แม่ม่ายพลิกชีวิต "ด้วยเงิน 15 บาท" ฝ่าวิกฤต สู้จนลุกขึ้นยืนได้อีกครั้ง หล่อเลี้ยงชีวิตครอบครัว

คอมเมนต์:

เยี่ยม! เป็นแรงบันดาลใจที่ดีเลยทีเดียวค่ะ

    นับว่าไม่ง่ายเลยทีเดียว สำหรับชีวิตแม่ม่ายหัวใจแกร่งสู้ชีวิต ในตอนแรกชีวิตแทบจะไม่มีอะไรเลย มีเงินเริ่มต้นชีวิตใหม่แค่ 15 บาท พลิกชีวิต สร้างรายได้เดือนละสามหมื่นต่อเดือน ด้วยการปลูกสวนผักกับคุณแม่ หล่อเลี้ยง 3 ชีวิตในครอบครัวให้ได้ไปต่อ

    วันนี้เราจะพาเพื่อนๆ ไปฟังแนวคิดอดีตผู้ช่วยเจ้าหน้าที่บันทึกข้อมูล อบต.แม่ตื่น อ.อมก๋อย จ.เชียงใหม่ หนึ่งในบุคคลต้นแบบ ที่หันมาเลือกใช้ชีวิตตามแนวทางตัวเอง เปลี่ยนวิถีชีวิตอย่างสิ้นเชิงให้อยู่รอด

 

Sponsored Ad

 

ขอบคุณเงิน 15 บาท สร้างชีวิตใหม่ในบ้าน

     และนี่คือภาพความสำเร็จและความสุขที่ได้รับตลอด 3 ปีกว่าของ นางสวรรยพร ทิพย์พรพรรณ หรือ เจียม วัย 41 ปี หลังตัดสินใจเป็นนายตัวเอง     

     จากแนวคิดมีแผ่นดินธรรมแผ่นดินทองอยู่ในมือ แล้วจะไข่วคว้าสิ่งอื่นไปไย และทำสิ่งที่อยู่ตรงหน้าให้ดีที่สุด ด้วยการปลูกผักบนพื้นที่ 1 ไร่กว่าๆ และขี่มอเตอร์ไซค์เร่ขายในชุมชน 2 ตำบลเล็กๆ คือ แม่ตื่น และ ม่อนจอง ที่ห่างไกลความเจริญและห่างไกล อ.อมก๋อย มากถึง 76 กิโลฯ สร้างรายได้ให้ครอบครัวเดือนละเกือบสามหมื่น

 

Sponsored Ad

 

    “คิดว่าตัวเองตัดสินใจถูกมาก รู้สึกภูมิใจที่นำของที่มีในบ้าน สร้างรายได้มาใช้หนี้ จ่ายค่าเทอม เลี้ยงดูแม่กับลูกอีกสองคน”

    ต้องขอบคุณเงิน 15 บาท สร้างชีวิตใหม่ในบ้าน กว่าจะพบความสุขแท้จริงเช่นทุกวันนี้ ต้องขอบคุณเงิน 15 บาท ที่จุดประกายให้เริ่มต้นสร้างชีวิตใหม่ในวันที่แยกทางกับสามี

 

Sponsored Ad

 

    นางสวรรยพร เล่าชีวิตในอดีตว่า เพราะอยากมีรายได้เลี้ยงดูลูกๆ และแม่ เธอจึงหันมายึดอาชีพปลูกผักปลอดสารพิษตามรอยแม่ทั้งๆ ที่ไม่มีความรู้ด้านการเกษตร โดยเริ่มต้นจากความพอเพียง มีเท่าไรลงทุนไปแค่นั้น ทำทุกอย่างเองทีละเล็กละน้อยบนพื้นที่ 1 ไร่กว่าๆ ทั้งขุดแปลง 10 กว่าแปลง ถางหญ้า

    ในทุกวันที่เริ่มปลูกผักจากเงินลงทุน 15 บาท แรกๆ เธอยอมรับน้ำตาไหลทุกวัน เพราะเจ็บปวดระบมไปหมดทั้งตัว และมือทุกนิ้วแตก แต่เธอไม่เคยท้อแท้ ท่องในใจทุกวันว่าต้องอดทน เพราะมีแม่และลูกๆ ที่ต้องดูแล

 

Sponsored Ad

 

    ส่วนเรื่องไม่มีความรู้ด้านการเกษตรนั้น เธอบอกไม่ใช่อุปสรรค เพราะได้นำความรู้ที่เคยทำงานในโครงการ 9101 รวมถึงการเรียนรู้จากแม่มาใช้ ตั้งเป้าหมายปลูกผักพื้นบ้านทุกชนิดที่คนพื้นถิ่นนิยมกิน อาทิ ผักกวางตุ้ง ผักบุ้ง ผักชี ใบแมงลัก กะเพรา ถั่วฟักยาว ฟักแก้ว หน่อไม้ มะนาว พริกขี้หนู มะเขือยาว บวบ เสาวรส มะเขือ มะเขือพวง คะน้า ฯลฯ แนวคิดที่ปลูกผักหลากหลาย นางสวรรยพร ให้เหตุผลว่า

“ตอนนี้น่าจะมีผักกว่า 50 ชนิด ปลูกอย่างละเล็กละน้อย เวลาเก็บไปขายจะได้มีหลายๆ อย่างให้ลูกค้าเลือก พอลูกค้าเห็นผักหลากหลายก็จะรู้สึกอยากกินผักหลายๆ อย่าง ทำให้ขายผักได้หมดเร็ว”

 

Sponsored Ad

 

    ในการดูแลผัก นางสวรรยพร ดูแลตามธรรมชาติ รดน้ำด้วยระบบที่ทำเอง โดยเดินท่อประปาไปที่สวน วางไว้เป็นจุดๆ แล้วใช้สายยางต่อรด ให้ปุ๋ยขี้หมู ขี้วัว ไม่ใช้ยาฆ่าหญ้า ใช้น้ำหมักใบสะเดายาสูบแทน บางครั้งไม่มีเวลาตัดหญ้า เนื่องจากทำสวนผักกันสองคนแม่ลูกก็ปล่อยให้หญ้าขึ้นสูงสักระยะ เมื่อมีเวลาจะมาดายหญ้า และใช้ทำเป็นปุ๋ย เนื่องจากเวลาดายหญ้าจะมีมูลไส้เดือนเพิ่มขึ้น นอกจากขายผักที่ปลูกเองแล้ว นางสวรรยพรยังเพิ่มพูนรายได้ด้วยการเก็บผักทุกอย่างที่ขึ้นเองตามธรรมชาติมาขาย

 

Sponsored Ad

 

    “ขายผักทุกอย่างที่มีในไร่เท่าที่เก็บได้ ผักริมรั้วก็เก็บมาขาย นิ้วหัวแม่โป้งไม่เคยขาวสะอาดเหมือนคนอื่น ช่วยกันเก็บผักสองคนแม่ลูกแต่เช้า บ่ายโมงแพ็กใส่รถ เย็นขี่มอเตอร์ไซค์เร่ขาย ไม่รู้สึกอายเพราะเป็นอาชีพสุจริต และมีความสุขที่ได้อยู่กับแม่ เวลาออกเร่ขาย เจอคนแก่ คนจร บางคนมีแค่ 5 บาท ก็ให้ฟรี ใครซื้อครบ 50 ก็แถมให้ 10 บาท บ้านไหนมียายอยู่คนเดียวก็มักแวะเอาผักไปให้กินฟรี”

    นอกจากได้เงินมาจุนเจือครอบครัวแล้ว นั่นคือการได้เร่ขายผัก คือ อีกความสุขของนางสวรรยพร เงินที่ได้จากการเร่ขายผัก เฉลี่ยวันละ 800- 1,000 เธอให้แม่เก็บทั้งหมด เหลือแค่เงินเหรียญไว้ใช้ทอนเท่านั้น ในช่วงนี้หลายคนโชคร้ายต้องตกงาน ยังคิดไม่ออกว่าจะทำอะไรดีเพื่อให้มีรายได้ เธอกล่าวทิ้งท้ายด้วยความห่วงใย ขอให้เรื่องราวชีวิตของเธอเป็นแรงบันดาลใจ และลองหันมามองรอบรั้วบ้านตัวเอง หรือบางคนจะมีพื้นที่เล็กน้อย หรือไม่มี ก็สามารถใช้กระป๋องมาปลูกผักกินเองก็ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายได้

Sponsored Ad

    นอกจากนี้ นางสวรรยพรได้ฝากกำลังใจทิ้งท้ายไว้ว่า “คนที่ท้อและเจอปัญหาชีวิตหนักๆ อยากให้ลุกสู้ โดยเฉพาะผู้หญิงอย่าหยาม อย่าหมิ่นตัวเอง หากเราเชื่อว่าเราทำดีที่สุดแล้วจงมั่นใจในตัวเอง ปลูกผักขายเจอคนหลากหลาย ทั้งสนับสนุน ดูถูกดูแคลน หากใจไม่สู้ ไม่ทนก็ไม่สามารถไปต่อได้ ต้องเข้มแข็ง แล้ววันหนึ่งเราจะรู้ว่า การสู้ที่ถูก ต้องไม่เบียดเบียนใคร” 

ที่มา : thairath

บทความที่คุณอาจสนใจ