนะนำ More +

บทความที่คุณอาจสนใจ