"เกาหลีใต้" จากประเทศที่คน "มีรายได้เท่าไทย" พัฒนาประเทศด้วย 4 แนวคิด เพราะใส่ใจคุณภาพประชาชน

คอมเมนต์:

"เกาหลีใต้" จากประเทศที่คน "มีรายได้เท่าไทย" พัฒนาประเทศด้วย 4 แนวคิด เพราะใส่ใจคุณภาพประชาชน

    ย้อนกลับไปเมื่อ 60 ปีก่อน หรือในปี 1960 คนไทยและเกาหลีใต้นั้นมีรายได้เฉลี่ยต่อเดือนไม่ต่างกันมากนั้น และอยู่ที่ประมาณ 440 บาท จนกระทั่งในปัจจุบัน เกาหลีใต้มีรายได้เฉลี่ยต่อเดือนอยู่ที่ 84,000 บาท แต่ประเทศไทยนั้นอยู่ที่ 20,000 บาท (ย้ำว่ารายได้เฉลี่ยต่อเดือน เมื่อเทียบกับประชากรทั้งประเทศ)

    ถ้าคิดแบบง่าย ๆ เราจะเห็นได้ว่า ตัวเลขรายได้ห่างกัน 4 เท่าเลยทีเดียว ถ้าไม่รวมกับพวกการกระจายรายได้ ความเหลื่อมล้ำ หรือปัจจัยอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง

 

Sponsored Ad

 

    เกาหลีเป็นประเทศที่ถูกแบ่งแยกเป็นเขตเหนือ-ใต้ หลังสิ้นสุดสงครามโลกครั้ง 2 และพึ่งพาผลผลิตทางการเกษตรเป็นหลัก และในตอนนั้นถูกจัดว่าเป็นประเทศที่ยากจนที่สุดในเอเชียตะวันออก และตอนนี้กลายเป็นประเทศที่พัฒนาระดับชั้นนำของเอเชียได้สำเร็จ... 

    แล้วเขาทำได้ยังไงกันนะ เราไปดูกันเลยค่ะ !!!

    - พัฒนาทักษะแรงงาน จากประเทศเพาะปลูก สู่อุตสาหกรรม

 

Sponsored Ad

 

    - พัฒนาการค้าขายกับต่างประเทศ

    - ส่งเสริมงานวิจัย และสร้างภายในประเทศให้แข็งแกร่ง

    - ต่อยอดเทคโนโลยีสู่โลกอนาคต

    รัฐบาลเกาหลีใต้ได้ส่งเสริมและพัฒนาทักษะแรงงาน จากประเทศที่เพาะปลูกสู่การทำอุตสาหกรรม เดิมทีชาวบ้านจะทำการเลี้ยงสัตว์แบบตามมีตามเกิด ใช้แรงงานเกินความจำเป็น กลายเป็นได้ของที่มีคุณภาพต่ำ ใช้เวลาสูง และสิ้นเปลืองทรัพยากร แต่ผลพลิตที่ได้กลับตรงไม่ได้สูงตามไปด้วย

    ต่อมาเกาหลีใต้ได้วางแผนระบบประเทศใหม่ ปรับเปลี่ยนโครงสร้างจากประเทศด้วยการลงทุนกับการศึกษา ต้องทำให้คนในประเทศเข้าถึงการศึกษา พอคนมีความรู้ มีทักษะ มีความสามารถแล้ว ก็มาทำงานในระบบ และผลิตสินค้าออกสู่ตลาดภายนอก 

 

Sponsored Ad

 

    เกาหลีใต้ได้รับความสนใจจากนักลงทุนทั่วโลกที่อยากทำธุรกิจ และลงทุนตั้งโรงงาน รัฐบาลเล็งเห็นถึงทรัพยากรที่มีจำกัดในประเทศ แต่กลับสร้างมูลค่ามากขึ้นกว่าเดิมได้สำเร็จ

    ความรู้ที่ประชาชนได้รับมานั้น ได้นำไปพัฒนาด้านอุตสาหกรรม และเกษตรกรรม จนนำไปสู่การแปรรูปและส่งออกสินค้าเกษตรได้มาขึ้นกว่าเดิม 

    เกาหลีใต้ได้พัฒนาการค้าขายระหว่างประเทศ ในช่วงปี 1970 การเติบโตของการส่งออกขึ้นจาก 18% เป็น 35% ซึ่งมูลค่าการส่งออกกลายเป็นสิ่งสำคัญของเศรษฐกิจเกาหลีใต้ไปแล้ว และ GPD ประเทศขยับขึ้นมาถึง 56% ในปี 2012

 

Sponsored Ad

 

    ในปี 1960 มีธุรกิจมากมายได้เกิดขึ้น ซึ่งเหล่านักลงทุนจะเรียกกลุ่มนี้ว่า แชโบล ซึ่งเป็นกลุ่มธุรกิจขนาดใหญ่ของเกาหลี เช่น SAMSUNG, HYUNDAI และอีกมากมาย ที่มีอิทธิพลต่อคนในประเทศ การเมือง และอำนาจการต่อรอง

    เกาหลีใต้ ได้ทุ่มงบมหาศาลในการวิจัยมาตั้งแต่อดีต ควบคู่กับการนำเข้าเทคโนโลยีจากต่างประเทศ และศึกษาเทคโนโลนีนำเข้าเหล่านั้นมาเปลี่ยนเป็นของตัวเอง ตีแบรนด์เป็นของตัวเอง และในที่สุดเกาหลีใต้ได้พัฒนาสิ่งเหล่านั้นจนสามารถส่งออกเทคโนโลยีขนาดใหญ่ได้ดด้วยตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้า อุปกรณ์โรงงาน รถยนต์ ชิ้นส่วนเรือ ชิ้นส่วนคอมพิวเตอร์ โทรศัพท์มือถือ ทีวี และของอื่นๆ อีกมากมาย 

 

Sponsored Ad

 

    ปัจจุบันรัฐบาลก็ยังทุ่มทุนเกี่ยวกับการวิจัย สูงถึง 1.8 ล้านล้านบาทต่อปีกันเลยทีเดียว เพื่อพัฒนาเทคโนโลยีสมัยใหม่ให้ดีกว่าเดิม แต่ต่อยอดไปสู่โลกอนาคตที่นำสมัยและก้าวหน้า 

 

Sponsored Ad

 

    จากยุครุ่งเรืองของเกาหลีใต้ที่จะกลายเป็นมหาอำนาจด้านเทคโนโลยีส่งออก แต่จู่ ๆ จีนก็พัฒนาและสร้างเทคโนโลยีสมัยใหม่ได้อออกมาได้แบบก้าวกระโดด เนื่องจากจีนมีทรัพยากรมากล้น ผู้คนก็มีมหาศาล  และได้ต้นแบบมาจากเกาหลีใต้ นั่นคือการรับจ้างผลิตสินค้าให้ประเทศต่าง ๆ และในขณะเดียวกันก็วิจัยโครงสร้าง เทคโนโลยี และพัฒนาจนกลายมาเป็นของตัวเอง จนตอนนี้ก็กลายมหาอำนาจในโลกไปในที่สุด

    รัฐบาลเกาหลีใต้ได้เล็งเห็นถึงผลกระทบในครั้งนี้ จึงได้คิดทางออกไว้ 2 ทางด้วยกัน 

Sponsored Ad

    ทางแรก นั่นก็คือ การส่งเสริมวัฒนธรรม ขายความเป็นเกาหลีออกไปให้ทั่วโลกได้เห็น ไม่ว่าจะเป็นละคร ซีรี่ย์ แบรนด์สินค้าทั้งของรัฐฯและเอกชน 

    และทางที่สองก็คือ การพัฒนาด้านอินเทอร์เน็ตและเทคโนโลยีสมัยใหม่ จะเห็นได้ว่าหลังปี 2010 เกาหลีได้พัฒนาอินเทอร์เน็ตจนสามารถเร็วที่สุดในโลกได้ การใช้เทคโนยีสร้างประเทศ จนกลายเป็นต้นแบบของเมืองอัจฉริยะ และการจายไปทั่วประเทศ รวมทั้งมีการพัฒนาระบบ 5G และ AI ให้หุ่นยนต์เข้ามามีบทบาทในอุตสาหกรรมและชีวิตของประชาชนมาขึ้นด้วย

    และลองมองย้อนกลับมาที่เมืองไทย... 

    ก่อนหน้านี้ไทยและเกาหลีเหมือนเป็นพี่น้องที่คลานตามกันออกมา ทั้งสองประเทศมีการทำเกษตรกรรมเป็นหลัก พึ่งพารายได้ด้านอุตสาหกรรม มีการรับจ้างผลิตเทคโนโลยีเหมือนกัน 

    แต่เกาหลีใต้กลับส่งเสริม และผลิตสินค้าในแบรนด์ของตัวเองได้ออกมาได้ และส่งออกไปทั่วโลก มีแบรนด์ต่างๆ มากมายทั้ง LG, Hyundai, KAI, Samsung แบรนด์เครื่องสำอางอีกมากมาย รองเท้า เสื้อผ้า และอีกมากมายที่เราเห็นกันทั่วโลก จนสามารถขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศได้

    และตอนนี้เกาหลีกำลังจะขยับตัวเองไปสู่ประเทศแห่งนวัตกรรมของโลกแล้ว... 

    แล้วคุณคิดว่า เราควรเดินตามทางเกาหลี จีน เมื่อก่อน หรือทำตัวเองให้พร้อมเพื่อเข้าสู่ภาคอุตสาหกรรม หรือเปลี่ยนตัวเองเข้าสู่ยุคใหม่ในการสร้างนวัตกรรมใหม่ที่เป็นของตัวเอง เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยว และการส่งออกซึ่งเป็นรายได้หลักของเมืองไทย... แล้วคุณคิดว่าเมืองไทยเราควรพัฒนาไปในทิศทางไหนดี ลองคอมเมนต์กันดูได้นะคะ 

ที่มา : billionmindset

บทความที่คุณอาจสนใจ