หมายเหตุ : สามารถรับชมคลิปเต็มได้ที่ด้านล่างบทความค่ะ

    เมื่อเร็ว ๆ นี้ผู้ใช้บัญชีทวิตเตอร์ @Toku4893 ได้ออกมาเผยแพร่คลิปวิดีโอของปลาตัวหนึ่ง ที่มีลักษณะไม่คุ้นตา มีตาโตสีฟ้าสว่าง บวกกับมีปากที่กว้างมาก กำลังโผล่หัวขึ้นมาจากน้ำ โดยผู้ใช้ทวิตเตอร์ท่านดังกล่าวได้ถามว่า "สิ่งปลายาว ๆ นี่คือปลาอะไร หน้าตาเหมือนปลาออร์ฟิช (oarfish) เลย" 

    ซึ่งหลังจากที่คลิปวิดีโอดังกล่าวได้ถูกเผยแพร่ออกไปก็ได้รับความสนใจจากชาวเน็ตจากทั่วโลก โดยมีชาวเน็ตเข้าไปแสดงความคิดเห็นกันมากมาย ซึ่งหลายคนได้แสดงความคิดเห็นว่า ปลาลักษณะนี้ไม่ใช่ปลาออร์ฟิช แต่เป็นปลาน้ำลึก ประเภทกินทุกอย่าง พร้อมกับเผยอีกว่า เป็นเรื่องแปลกมาก ที่ปลาน้ำลึกลักษณะนี้จะมาโผล่ในน้ำตื้นแบบนี้ 

ชมคลิป

คลิปเปิดไม่ออก >>> กดตรงนี้ คลิ๊ก !!!! <<<

    ซึ่งต่อมาพบว่า เมื่อวันใกล้ ๆ กันในปีพ.ศ. 2563 ก็มีผู้ใช้บัญชีทวิตเตอร์ @toythefishing ได้โพสต์คลิปวิดีโอขณะที่พบ ปลาน้ำลึก ขนาดยาว 5 เมตร จำนวน 2 ตัว โผล่แหวกว่ายขึ้นมาเคียงคู่กันเหนือผิวน้ำ ที่บริเวณท่าเรือใกล้ท่าเรือตกปลา ริมชายฝั่งเมืองซาไก ในจังหวัดฟุกุอิ

    ซึ่งหลังจากที่โพสต์ดังกล่าวได้ถูกเผยแพร่ออกไป ก็มีชาวเน็ตเข้าไปแสดงความคิดเห็นโดยได้เผยว่า ปลาชนิดนี้คนญี่ปุ่นเรียกว่า "ผู้ส่งสารจากวังราชามังกร" หรือ "ผู้รับใช้วังมังกร" สมัยก่อนเชื่อกันว่าจะปรากฏตัวเพื่อเตือนภัยแผ่นดินไหว

ชมคลิป

คลิปเปิดไม่ออก >>> กดตรงนี้ คลิ๊ก !!!! <<<

    ตามความรู้ที่เล่าขานกันมาว่า ปลาออร์ฟิชจะขึ้นมายังผิวน้ำและเกยหาดด้วยตัวมันเองก่อนเกิดแผ่นดินไหว ซึ่งก็สอดคล้องกับบางทฤษฎีทางวิทยาศาสตร์ในปัจจุบันที่ว่า ปลาที่อาศัยอยู่ก้นทะเลลึก จะสัมผัสความเคลื่อนไหวของรอยเลื่อนแผ่นดินไหวใต้ทะเลได้ไว และพฤติกรรมผิดปกติของมันอาจบ่งบอกถึงแผ่นดินไหว 

    โดยผู้ใช้ทวิตเตอร์ในญี่ปุ่นจำนวนหนึ่งมองว่าการพบปลาออร์ฟิชในน้ำตื้นอาจเป็นสัญญาณเตือนภัยแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ โดยอ้างอิงจากปรากฏการณ์ก่อนจะเกิดเหตุแผ่นดินไหวขนาด 9.0 แมกนิจูด ทางตะวันออกเฉียงเหนือของญี่ปุ่นเมื่อเดือนมีนาคม พ.ศ. 2554 ซึ่งทำให้เกิดคลื่นสึนามิและมีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก ซึ่งก่อนหน้านั้นมีผู้พบปลาออร์ฟิชเกยตื้นนับสิบตัว และชาวญี่ปุ่นบางส่วนเชื่อว่าปลาออร์ฟิชเป็นลางบอกจากวังเทพเจ้าแห่งท้องทะเล เชื่อมโยงกับนิทานปรัมปราของญี่ปุ่นที่ระบุว่า ถ้าหากปลาดุกขนาดยักษ์พลิกตัวจะทำให้เกิดแผ่นดินไหว

    และจากคำให้สัมภาษณ์เจ้าหน้าที่พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำเมื่อหลายปีก่อนมองว่ามีความเป็นไปได้ที่การว่ายสู่ผิวน้ำจนถูกจับได้หรือถูกคลื่นซัดเกยหาดของเหล่าปลาออร์ฟิชจะเกี่ยวกับเหตุการณ์แผ่นดินไหว แต่ไม่อาจมั่นใจได้ 100% เพราะสาเหตุอาจเกิดจากสภาพอากาศเปลี่ยนแปลงและภาวะโลกร้อนก็เป็นได้ พร้อมกับยืนยันว่า จนถึงขณะนี้ยังไม่มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ใด ๆ ที่จะพิสูจน์ได้ว่าการพบปลาออร์ฟิชในน้ำตื้นจะเกี่ยวโยงกันกับการเปลี่ยนแปลงใต้เปลือกโลกที่เป็นสาเหตุของการเกิดแผ่นดินไหว

    เช่นเดียวกับรายงานอ้างอิงคำให้สัมภาษณ์ของแหล่งข่าวจากศูนย์ชีววิทยาในแคลิฟอร์เนียของสหรัฐอเมริกา ระบุว่า ยังไม่มีผู้ใดพิสูจน์ความเกี่ยวโยงทางวิทยาศาสตร์ระหว่างการเกิดแผ่นดินไหวกับการพบปลาออร์ฟิชได้ เนื่องจากเมื่อปีพ.ศ. 2556-2558 มีปลาออร์ฟิชถูกจับได้ รวมถึงปลาออร์ฟิชที่เกยตื้นบริเวณชายหาดแถบซานตาแคตาลินา และซานตามอนิกา ซึ่งเชื่อมต่อกับรอยเลื่อนเปลือกโลกซานแอนเดรียในสหรัฐอเมริกา ทำให้มีผู้เกรงว่าจะเกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ แต่ก็ไม่มีภัยธรรมชาติใด ๆ เกิดขึ้น จึงมีผู้สันนิษฐานว่า ปลาออร์ฟิชที่เกยหาดหรือว่ายขึ้นสู่น้ำตื้นจนถูกชาวประมงจับได้นั้นอาจมาจากสาเหตุอื่น เช่น เกิดแรงดันหรือพบก๊าซธรรมชาติใต้ทะเล รบกวนที่อยู่อาศัยของปลาออร์ฟิช

    สำหรับ "ปลาออร์ฟิช" หรือที่คนไทยรู้จักกันว่า "ปลาพญานาค" เป็นปลากระดูกแข็งที่ยาวที่สุด อาศัยอยู่ในน่านน้ำลึกอย่างน้อย 200 เมตร และสามารถเติบโตได้ยาวถึง 10 เมตร ตามความเชื่อญี่ปุ่น เผยว่า การปรากฏตัวของปลาออร์ฟิช เป็นสัญญาณเตือนภัยพิบัติ เนื่องจากพวกมันอาจจะรับรู้ถึงแรงสั่นสะเทือนใต้น้ำจากแผ่นดินไหว ไปจนถึงการเกิดสึนามิ

ที่มา : Twitter@Toku4893, Twitter@toythefishing