"อีฟ พุทธธิดา" เผยอาการล่าสุด "ต้อย เศรษฐา" พร้อมเหตุไปเฝ้าพ่อที่รพ.ไม่ได้ แต่กลับให้เลขาฯ เป็นคนเฝ้าแทน

คอมเมนต์:

ขอให้หายไวๆนะคะ บุญรักษา เทวดาคุ้มครองทั้งคู่ค่ะ

    จากกรณีก่อนหน้านี้ สาว "อี๊ฟ พุทธธิดา" ได้ออกมาอัปเดตอาการคุณพ่อ "ต้อย เศรษฐา" หลังรีบนำตัวส่งโรงพยาบาลด่วน เนื่องจากมีอาการแพ้คีโมอย่างหนัก 

    โดยอีฟ ได้โพสต์ภาพอาต้อย พร้อมเล่าอาการอย่างละเอียดว่า "คนแก่ป่วย1 คุณพ่อต้องกลับมาเริ่มให้คีโมใหม่เนื่องจาก หลังจากหยุดคีโมไปแล้ว 3เดือน ก้อนที่ปอดที่เคยมีขนาด 8ซม. ตอนเริ่มต้นรักษา ลดลงเหลือประมาณ 4ซม. ซึ่งก็คือลดไปแล้วครึ่งนึง และยังไม่ได้มีการเติบโตขึ้นก็จริง

 

Sponsored Ad

 

    แต่เนื่องจากคุณพ่อเป็นระยะที่ 4 มันมีการกระจายไปที่อื่นด้วย หนึ่งในจุดที่คุณหมอพบว่าต้องให้ความสนใจและเฝ้าระวังคือตรงต่อมหมวกไต เนื่องจากหลังหยุดไป3เดือน และตรวจรอบนี้พบว่ามีการเติบโตเพิ่มขึ้นถึงไม่พรวดพราด แต่หมดก็ไม่วางใจค่ะ จึงต้องกลับมาให้คีโมใหม่ เปลี่ยนตัวยา และเพิ่มการให้ยาแบบมุ่งเป้า ซึ่งหลังจากให้คีโมในวันที่ 2ที่ผ่านมา

 

Sponsored Ad

 

    คุณพ่อกลับมาพักที่บ้าน และในวันที่ 4 เริ่มอาเจียนและทานอาหารไม่ค่อยได้ ซึ่งก็คือผลค้างเตียงจากการคีโมนั่นเอง คุณพ่อทานอาหารไม่ลงคลื่นไส้ทานแล้วอาเจียนมาก อี๊ฟกลัวหลายวันติดกันเกินจะขาดน้ำและร่างกายจะอ่อนเพลียจัด จึงตัดสินใจให้คุณพ่อเข้าพักให้น้ำเกลือที่รพ. เมื่อวานนี้ช่วงค่ำ และปรากฎว่าเช้านี้คุณพ่อท้องเสีย ซึ่งตุณหมอแจ้งไว้แล้วว่าจะมีอาการท้องเสียซึ่งเป็นผลค้างเคียงของคีโมอีกเช่นกัน ทำให้คิดว่าตีดสินใจถูกแล้วที่ให้ไปให้น้ำเกลือไว้ก่อนไม่งั้นจะเพลียมากและขาดน้ำมากกว่านี้ 

 

Sponsored Ad

 

    ตอนนี้คุณพ่ออยู่ในความดูแลของคุณหมอ พอทานข้าวได้บ้างแต่ยังเพลียมากค่ะคงใช้เวลาอีก 3-4วัน โดยที่ตอนนี้อี๊ฟไม่ได้เฝ้าคุณพ่อเองเป็นเลขาไปเฝ้า ได้แค่ไปส่งและจัดการเรื่องที่รพ. จนถึงเที่ยงคืนเมื่อคืน ขอบคุณทุกๆกำลังใจที่ส่งให้คุณพ่อนะคะ ขอให้ทุกๆคนสุขภาพแข็งแรงๆ ไม่เจ็บไม่ไข้ค่ะ"

    ซึ่งหลังจากเรื่องราวได้ถูกเผยแพร่ออกไป ก็ได้มีชาวเน็ตเข้ามาถาม เหตุใดอี๊ฟ พุทธธิดา จึงไม่ไปเฝ้าพ่อที่รพ.ด้วยตนเอง แต่กลับให้เลขาฯ เป็นคนเฝ้าแทน ล่าสุด อี๊ฟ พุทธธิดา ได้ออกมาเผยเหตุผลแล้วว่าทำไม ตนถึงไม่ได้ไปอยู่เฝ้าพ่อที่รพ. 

 

Sponsored Ad

 

    โดยได้โพสต์รูปคู่กับลูกชาย พร้อมเขียนข้อความเล่ารายละเอียดว่า "เด็กป่วยอีก1 นี่คือสาเหตุที่ไม่ได้ไปเฝ้าพ่อค่ะ เด็กป่วยมาก่อนพ่อหลายวันเลย ตั้งแต่วันที่ 1 ที่ผ่านมา มีบุญมีตัวรุมๆ ช่วงกลางวันและอาเจียน 1 ครั้ง หม่ามี้ไลน์คุยกับป้าหมอ ป้าบอกว่าให้ลองดูอาการก่อน เพราะวัดแล้วไม่มีไข้ก็เช็ดตัวอะไรกันไป

    ปรากฏตอนตี 3.40 มีบุญตัวร้อนจัดวัดที่บ้านได้ 39.7 และมีอาการหนาวสั่นนิดๆ แม่กะป่าป๊าเลยรีบหอบหิ้วมารพ. ด้วยกลัวลูกจะชักเพราะไข้สูง พอมาถึงรพ.วัดไข้ได้ 40.2 จึงโดนจับแอดมิตตามระเบียบ หมอต้องให้น้ำเกลือและยาลดไข้เพื่อให้ไข้ลง และเนื่องจากไข้สูงมากกก มีบุญขาดน้ำและเจาะเลือด เลือดแทบไม่ออกมาเลย

 

Sponsored Ad

 

    พยาบาลดูดไซรินจ์นานมาก ทั้งบีบนวดแขนจิ๋วรีดเลือดกันก็ไม่ออกมา ออกมาน้อยเดียวเท่านั้นก็ส่งตรวจได้ว่าระดับเม็ดเลือดขาวและเกล็ดเลือดยังโอเค จึงคาดว่าไม่ใช่ไข้เลือดออกก็นอนรพ.ไป 3 คืนมีบุญอึออกมา 1 ครั้งถ้วน!!!  ก็ส่งไปเพาะเชื้อและการเพาะเชื้อต้องรอหลายวัน แม่และคุณหมอเห็นว่าไข้เริ่มๆ จะคงที่และลดลงตามลำดับจึงคิดว่าให้กลับไปดูอาการต่อที่บ้าน

    ระหว่างรอผลเพาะเชื้อ กลับมาคืนแรก มีบุญตื่นเวลาเดิมเลยเกือบตี4 มีไข้ 38.5 ก็ให้ทานยา และเช็ดตัวไปไข้ลง ตอนเช้าก็ดูปกติไม่มีไข้สูงอะไรและอึนิ่มเหลวมาล็อตใหญ่ตอนเย็น แม่ก็คิดว่าเอาล่ะ เชื้อคงออกไปละ ปรากฏกลางคืนเวลาเดิมก็ไข้ขึ้นอีก 38 เช็ดตัวทานยาไปอีก พอเช้าก็ดูร่าเริงดี ดีที่ลูกยังทานอาหารได้ทุกมื้อ แต่ไข้ดูเหมือนจะต้องประคองด้วยยา เพราะพอหมดฤทธิ์ยา 4-6ชม. ไข้ก็จะขึ้นทันที

 

Sponsored Ad

 

    แล้วก็มาถึงเย็นเมื่อวานที่แม่ไปส่งคุณตา ก่อนไปจากบ้าน(ช่วง19.00) มีบุญก็ทำท่าจะมีไข้ 38 อีกแม่ให้ทานยา และให้ป่าป๊าเอานอนเพราะต้องพาคุณตาไปรพ. ป้าหมอก็ส่งผลแล็บมาแจ้งพอดีว่าเด็กติดเชื้อ ผลเพาะเชื้อในอุจจาระขึ้นเชื้อแบคทีเรีย Plesiomonas ปกติหายเองได้ แต่ถ้ายังไม่หายดี น่าจะให้ยาฆ่าเชื้อ แม่ก็กะว่าเช้าจะไปเอายาฆ่าเชื้อที่รพ.ให้

Sponsored Ad

    พอแม่กลับมาถึงบ้านเที่ยงคืนกว่าๆ อาบน้ำเข้านอน เวลา 3.53 มีบุญก็ไข้ขึ้นอีกแต่สูงมาก 39.5 อีก แม่จึงให้ยา ibuprofen ตามที่หมอจ่ายไว้ให้ว่าถ้าไข้ถึง 39 ให้ทาน ibu แม่เช็ดตัวและกล่อมนอน ไข้ค่อยๆ ลง จึงบอกป่าป๊าว่าให้ไปหาหมอพรุ่งนี้เช้า พอเช้าแจ้งป้าหมอ จึงตัดสินใจให้กลับมานอนให้ยาที่รพ. อีกครั้งเพราะที่ไข้ขึ้นช่วงกลางคืนเพราะไม่มีน้ำเกลือคอยช่วยขับเชื้อออกด้วย

    เพราะช่วงกลางวันน้องดื่มน้ำได้ตลอด แต่กลางคืนพอหลับไข้ขึ้นเพราะขาดน้ำ จึงต้องกลับมานอนรพ.อีกครั้ง 😅😅 นี่คือสาเหตุที่แม่ๆ ไม่สามารถแยกร่างได้ 😅😅 ได้แต่คอยเช็กกันผ่านเทคโนโลยีกัน หวังว่าทั้งลูกทั้งคุณตาจะหายโดยเร็ว ไม่งั้นแม่ๆ จะได้นอนรพ.อีกคนแน่ 😅😅 #สู้ๆเนาะ

ที่มา :  IG yvessirachaya

บทความที่คุณอาจสนใจ