อีกหนึ่งประเด็นดราม่าในโลกออนไลน์ หลัง องค์การนิสิตจุฬาฯ มีแถลงการณ์ ยกเลิกอัญเชิญพระเกี้ยว ก่อนเกิดการถกเถียง เพราะส่วนหนึ่งมองอยากให้เกิดความเท่าเทียม แต่อีกฝ่ายมองว่าเป็นการทำลายประเพณีวัฒนธรรม

    ย้อนกลับไปก่อนหน้านี้ องค์การนิสิตจุฬาฯ ได้มีแถลงการณ์ออกมาว่า จะยกเลิกกิจกรรมขบวนอัญเชิญพระเกี้ยว ที่เป็นสัญลักษณ์สูงสุดของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ที่เป็นส่วนหนึ่งของงานฟุตบอลประเพณีจุฬาฯ-ธรรมศาสตร์ ที่จัดขึ้นเป็นประจำทุกปีโดยการอัญเชิญพระเกี้ยวแต่ละครั้ง จะต้องมีผู้อัญเชิญพระเกี้ยว นั่งบนเสลี่ยงซึ่งถูกแบกโดยนิสิตกว่า 50 คน 

    องค์การนิสิตจุฬาฯ ได้มองว่ากิจกรรมนี้เป็นการสนับสนุนและสะท้องให้เห็นถึงระบอบอำนาจนิยม เพราะเป็นการยกกลุ่มคนหนึ่งสูงกว่าอีกกลุ่มหนึ่ง นอกจากนี้ยังเป็นการสนับสนุนค่านิยมมาตรฐานความงาม ทำให้เกิดความรู้สึกว่าคนเรานั้นไม่เท่าเทียมกัน 

    นอกจากนี้ คณะกรรมการองค์การนิสิตจุฬาฯ ได้ระบุว่า กิจกรรมดังกล่าวเป็นกิจกรรมที่ล้าหลังอันขัดต่อคุณค่าสากลอย่างประชาธิปไตย ความเท่าเทียม และสิทธิมนุษยชน จึงมีมติ 29:0 เสียงให้มีการยกเลิกกิจกรรมนี้ เพื่อยุติธรรมเนียมปฏิบัติที่สะท้อนถึงความไม่เท่าเทียมกันของคนในสถาบันการศึกษา

    ชาวเน็ตเองก็ได้ถกเถียงบนโลกออนไลน์ เมื่อมีทั้งผู้ที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วยกับแถลงการณ์ โดยผู้ที่ไม่เห็นด้วยได้อ้างว่า การยกเลิกอัญเชิญพระเกี้ยวถือเป็นการทำลายวัฒนธรรมประเพณีที่มีมานาน

    บางส่วนก็อ้างว่า “พระเกี้ยว” สัญลักษณ์และความภาคภูมิใจของชาวจุฬาฯ หากยกเลิกไปเท่ากับไม่มีสิ่งใดสื่อถึงความเป็นจุฬาฯ ดังนั้นควรยกเลิกกิจกรรมทุกอย่างไปหมดดีหรือไม่

    อย่างไรก็ตาม ชาวเน็ตส่วนใหญ่เห็นด้วยกับแถลงการณ์ยกเลิกอัญเชิญพระเกี้ยว โดยมองว่าถือเป็นการปรับเปลี่ยนความคิดไปตามยุคสมัย โดยมองว่าข้อความในแถลงการณ์เป็นการยกเลิกการแบกพระเกี้ยว ไม่ใช่การยกเลิกพระเกี้ยว จึงไม่น่าจะเป็นการทำลายวัฒนธรรมอย่างที่กล่าวหา

    ด้าน ป้าจิ๊ อัจฉราพรรณ ศิษย์เก่าคณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้โพสต์ภาพ "พระเกี้ยว" ลงในอินสตาแกรมส่วนตัว พร้อมระบุข้อความว่า "วันปิยมหาราช พระคุณของแหล่งเรียนมา จุฬาลงกรณ์ ความภาคภูมิใจที่สุดในชีวิต นิสิตเก่าดีเด่น คณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ฉันมีหน้าที่สำคัญ ทำงานรับใช้ประเทศชาติ เทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ เหนือเศียรเกล้า"

.

    ส่วน นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดีอีเอส ก็ได้ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีเช่นกัน โดยระบุว่า คนพูดว่า ไม่มีใครอยากมาแบกเสลี่ยงอัญเชิญพระเกี้ยว ผมยืนยันว่าไม่ใช่ข้อเท็จจริงแน่นอน เพราะสมัยตอนที่ผมเรียนอยู่ มีแต่คนแย่งกันไปแบกเสลี่ยง เพราะถือเป็นความภาคภูมิใจที่เราได้ทำหน้าที่นี้ในงานฟุตบอลประเพณีฯ 

    แม้การเวลาจะเปลี่ยนไป ผมยังเชื่อว่าหรือคุณค่าและความรู้สึกของนิสิต จะยังไม่เปลี่ยนไป ความภาคภูมิใจของพวกเรายังคงอยู่ เพียงแต่คนบางกลุ่มพยายามด้อยค่าสิ่งเหล่านี้ ซึ่งผมคิดว่าไม่ถูกต้อง ดังนั้น คนที่จะทำอะไร ควรฟังคนอื่นด้วย ไม่ใช่คิดถึงแต่ตัวเอง

ชมคลิป

คลิปเปิดไม่ออก >>> กดตรงนี้ คลิก <<<

ที่มา : ไทยรัฐออนไลน์, ข่าวสด, gee_yoga