ชาวบ้านสุดหวั่น "เสาไฟ" โค้งลงเหมือนจะหัก แจ้งหน่วยงานกลับโยนกันไปมา ผ่านไปเป็นเดือนไม่ได้ซ่อม

คอมเมนต์:

"พื้นฐานความปลอดภัยในชีวิต…มันต้องอยู่กับดวงจริงหรอ"

    กลายเป็นเรื่องราวที่วิพากษ์วิจารณ์ไปทั่วโซเชียล หลังจากที่เพจเฟซบุ๊กชื่อดัง Drama-addict เผยภาพเสาไฟบนถนนหทัยราษฎร์ ที่มีประชาชนถ่ายรูปเอาไว้ได้ มีลักษณะโค้งลงมาเหมือนกำลังจะหัก สร้างความไม่สบายใจให้แก่ประชาชนที่ต้องสัญจรผ่านไปมาบนถนนเส้นนี้เป็นจำนวนมาก

    ผู้ใช้เฟซบุ๊กที่เป็นคนถ่ายภาพ ได้โพสต์ระบุไว้ว่า เราชินกับการให้เกิดเหตุก่อน แล้วค่อยแก้ไขแทนที่จะป้องกันไม่ให้เกิดขึ้นจริงหรือ พื้นฐานความปลอดภัยในชีวิตมันต้องอยู่กับดวงจริงหรือ น้องของเธอทักให้ดูเสาไฟต้นนี้ ที่ ถ.หทัยราษฎร์ ฝั่งข้าง ม.เวสเทิร์น เมื่อวันที่ 3 ก.ค. 64 ว่าเหมือนเสาจะหักเลย เธอจึงรีบโทรไปแจ้งทางการไฟฟ้านครหลวง

 

Sponsored Ad

 

    ทางการไฟฟ้านครหลวงแจ้งว่า พื้นที่ตรงนั้นมีคลองกั้นและเป็นปทุมธานี ให้แจ้งการไฟฟ้าภูมิภาค แต่เมื่อแจ้งไปยังภูมิภาคกลับโทรไม่ติด จึงไปเปิดใบงานออนไลน์ ทางภูมิภาคก็บอกว่า ไม่สามารถดำเนินการได้ เพราะเป็นของทางหลวง

    เธอจึงโทรกลับไปหาการไฟฟ้านครหลวงอีกรอบ ก็ได้ความว่าไม่ใช่พื้นที่ที่ต้องรับผิดชอบ จนเธอต้องขอร้องให้ช่วย ทางการตอบกลับเพียงจะแจ้งผู้ที่เกี่ยวข้องให้ ต่อมาก็ได้ติดต่อไปทางเทศบาลตำบลลำลูกกา วันที่ 6 ก.ค. 64 แต่ได้รับข้อความว่า พื้นที่ดังกล่าวอยู่นอกเขตพื้นที่ ต้องแจ้งทางเทศบาลเมืองลาดสวาย

 

Sponsored Ad

 

    เมื่อวันที่ 7 ก.ค. 64 ก็ได้แจ้งทางเทศบาลเมืองลาดสวาย ได้รับการตอบกลับว่าจะส่งเรื่องให้ผู้เกี่ยวข้อง แต่จนถึงวันที่ 3 ส.ค. 64 ก็พบว่ายังไม่ได้รับการซ่อม ทักไปอีกรอบก็ไม่มีใครตอบกลับ กระทั่งโทรไปวันที่ 29 ส.ค. 64 และทางเทศบาลรับปากจะบอกต่อเรื่องให้ แต่วันที่ 11 ก.ย. 64 เสานี้ก็ยังคงอยู่ในสภาพเดิม


    สมาชิกผู้ใช้เฟซบุ๊กต้นโพสต์กล่าวอีกว่า เธออยากรู้ว่าเวลาเจอไฟฟ้าดับ เสาไฟหัก ในที่สาธารณะต้องแจ้งใคร เธอเหนื่อยมากที่จนถึงวันนี้เสาก็ยังไม่ได้ซ่อม และทำดีที่สุดแล้วที่โทรแจ้ง เสาต้นนั้นถ้าโค่นลงมา มันจะพาดทั้งถนน จนถึงวันนี้ยังต้องกังวลเลยว่า มันจะหักมาเมื่อไหร่

 

Sponsored Ad

 

    เมื่อเรื่องราวดังกล่าวเผยแพร่ออกไป ก็มีหลายคนเข้ามากล่าวว่า ด้วยความที่บริเวณนั้นจะเป็นพื้นที่รอยต่อระหว่าง กทม. กับ ลำลูกกา (ปทุมธานี) และในบริเวณลำลูกกา ก็อยู่ในพื้นที่รอยต่อระหว่าง ตำบลลาดสวาย และบึงคำพร้อยอีก ทำให้หาคนรับผิดชอบได้ยากมากๆ

 

Sponsored Ad

 

    นอกจากนี้ ยังมีคนที่มองว่า การทำงานแบบนี้คือการทำงานแบบไทยแลนด์สไตล์ คือไม่มีการประสานงานใดๆ ทั้งสิ้น โยนไปโยนมา รอให้เกิดปัญหา เป็นข่าวค่อยแก้ไข ซึ่งคนรับกรรมก็คือประชาชน ที่ต้องคอยมาลุ้นว่าเมื่อไหร่จะตกลงมาใส่รถบนท้องถนน

ที่มา : เฟซบุ๊ก Thanasorn Niemthes

บทความแนะนำ More +

บทความที่คุณอาจสนใจ